ขึ้นชื่อ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ดแล้ว พวกเขาถือเป็นทีมที่มีแฟนบอลในบ้านเราไม่น้อยนะครับ เพราะนอกเหนือจากการที่เคยเป็นทีมที่เล่นเร้าใจ ได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอยู่ช่วงนึงแล้ว แพสชั่นของแฟนบอลจากแดนอีสานของเกาะอังกฤษ ที่เรียกกันว่า “ทูน อาร์มี่” ทีมนี้ ยังขึ้นชื่อลือนาม ไม่แพ้สโมสรใด
แม้ในช่วงราว 10 ปีหลัง พวกเขาจะหัวหกก้นขวิด มักจะกลายเป็นทีมที่ต้องลุ้นหนีเอาตัวรอดจากการตกชั้นในพรีเมียร์ลีก รวมถึงยังมี 2 ซีซั่นที่ต้องกลับไปตั้งต้นที่แชมป์เปียนชิพใหม่ แต่แรงสนับสนุนจากแฟนบอลทั้งชาวจอร์ดี้เอง และแฟนสาลิกาจากประเทศอื่น ก็ยังคงเต็มไปด้วย “แพสชั่น” และ “ความหวัง” ไม่เปลี่ยนแปลง
เหตุผลของการตกต่ำของทีม “สาลิกาดง” ก็หาคำตอบไม่ยากนัก หากถามแฟนสาลิกาซัก 10 คน น่าจะมีซัก 11 คน ที่ชี้นิ้วไปที่ “ไมค์ แอชลี่ย์” เศรษฐีชาวผู้ดี เจ้าของแบรนด์ร้านขายส่งอุปกรณ์กีฬา “สปอร์ตไดเร็ค” ซึ่งเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรตั้งแต่ปี 2007 เพราะนอกเหนือจากจะไม่สนับสนุนงบประมาณทำทีมให้มันสมฐานะตัวเอง และสโมสรแล้ว เขายังเป็นตัวป่วนที่ทำให้ผู้จัดการทีมส่ายหัวไม่อยากร่วมงานด้วย อีกต่างหาก
โดยกุนซือคนปัจจุบัน ที่เหล่าสาลิกาสนับสนุนมาตลอดอย่าง “ราฟา เบนิเตซ” ซึ่งอยู่ช่วยทีมมาตั้งแต่ช่วงปลายฤดูกาล 2015/16 ก็เป็นรายล่าสุดที่ตัดสินใจโบกมือลาทีมไป หลังตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทีม แม้เจ้าของทีมอาจจะเปลี่ยนมือเป็น “ชีค คาห์ลิด บิน ซาเยด อัล เนฮายาน” จากดูไบก็ตาม ถ้าการเจรจาซื้อจากแอชลี่ย์ลุล่วง
การเทคโอเวอร์ของมหาเศรษฐีที่รวยกว่า และน่าจะลงทุนกับทีมมากกว่าจากดูไบ จะเกิดขึ้นหรือไม่ ไม่มีใครอาจรู้ได้ แต่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ “สาลิกาดง” ต้องรีบเจรจาหากุนซือใหม่มาทดแทนราฟาโดยเร็ว เพราะนอกจากความไม่แน่นอนในแผนการเตรียมทีมแล้ว ปรีซีซั่นฤดูกาลใหม่ ก็กำลังจะเริ่มในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน นับจากนี้แล้ว
วันนี้เลยถือโอกาสรวบรวมเหล่ากุนซือที่ดูน่าจะมีความเป็นไปได้ (บางคนบ่อนถูกกฎหมายที่นู่น เค้าก็ออกราคามา บางคนเราก็เอาตามที่เราเห็นว่าเหมาะ) ที่จะมารับ “เผือกร้อน” ต่อจากราฟา ว่ามีหน้าคร่าตาใครกันบ้าง
มิเกล อาร์เตต้า (แมนฯ ซิตี้ – ผู้ช่วยผู้จัดการ)
ชื่อที่เหล่าสื่อ และบ่อนแบบถูกกฎหมายยกขึ้นมาให้เป็นเต็ง 1 คือ “มิเกล อาร์เตต้า” ผู้ช่วยกุนซือชาวสแปนิชของ “เป๊บ กวาดิโอล่า” ที่เกจิคิดว่าถึงเวลาซักทีที่เขาจะบินเดี่ยว รับงานกุนซือเต็มตัวได้แล้ว
สิ่งสนับสนุนการอยากบินเดี่ยวของอาร์เตต้า ก็คือตัวเขาเองเคยประกาศลาออกจากการเป็นผู้ช่วยของเป๊บ ตั้งแต่ฤดูกาล 2017/18 จบลง โดยตอนนั้นเขาเป็นตัวเต็งลำดับต้นๆ ที่จะได้กลับไปคุมทีมเก่าอย่างอาร์เซน่อล ก่อนที่สุดท้ายคนที่ได้รับแต่งตั้งจะเป็น “อูไน เอเมรี่” อย่างที่ทราบกัน อาร์เตต้า เลยกลับมารับจ๊อบเดิมที่ซิตี้อีกครั้ง
จุดเด่นของอาร์เตต้า คือเขารับปรัชญาของเป๊บมาเต็มที่ เขาเป็นคนแรกที่ซิตี้เรียกมาช่วยงาน เมื่อตอนเป๊บเลือกมาบุกพรีเมียร์ลีกกับทีม “เรือใบสีฟ้า” ไม่เพียงแต่รูปแบบการเล่น แต่ความเข้มงวด และการตัดสินใจต่างๆ เขาได้รับคำชมจากเป๊บบ่อยๆ ว่าเป็นคนสำคัญ
ข้อเสียก็คงไม่ต่างจากปัญหาเดิมๆ ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของทีมเป็นใคร และพร้อมสนับสนุนแค่ไหน เพราะอาร์เตต้าน่าจะมีสไตล์ที่แตกต่าง และอยากมีนักเตะที่เขาคิดว่าเหมาะกว่าที่มีอยู่
อลัน พาร์ดิว (ว่างงาน)
ตัวเลือกที่ไม่ค่อยอยากจะแนะนำเท่าไหร่ แต่เขาก็มีชื่อขึ้นมาเป็นเต็งต้นๆ ในฐานะที่เป็นคนคุ้นเคยที่ได้รับความไว้ใจจากแอชลี่ย์ เคยคุมสาลิกาดงนานถึง 4 ปี ตอนที่ลาทีมไปตอนนั้น ก็เพราะเขาอยากกลับไปช่วยอดีตทีมที่เขาผูกพันอย่างคริสตัล พาเลซ ไม่ได้ถูกปลดเฮียตือแกปลดแต่อย่างใด
ข้อดีของพี่แก คือเป็นคนที่พร้อมรับงาน ไม่ว่าข้อแม้จะถูกจำกัดแค่ไหนก็ตาม ถ้าเจ้าของเปลี่ยนมือ เขาอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่น่าอภิรมย์นัก แต่ถ้ายังเป็นแอชลี่ย์ ภาษีของพาร์ดิวก็ดีไม่น้อย
ส่วนเรื่องฝีมือของพี่แก จริงๆ ก็ไม่ถึงกับขี้ริ้วขี้เหร่ แต่เชื่อเถอะว่าแฟนสาลิกาดง อยากเห็นทีมยกระดับไปมากกว่าที่เป็นอยู่ การดึงกุนซือรายนี้กลับมาคุมอีกหน จึงดูเป็นทางเลือกที่เห็นผลเสียมากกว่าผลดี
แกรี่ มังค์ (ว่างงาน)
กุนซือหนุ่มที่เคยมาแรงน่าจับตาตอนที่ขึ้นมาคุม “หงส์ขาว” สวอนซี แต่พอผลงานไม่ดีแล้วโดนปลดไป การคุมทีมหลังจากนั้นก็มีแต่ระดับแชมป์เปียนชิพ กับลีดส์, มิดเดิลสโบรซ์ และเบอร์มิงแฮม แถมพี่แก ก็อยู่คุมแต่ละทีมไม่นาน โดนปลดเรียบวุธ
จุดเด่นของมังค์ คือเป็นกุนซือหนุ่มที่มีความมั่นใจ และมีจุดเด่นในการปลุกสปิริตของนักเตะในทีม ซึ่งพอฟังไปฟังมา ก็เหมือนเตรียมหากุนซือนักสู้มาพาทีมหนีตกชั้นยังไงก็ไม่รู้!
ต้องยอมรับว่ามังค์ยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก ถ้าดูจากผลงานที่ผ่านมา ถ้าจะตั้งแก บางทีคนที่ประสบการณ์สูงกว่าอย่างพาร์ดิว หรือคริส ฮิวจ์ตัน ยังอาจจะเหมาะกว่าเสียอีก
คริส ฮิวจ์ตัน (ว่างงาน)
อีกหนึ่งคนคุ้นเคย ที่เคยทำงานเป็นสตาฟฟ์ และเคยขึ้นมาเป็นกุนซือใหญ่ให้กับสาลิกาดง แม้จะคุมทีมถาวรได้ไม่เต็มฤดูกาล ก็โดนปลดซะก่อนในเดือน ธ.ค. ปี 2010
สิ่งที่ฮิวจ์ตันไม่ต้องพิสูจน์มีอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกคือความซื่อสัตย์ และทุ่มเทให้กับสโมสรแห่งนี้ แฟนบอลโอเคกับแกอยู่นะครับ ขนาดตอนปลด ยังมีแฟนจำนวนไม่น้อย สนับสนุน และออกมาขอบคุณสิ่งที่แกทำให้กับทีมมาเนิ่นนาน
อย่างที่สองคงเป็นเรื่องของประสบการณ์ โดยเฉพาะ 4 ปีครึ่งที่เขาคุมไบรท์ตัน ซึ่งแม้สุดท้ายจะโดนปลดไปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาจบลง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามีฝีมือคุมทีม และการแก้เกมที่ใช้ได้เหมือนกัน
โชเซ่ มูรินโญ่ (ว่างงาน)
ที่อังกฤษนี่ “จ่ามู” ของเรา มีชื่อขึ้นมาเป็นเต็ง 2 เต็ง 3 เชียวนะครับ แน่นอนว่าส่วนนึงคือการตั้งเพื่อ “ล่อแมงเม่า” แต่อีกส่วนนึง ก็เพราะเขาน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ในข้อแม้ที่การเทคโอเวอร์โดยมหาเศรษฐีจากตะวันออกกลาง ประสบความสำเร็จ
ว่ากันว่า “จ่ามู” มีความกระหายที่จะพิสูจน์ฝีมือในพรีเมียร์ลีก ที่เขาล้มเหลวกับเชลซี และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงหลัง แน่นอนว่าเขาจะช่วยพัฒนาสาลิกาดงขึ้นมาไม่มากก็น้อย แต่เครื่องหมายคำถามคือแกต้องโละทีม หรือทุ่มทุนหานักเตะเข้ามามากมายแค่ไหน หากแกคิดว่ามันคุ้มค่าจะเอาชื่อเสียงมาเสี่ยงอีกครั้ง
เอ็ดดี้ ฮาว (บอร์นมัธ)
คนหนุ่มมาแรงที่เคยมีข่าวกับหลายทีม เพราะฝีไม้ลายมือในการทำทีมบอร์นมัธ ให้สถานะมั่นคงในพรีเมียร์ลีก เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีว่าเขาน่าจะได้รับโอกาสคุมทีมที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ในอนาคตอันใกล้
ฮาวปัจจุบันอายุแค่ 41 ปี แต่ประสบการณ์การคุมทีมรวมทั้งหมดของเขา มีสูงเกิน 500 นัดไปแล้ว จุดเด่นคือความชื่นชอบในการปั้นนักเตะดาวรุ่งขึ้นมาเป็นแกนหลักของทีม รูปแบบการเล่นของเขาก็ไม่น่าเบื่อ สร้างความลำบากให้ทีมตรงข้ามเสมอ หากวันไหนทีมของเขาเข้าฟอร์ม
ฮาว ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ไม่ว่าเจ้าของทีมจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ปัญหาน่าจะอยู่ที่ ตัวเขาเองอาจจะยังไม่คิดจะย้ายออกจากบอร์นมัธ สโมสรที่เขาปลุกปั้นมากับมือตั้งแต่ระดับลีกทู
สตีเว่น เจอร์ราร์ด (กลาสโกว์ เรนเจอร์ส)
มาถึงตัวเลือกที่เริ่มจะหวือหวาขึ้นไปอีกระดับ กับ “สตีวี่จี” สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานของ “หงส์แดง” ซึ่งตอนนี้กำลังฝึกปรือฝีมืออยู่กับเรนเจอร์ส ในสก็อตแลนด์
สิ่งที่จะทำให้ไอเดียนี้เป็นไปได้คือตัวพี่เจิดเอง ต้องคิดว่าเขาพร้อมแล้วที่จะมาพิสูจน์ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งมองภาพรวมตอนนี้แล้ว ยังคิดว่ามันอาจจะเร็วไปหน่อย ยิ่งกับข่าวก่อนหน้านี้ที่เขาปฏิเสธไม่มาเป็นตัวแทนของ “แฟรงค์ แลมพาร์ด” ที่ดาร์บี้ ในกรณีที่ “แกะเขาเหล็ก” เสียแลมพ์ให้กับเชลซีไป
อีกข้อดึงดูดสำคัญ ที่อาจจะพอทำให้มันเป็นไปได้ คือเรื่องของ “แพสชั่น” ของแฟนสาลิกาดงเองนี่แหละ เพราะสตีวี่จี เลือกไปคุมเรนเจอร์ส ส่วนนึงก็เพราะแฟนบอลเป็นสำคัญ
อาฟรัม แกรนต์ (นอร์ธอีสต์ ยูไนเต็ด – ที่ปรึกษาทางเทคนิค)
เห็นชื่อกันแล้ว อาจจะถึงกับสะดุ้ง เพราะนอกจากจะ(เกือบ)ลืมชื่อแกไปแล้ว ผลงานที่แกเคยคุมทั้งเชลซี, ปอร์ทสมัธ และเวสต์แฮม ก็ไม่น่าพิสมัย ควรค่าแก่การเอามาเป็นกุนซือให้ทีม
มันก็จริงแหละว่าถ้าเอาที่ผลงาน แกเป็นตัวเลือกที่แย่มาก แต่สิ่งที่อาจจะทำให้เกิดเซอร์ไพรส์ คือการที่แกมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการจัดการทีมในระดับผู้อำนวยการฟุตบอล ซึ่งบางที หากมีการเทคโอเวอร์ขึ้นจริงๆ ผู้บริหารมือใหม่ อาจจะเรียกใช้บริการแก เพื่อหวังใช้ประสบการณ์ เริ่มต้นปูทางทีมกันใหม่
นอกจากความเป็นไปได้ในตำแหน่งกุนซือ การจะเอาแกมาเป็นผู้อำนวยการเทคนิค ก็ดูมีภาษีขึ้นมาซะงั้น
ตัวเลือกอื่นๆ
ตัวเลือกอื่นๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย เพียงแต่มันคงจะเห็นชัดเจน เมื่อฟันธงได้ว่าจะมีเจ้าของใหม่หรือเปล่า?
ถ้ายังคงเป็น “ไมค์ แอชลี่ย์” ชื่อที่แฟนบอลลีกผู้ดีคุ้นเคย อย่างโทนี่ พูลิส, โคล้ด ปูแอล, เคลาดิโอ รานิเอรี่ หรือ มาร์ค ฮิวจ์ ก็ดูมีความเป็นไปได้ แม้ว่าน่าจะทำให้ “ทูน อาร์มี่” ส่ายหัวกันอีกรอบก็ตาม
แต่ถ้า “ท่านชีค” เทคโอเวอร์สำเร็จ ตัวเลือกก็จะเริ่มกว้างขึ้น และคาดเดายากขึ้นอีกระดับ ที่น่าสนใจก็น่าจะเป็น ปาทริค วิเอร่า, เจนนาโร่ กัตตูโซ่, ลูเชียโน่ สปัลเล็ตติ, วาฮิด ฮาลิฮ็อดซิซ หรือแม้กระทั่งอลัน เชียร์เรอร์ เองก็เถอะ ถ้าอยากเรียกศรัทธาแฟนบอล
Picture : 90Min, Sky Sports, Chronicle Live, Ghanasoccernet, The Japan Times, The Transfer Tavern, Balls.ie, The Independent, Daily Mail, YouTube, Goal.com, Sky.com, ESPN, The Sun, SBI Soccer