ถ้าจะพูดถึงหนังแนวหายนะจากภัยธรรมชาติดีๆ แล้ว ต้องบอกว่าเป็นหนังที่สร้างยากเพราะนอกจากบทต้องดีแล้วยังต้องทำ research อย่างหนักว่าถ้าเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นแล้วจะมีผลอะไรตามมาต่อเพื่อความสมจริงของหนังที่ออกมาด้วย เท่ากับนอกจากต้องชั่งน้ำหนังระหว่างบทของตัวละครแล้วยังต้องจับตัวละครมาอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากต่างๆ อีกต่างหาก

วันนี้ The Macho ขอหยิบยกหนังจากภัยพิบัติแนวพายุถล่มเมือง เผื่อว่าใครจะเอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของหนังไปใช้เวลาจำเป็นได้นะครับ

Twister (1996)

หนังไล่ล่าพายุหมุนสุดมันส์เรื่องนี้ต้องยกขึ้นหิ้งหนังภัยพิบัติติดอันดับ ด้วย Special Effects ในยุคนั้นที่สามารถเนรมิตพายุ ให้ดูสมจริงมากๆ ซึ่งเป็นผลงานการกำกับของ Jan de Bont ที่ตอนนั้นกำลังดังมาจากหนังเรื่อง ‘Speed’ ภาคแรก แถมยังได้ Michael Crichton เจ้าของงานการเขียนบทจาก Jurassic Park มาเขียนบทให้อีก โดยได้ค้นคว้าเรื่องพายุเพื่อเขียนบทหนังเรื่องนี้ให้สมจริงที่สุด

Twister เป็นเรื่องราวของ โจ ฮาร์ดิง (Helen Hunt) สาวแกร่งที่เคยสูญเสียพ่อไปตอนทอร์นาโดเข้าโจมตีบ้าน ทำให้ฝังใจกับการไล่ล่าพายุมาตลอด จุดประสงค์ก็เพื่อจะเอาเครื่องมือที่ชื่อว่า “โดโรธี” เข้าไปใจกลางพายุหมุนให้ได้ โดยที่ภายในเครื่องมือนี้บรรจุเซ็นเซอร์เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับองค์ประกอบของทอร์นาโด เพื่อนำกลับมาให้ทีมงานของโจได้ศึกษา และจะสามารถทำนายการเกิดพายุได้ในครั้งต่อไปได้ด้วย
ความสนุกของหนังคือความสมจริง และความรู้เกี่ยวกับพายุที่สอดแทรกมากับบทหนัง ซึ่งตอนที่ได้ดูในโรงหนังครั้งแรกก็ตื่นตากับพายุสุดสมจริงยังกับได้เข้าไปอยู่ในกลางพายุด้วยแล้ว

THE PERFECT STORM (2000)

ก่อนที่หนังเรื่องนี้จะถูกสร้างมาให้เราได้ชมนั้น เหตุการณ์ในหนังนั้นอ้างอิงมาจากเรื่องจริง ที่ได้กลายมาเป็นหนังสือขายดีของ Sebastian Junger แถมยังได้ผู้กำกับ Wolfgang Petersen ที่เคยสร้างหนังดีๆ อย่าง Air Force One มาแล้ว มาถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตดราม่าเข้มข้นของชาวประมงนักล่าปลากลุ่มหนึ่ง ที่ได้นักแสดงดังๆ อย่าง George Clooney, Mark Wahlberg, John C. Reilly และ William Fichtner มาร่วมนำแสดง

เป็นเวลาหลายร้อยปี ที่โกลเชสเตอร์ ในรัฐแมสซาซูเซต ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองท่าตกปลาแหล่งสำคัญแห่งหนึ่งในแอตแลนติกเหนือ ในเดือนตุลาคม ปี 1991 มันเป็นที่จอดของเรือจับปลา ที่มีชื่อว่า แอนเดรีย เกล โดยกัปตัน บิลลี่ ไทนี (จอร์จ คลูนีย์) ชาวประมงผู้ช่ำชอง แต่เขากำลังหัวเสียกับเหยื่อที่ตกได้ ข้างๆ กันเป็นเรือ ฮันนาห์ โบเด็น โดยกัปตัน ลินดา กรีนลอว์ (มาสแตรนโตนิโอ) ซึ่งกำลังยินดีกับความสำเร็จล่าสุด
บ็อบบี้ แชทฟอร์ด (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) ต้องการให้รางวัลตอบแทนกับทนายความที่ฟ้องหย่าให้กับเขา และเริ่มต้นชีวิตใหม่กับแฟนสาว การตกปลาเป็นสิ่งเดียวที่เขารู้ว่าเป็นการใช้จ่ายในแบบที่เขาต้องการ ซึ่งตรงข้ามกับความปรารถนาของคริส เขากำลังตกลงเซ็นสัญญากับ บิลลี่ สำหรับการเดินทางเที่ยวสุดท้ายของฤดูนี้ นอกจากนี้ยังมีลูกเรืออีก 4 คน ซึ่งแต่ละคนล้วนมีดราม่าของตัวเองทำให้ต้องมาลงเรือลำเดียวกันเพื่อหาเงินจากการจับปลาครั้งนี้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าการออกเรือจับปลาครั้งนี้พวกเขาจะพบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่

The Day After Tomorrow (2004)

หนังเรื่องนี้เรียกได้จับประเด็นใกล้ตัวเรื่องภาวะเรือนกระจก และภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดหายนะทางธรรมชาติ โดยหายนะต่างๆ ในเรื่องเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ และบางส่วนก็แต่งเติมขึ้นเพื่อความสนุกของหนัง โดยได้เจ้าพ่อหนังล้างโลก Roland Emmerich จาก ID4: Independence Day และ 2012 มาเป็นผู้กำกับ พร้อมงาน Special Effect ระดับสุดยอดกับฉากพายุทอร์นาโดถล่มนครลอสแองเจลิส จนไปถึงฉากคลื่นยักษ์ และพายุหิมะถล่มนิวยอร์คที่น่าตื่นตะลึง

The Day After Tomorrow ว่าด้วยเรื่อง เมื่อโลกประสบปัญหาภาวะเรือนกระจกและภาวะโลกร้อน อันนำมาซึ่งมหาภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งส่งผลให้โลกเข้าสู่ยุคน้ำแข็งอีกครั้ง นักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่ง (Dennis Quaid) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเรื่องราว เร่งหาทางป้องกันหายนะ และเวลาเดียวกันก็พยายามเดินทางฝ่าฟันไปช่วยเหลือลูกชายของเขา (Jake Gyllenhaal) ที่ติดอยู่ในนิวยอร์ค เมืองที่อยู่ใจกลางการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคน้ำแข็งของโลก

Into The Storm (2014)

หนังอีกเรื่องที่มีโคตรพายุสุดโหด ทำให้เราใจหายใจคว่ำได้ตลอดทั้งเรื่อง ผลงานจากผู้กำกับ Steven Quale ที่ผ่านการทำหนังวัยรุ่นตระกูลโกงความตายอย่าง ‘Final Destination 5’ และทำให้เวลาที่เราได้ดูหนังเรื่องนี้ยังรู้สึกเหมือนได้ดูหนังสยองขวัญอยู่พอสมควร และปรากฎการณ์กลุ่มพายุในรูปแบบที่หลากหลาย และการเล่าเรื่องสุดระทึกแบบไม่หยุดทำให้เรารู้สึกถึงความน่ากลัวของพายุกลุ่มนี้

Into the Storm ถ่ายทอดเรื่องราวในแต่ละวันที่เมืองซิลเวอร์ตัน ที่ได้รับความเสียหายจากพายุทอร์นาโดที่โหมกระหน่ำอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผ่านคน 2 กลุ่ม ระหว่างพ่อลูกที่ไม่ถูกกันต้องมาปรับความเข้าใจกัน และพิสูจน์ความรักผ่านสถานการณ์ที่คับขัน กับอีกกลุ่มคือ นักล่าพายุที่เห็นงานสำคัญกว่าชีวิตคน เพื่อทดสอบว่านักล่าพายุจะไปเก็บภาพครั้งหนึ่งในชีวิตได้ใกล้ที่สุดแค่ไหน ซึ่งทั้งหมดต้องตกอยู่ท่ามกลางพายุที่บ้าคลั่ง และผู้คนส่วนใหญ่ต้องหาที่หลบภัยให้ทัน

The Finest Hours (2016)

หนังอีกเรื่องที่อ้างอิงประวัติศาสตร์สุดระทึกที่เล่าเหตุการณ์จริงเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 1952 ของวีรบุรุษกล้า กับวีรกรรมกู้ภัยที่น่ายกย่อง โดยได้ Craig Gillespie ผู้กำกับจาก Million Dollar Arm พร้อมกับทีมนักแสดง Chris Pine (Star Trek), Casey Affleck (Interstellar), Ben Foster (3:10 to Yuma) และ Eric Bana (Lone Survivor) มาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านงาน Visual สุดตระการตา และสมจริง อีกทั้งใช้โลเคชั่นสถานที่เกิดเหตุจริง รวมไปถึงการใช้ชิ้นส่วนเรือจริงมาประกอบเข้าในฉาก แถมยังได้ข้อมูล และรายละเอียดจาก 2 อดีตเจ้าหน้าที่ในเหตุการณ์จริงที่ยังมีชีวิตอยู่มายืนยันความถูกต้องของสถานการณ์อย่างละเอียดอีกด้วย

เรื่องราวว่าด้วย พายุขนาดใหญ่โจมตีเขตนิวอิงแลนด์ บริเวณชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ได้สร้างความเสียหายแก่เรือบรรทุกน้ำมัน SS Pendleton จนฉีกขาดเป็นสองท่อน ด้วยเหตุนี้หน่วยป้องกันชายฝั่งสหรัฐฯ จึงส่งเรือกู้ชีพพร้อมสมาชิก 4 คน ฝ่าอุณหภูมิอันหนาวเหน็บ และคลื่นสูงกว่า 60 ฟุต เพื่อช่วยเหลือลูกเรือกว่า 30 คนให้รอดชีวิตก่อนที่เรือลำนั้นจะจม