รีวิว ORA 07 น้องใหม่สายพันธุ์สปอร์ต เตรียมเคาะราคาปลายเดือน พ.ย.นี้ - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
รีวิว ORA 07 น้องใหม่สายพันธุ์สปอร์ต เตรียมเคาะราคาปลายเดือน พ.ย.นี้

สำหรับงานนี้ทางพวกเรา The Macho ต้องขอขอบคุณทาง GWM Thailand ที่ทำให้เราได้มีโอกาสเข้าร่วมทดลองขับรถรุ่นใหม่อย่าง ORA 07 ซึ่งเจ้ารถคันนี้จัดว่าเป็นรุ่นเรือธงเลยก็ว่าได้ครับ โดยรถคันนี้มีทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันคือ

ซ้ายสุดคือรุ่น LONG RANGE และกลางและขวารุ่น PERFORMANCE (จุดสังเกตุต่างกันที่ลายล้อ)
  • LONG RANGE (แบบมอเตอร์เดียว) ไฟเต็มวิ่งได้ 640 กิโลเมตร
  • PERFORMANCE (แบบมอเตอร์คู่) ไฟเต็มวิ่งได้ 550 กิโลเมตร
    **หมายเหตุ : กิโลเมตรอาจจะมีการเปลี่ยนขึ้นอยู่กับปัจจัยร่วมอื่น ๆ ครับ

🔹(1/2) ก่อนจะมาพูดถึงความรู้สึกเรามาเหล่าส่วนประกอบของตัวรถทั้งภายนอกภายในกันสักเล็กน้อยครับ

สำหรับการตกแต่งภายนอกต้องบอกเลยว่ามีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ มีความโค้งมนดูนุ่มนวล ตัวรถมีการออกแบบเป็นทรงซุปเปอร์สตรีมไลน์ ไฟหน้ามีความกลมแบบ Intelligent LED ส่วนตรงด้านล่างของไฟหน้าจะมีครีบรับลมเพื่อระบายความร้อนของระบบไฟฟ้าของรถด้วย ส่วนล้อแมกซ์นั้นมาด้วยลวดลายแบบสปอร์ต ขนาด 18 นิ้วสำหรับรถ LONG RANGE ส่วนรุ่น PERFORMANCE ขนาด 19 นิ้ว ลวดลายจะเป็นแบบอุ้งเท้าแมวน่ารักที่สวยงามลงตัวครับ

ส่วนด้านข้างตัวรถใช้กระจกของทุกประตูเป็นแบบไร้กรอบ ที่เปิดประตูก็เป็นแบบซ่อนทำให้ตัวรถดูเรียบหรูเป็นชิ้นเดียวกัน ทางด้านท้ายรถมีการออกแบบให้ลู่ลมแบบ Slip-Back และมีสปอยเลอร์ไฟฟ้าที่สามารถเปิดใช้งานแบบอัตโนมัติเมื่อใช้ความเร็ม 70 กิโลเมตรขึ้นไป (เฉพาะตัว PERFORMANCE ) อีกด้วย ส่วนไฟท้ายนั้นก็เป็นวงรีขนาดใหญ่แบบ LED ให้เห็นแสงไฟที่ชัดเจน เรียกว่าเป็นการออกแบบได้อย่างสวยงามและลงตัวครับ

ปิดท้ายด้วยส่วนของหลังคาโดย ORA 07 ได้ใส่ตัวหลังคาเป็นหลังคากระจกแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ ที่ทำให้ห้องโดยสารนั้นได้รับแสงธรรมชาติจากด้านนอกและทำให้ตัวรถดูโปร่งอีกด้วย

ภายในตัวรถ ขอบอกเลยว่าเท่มากมีการออกแบบเป็นสัดส่วนแบบ cockpit แบบนักแข่งรถเลย ห้องโดยสารค่อนข้างกว้างนั่งสบาย มีหน้าจออัจฉริยะแบบสัมผัส ขนาด 12.3 นิ้ว ที่สั่งการได้รวดเร็วไม่หน่วง คอนโซลกลางมีปุ่มให้หมุนปรับใช้ได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นแอร์ โหมดการขับขี่ ส่วนจุดแขวนของหรือที่ชาร์จไฟมือถือก็มีให้อย่างครบครัน รวมไปถึงประหยัดเนื้อที่สำหรับไวเลตชาร์จด้วย โดยปกติส่วนใหญ่จะวางแนวนอน แต่ ORA 07 ให้เป็นแบบเสียบทำให้เอาเนื้อที่ไปทำอย่างอื่นได้

สำหรับพวงมาลัยบังคับทิศทางก็สามารถปรับทิศทางได้ให้เหมาะกับคนขับ ในส่วนตัวเบาะนั้นสายนวดคงต้องชอบเพราะว่ามีระบบเบาะนวดไฟฟ้าให้ทั้งคนขับและคนนั่งด้วย ปรับได้หลายรูปแบบการนวดเลือกได้ตามใจชอบและใครที่ชอบขนของมีสัมภาระเยอะไม่ต้องกลัวเลยเห็นกระทัดรัดแบบนี้ ท้ายรถจุของได้เยอะมากแถมพับเบาะขยายได้อีกเรียกว่าจุได้เหลือ ๆ ครับ

นี่เป็นข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับภายนอกและภายในครับเดี๋ยวเราไปเล่ากันต่อกับการขับขี่กันบ้างครับ

🔹(2/2) และไม่กี่วันที่ผ่านมาอย่างที่เกริ่นไปทางเราได้ทดสอบนำเจ้า ORA 07 วิ่งกันในระยะทางแบบสบาย ๆ กรุงเทพ – บางแสน ครับ โดยเริ่มต้นกันที่โชว์รูม GWM ที่ Att U park บางนานั่นเอง ทางทีมงานได้ทดสอบตัว PERFORMANCE สัมผัสแรกรู้สึกเลยว่าตัวรถนั้นเมื่อเข้ามานั่งแล้วไม่ได้แคบบอย่างที่เห็นภายนอก ในระหว่างการขับนั้นทางทีมก็ได้ลองใช้งานโหมดการขับต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โหมด Eco , โหมด WELL BEING ,โหมดสปอร์ตและโหมดสปอร์ตพลัส แน่นอนว่าความสนุกในทางตรงยาว ๆ ก็อัดโหมดสปอร์ตเสียหน่อยครับ โดยเมื่อกดโหมดแล้วจะมีเสียงบูสเป็นสัญาณให้รู้ว่าเปิดใช้งานด้วย งานนี้ต้องบอกเลยว่าเมื่อทำความเร็ว ตัวรถนั้นมีความนิ่งสุด ๆ ไม่มีแกว่ง เสียงลมจัดได้ว่าเงียบครับ นอกจากนี้พวงมาลัยยังสามารถปรับโหมดได้ 3 แบบ คือ เบา , สบายและสปอร์ต ซึ่งตรงนี้น้ำหนักจะมีความแตกต่างกันแล้วแต่ชอบเลยครับ ส่วนการขับขี่ภายในเมืองก็เป็นอะไรที่คล่องตัวอยู่แล้ว มีระบบกล้องรอบคัน จะแสดงผลเมื่อทำความเร็วต่ำ ซึ่งตรงนี้สามารถปรับแต่งได้ว่าจะให้แสดงขนาดที่ความเร็ว 15 หรือ 30 กิโลเมตร

และในการปรับโหมดต่าง ๆ เป็นที่แน่นอนว่าสามารถปรับได้ที่หน้าจอตรงกลางได้ทั้งหมด ในการสัมผัสนี้ต้องบอกเลยว่า OS ทำออกมาได้ดีไม่มีหน่วงเลยแตะปุ๊ปมาปั้บ ใช้งานอย่างไม่ซับซ้อน แต่ทางที่ดีหากจะปรับเมนูใด ๆ ไม่ควรขับไปแต่งไปนะครับอันตราย แนะนำให้คนข้าง ๆ ปรับให้หรือหากมาคนเดียวจอดแล้วปรับดีกว่า แน่นอนว่าถึงระยะทางจะไม่ไกลมากงานนี้ก็ขอทดสอบระบบนวดเสียหน่อย เอาจริง ๆ มันเพลินมาก ผ่อนคลายสบายตัวจริง ๆ ครับ ตัวระบบนวดก็มีหลากหลายแต่ส่วนตัวแล้วชอบแบบคลื่นมากครับ

อีกจุดนึงที่ชื่นชอบคือการปรับทิศทางลมของช่องแอร์ก็สามารถใช้นิ้วสำหรับผัสปรับทิศทางลมได้ที่หน้าจอเลยในส่วนระบบเสียงนั้นทาง ORA 07 PERFORMANCE ได้ใช้ลำโพงของ Infinity ทั้งหมด 11 ตัว มีระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระทำให้เสียงนั้นบอกเลยว่าแน่น ๆ สาแกใจสายฟังเพลงยิ่งนักครับ

ขับมาค่อนข้างได้ระยะทางบวกกับอากาศในวันนั้นที่ร้อนเพราะแดดแรงมาก ๆ หลาย ๆ คนคงสงสัยเกี่ยวกับหลังคาแก้วแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่นี้จะทำให้ร้อนมากไหมเวลาขับขี่กลางวันแดดเปรี้ยง ๆ ต้องขอบอกตรงนี้เลยครับว่าตลอดระยะทางและใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมงตั้งแต่ 11 โมง ไม่รู้สึกถึงความร้อนจากด้านบนเลยครับ แถมแอร์ในรถก็เย็นฉ่ำทำให้ไม่ได้สัมผัสถึงความร้อนภายในรถเลย แต่ถ้าถามว่าถ้าแดดส่องเข้าหน้ารถนั้นร้อนไหมร้อนครับ เพราะรถที่เรานำมาทดสอบนั้นยังไม่ได้ติดฟิล์มกรองแสงใด ๆ แต่ในส่วนของหลังคานั้นหายห่วงเรื่องความร้อนครับ

อีกจุดหนึ่งที่ประทับใจสำหรับสายนอนแบบผมตัวเบาะไฟฟ้านั้นนอกจากมีระบบนวดแล้วตัวเบาะนั้นสามารถเอนราบได้ถึง 180 องศาทำให้นอนได้อย่างสบาย ๆ ยืดขาได้สะดวกสบายมาก โดยตัวผมเองนั้นมีความสูงประมาณ 175 ซม. เลื่อนเบาะสุดแล้วเอนพนักพิงให้ราบเรียกได้ว่านอนสบายเลยครับ

ในส่วนอื่น ๆ นั้นก็มีระบบอำนวยความสะดวกให้ครบเลยครับไม่ว่าจะเป็นระบบถอยจอดอัตโมัติ , , ระบบถอย Auto Revers จดจำเส้นทางการวิ่งความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตร , ระบบกล้องมองในการจอด , ระบบบังคับช่องทาง , ระบบปรับแต่งภายนอก , ระบบปรับแต่งภายใน , ระบบปรับแต่งไฟ RGB , ระบบแสดงผลการใช้งานต่าง ๆ ของตัวรถ , ระบบแจ้งเตือนวัตถุข้างรถ และระบบนำทาง เป็นต้นครับ

และหากใครที่กำลังสนใจรุ่นนี้อยู่กับ ORA 07 คันนี้รอเปิดราคาและสัมผัสตัวจริงได้ปลายเดือน พ.ย.นี้ครับ อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสามารถเข้าไปสอบถามข้อมูลหรือรายละเอียดอื่น ๆ ได้ที่ศูนย์บริการใกล้บ้านได้เลยครับ

soundgear
นั่งฟังเพลง | เล่นดนตรี | ชอบถ่ายภาพ | เสพงานศิลป์

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save