5 สิ่งที่หลายคนยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับความรัก - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
5 สิ่งที่หลายคนยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับความรัก

สำหรับบางคน ความรักคือความผูกพันในครอบครัวที่แน่นแฟ้น สำหรับบางคน ความรักคือกลีบกุหลาบสีแดง และกล่องช็อกโกแลต สำหรับบางคน ความรักคือการดินเนอร์ใต้แสงเทียนในขณะที่มีวงดนตรีแจ๊สเล่นสด หรือแม้แต่สำหรับบางคน ความรักคือการเดินทางรอบโลกด้วยกันสองคน

ไม่ว่าความรักของคุณจะเป็นอย่างไร ความรักก็เป็นแนวคิดที่น่าสนใจ เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ และบางครั้งก็เป็นเรื่องส่วนตัว คุณไม่สามารถขุดความรักจากพื้นดิน คุณไม่สามารถตรวจจับความรักในบรรยากาศ และคุณไม่สามารถทดสอบความรักในกระแสเลือด มันมีอยู่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งหรือรูปแบบอื่นๆ มานับพันปี และการมีอยู่ (และไม่มีอยู่) ของมันมีผลสะเทือนไปทั่วโลก

ไม่ว่าคุณจะเชื่ออะไรก็ตามเกี่ยวกับความรัก ต่อไปนี้เป็นบทเรียนเกี่ยวกับความรักที่คุณควรพิจารณา คุณและคนที่คุณรักอาจได้รับประโยชน์จากหัวข้อนี้

?1. ความรักไม่มีกฎตายตัว และไม่ใช่สิ่งที่พัฒนาขึ้นจากที่ไหนเลย

จะว่าไปการที่เรามักจะมีความรู้สึกรุนแรง ตื่นเต้น ประหม่า เมื่ออยู่ต่อหน้า หรือใกล้ชิดต่อคนที่เราไม่รู้จักเสมอ แต่นั่นอาจไม่ใช่ความรัก หรือนั่นอาจจะเป็นการตกหลุมรักจริงๆ ก็ไม่มีใครตัดสินได้ในทันที ถ้าพูดถึงแรงดึงดูดที่พัฒนาขึ้นโดยปราศจากความสนิทสนมแบบโรแมนติก ความรู้สึกนั้นอาจไม่ได้มีอยู่จริง แต่เป็นสิ่งที่อยู่ในหัวของคุณ หรือเป็นหนึ่งในจินตนาการที่นำไปสู่ความลุ่มหลงก็เป็นได้

Connell Barrett โค้ชด้านการออกเดท และการพัฒนาตนเองในนครนิวยอร์กกล่าวว่า “ความโรแมนติกที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และไม่สมจริงนี้อาจเกิดจากสิ่งที่เรียกว่า ‘ความขาดแคลนความรัก’ ซึ่งเกิดจากการขาดตัวเลือกการออกเดท ยกตัวอย่างเช่น “ถ้าผู้ชายคนหนึ่งรู้สึกว่าเขาขาดตัวเลือกที่มีคุณภาพ เขาสามารถมุ่งจุดโฟกัสไปที่คนๆ หนึ่งมากจนเกินไป แม้ว่าลึกๆแล้วเขาจะไม่รู้จักพวกเธอเลยก็ตาม แต่เขาคิดว่าเขากำลังมีความรัก แต่นั่นเป็นเพียงความหลงใหลที่เกิดจากการจดจ่อมากเกินไป และออกเดทน้อยเกินไป เขาคนนี้ตกอยู่ในสภาวะ ‘ตกหลุมรัก’ คนที่เขาแทบไม่รู้จักโดยคิดว่าเขาหรือเธอคือ The One”

ผลที่ตามมาก็คือ การพยายามจีบคนๆ นั้นด้วยการพูดว่า “ผมรักคุณ / ผมชอบคุณ” หรือแสดงออกด้วยท่าทางสุดโรแมนติก ซึ่งไม่ได้ทำให้คุณดูน่ารัก และน่าดึงดูดมากนัก เพราะมันอาจทำให้คุณดูไม่มีความเป็นตัวของตัวเองได้ เป็นเรื่องยากที่จะพูดว่าคุณรักเขาจริงๆ จนกว่าคุณจะรู้จักใครสักคนจริงๆ

?2. ความรักไม่ใช่สิ่งที่แสดงออกอย่างรวดเร็ว

หลายคนอาจมีความเชื่อที่ว่าผู้หญิงมักจะพูดว่า “ฉันรักคุณ” ก่อนในความสัมพันธ์ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายจะไม่มีประวัติในการพูดก่อนเช่นกัน

“จริงๆ แล้ว มีงานวิจัยบางชิ้นที่ชี้ให้เห็นว่าผู้ชายตกหลุมรักเร็วกว่าผู้หญิง พวกเขาแค่แสดงออกและแบ่งปันความรักกับคนรักไม่เก่งเท่าผู้หญิง” จอร์-เอล การาบัลโล นักบำบัดด้านความสัมพันธ์และผู้ร่วมสร้างวีว่า เวลเนส กล่าว

ไม่ว่าใครจะเป็นคนพูดก่อนก็ตาม การรีบพูดคำว่า “ฉันรักคุณ” สามารถทำให้คนที่คุณคบด้วยเข้าใจผิดเกี่ยวกับระดับความจริงจังของความสัมพันธ์ คำพูด 3 คำนั้นสามารถโน้มน้าวใจพวกเขาให้คิดว่าคุณอยากจะอยู่ในความสัมพันธ์ระยะยาว หรือความสัมพันธ์จริงจัง แต่จริงๆ แล้วคุณอาจจะยังไม่ได้รู้สึกลึกซึ้งถึงขั้นนั้น หรือทำให้พวกเขาตกใจแล้วคิดว่าคุณกำลังจะขอคุณแต่งงานทั้งๆ ที่คุณไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น ว่าง่ายๆ คือคำว่ารัก ที่พูดออกมาเร็วเกินไปอาจสร้างความคาดหวังให้อีกฝ่ายมากจนเกินไปโดยไม่ได้เจตนา ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด การรีบพูดจนเกินไปมันเป็นโอกาสที่ทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้

แต่ในขณะเดียวกันมันก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าเมื่อไหร่ที่ควรจะพูดว่า “ฉันรักคุณ” เป็นครั้งแรก หากคุณเพิ่งออกเดทได้ไม่กี่สัปดาห์ แต่ความสุข ความสบายใจ และความเพลิดเพลินในความสัมพันธ์นั้นมันอยู่ในระดับสูงของคุณไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเมื่อไหร่ควรจะพูด ประเด็นคือต้องสำรวจความรู้สึกตัวเองอย่างซื่อสัตย์ และจริงใจ

?3. ความรักไม่ใช่แค่ความดึงดูดใจทางเพศ

ความดึงดูดทางเพศเป็นอะไรที่ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ และไม่น่าแปลกใจเลยที่เซ็กส์มีส่วนรับผิดชอบโดยตรงต่อชีวิตมนุษย์ทั้งหมดบนโลก มันไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเลยที่เราจะมีความเพศสัมพันธ์ที่เข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุณอยู่ในความเร้าอารมณ์ทางเพศ (หรือแม้แต่แรงดึงดูดทางเพศ) ความสามารถในการประมวลผลความรู้สึกของคุณอย่างมีเหตุผลอาจถูกโยนทิ้งไปอย่างง่ายดาย

มันมีความเชื่อตามแรวความคิดโบราณของใครบางคนที่พูดว่า การพูดคำว่า “ฉันรักคุณ” เป็นครั้งแรกระหว่างมีเซ็กซ์นั้นมีเหตุผล ในช่วงเวลาอันร้อนระอุ คุณจะรู้สึกเหมือนว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่จะพูดคำว่ารัก และไม่มีคำอื่นใดที่จะสื่อความลึกซึ้งของความหลงใหลที่คุณรู้สึกได้อย่างเหมาะสม แต่เซ็กส์ที่ดีก็เหมือนยาเสพติด มันสามารถมีอิทธิพลต่อความคิด และการกระทำของคุณ และทำให้คุณทำ และรู้สึกถึงสิ่งที่คุณจะไม่ทำในเวลาปกติ มันยังแสดงให้เห็นว่าทำให้คนเปิดใจ และกลายเป็นคนช่างพูดมากขึ้น

สมมติว่า..หากคุณมีความรู้สึกรุนแรงเร่าร้อนกับคู่นอนที่คุณไม่มีปฏิสัมพันธ์ด้วยนอกเหนือจากเรื่องเพศสัมพันธ์ หรือการที่คนที่คุณรักมีเซ็กส์ด้วยแต่ไม่ชอบออกไปเที่ยว หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ด้วยกัน ทั้งก่อน หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ นั่นอาจจะต้องทบทวนคำว่ารักที่อีกฝ่ายบอกกับคุณดูอีกซักครั้งว่า เป็นความรักจริงๆ หรือไม่

ความรักเป็นสิ่งที่คุณจะรู้สึกกับคนๆ หนึ่ง ไม่ใช่แค่เมื่อคุณอยู่บนเตียงด้วยกัน แต่รวมถึงเมื่อคุณดูแลพวกเขาในขณะที่พวกเขาป่วย หรือยืนข้างกันในงานปาร์ตี้ในขณะที่พูดคุยกับคนอื่นๆ มันครอบคลุมทั้งบุคคล ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตา และลักษณะกิจกรรมบนเตียง

?4. ความรักไม่ใช่การครอบครอง หรือควบคุม

การรักใครสักคนอาจเป็นเรื่องน่ากลัว เมื่อคุณใส่ใจใครสักคนมากถึงมากจนเกินไป การกระทำของพวกเขาอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อความเป็นอยู่ที่ดีทางอารมณ์ (และแม้แต่ทางร่างกาย) ของคุณ

แม้ว่าจะมีความเปราะบางบางอย่างที่สวยงาม แต่ก็เป็นสิ่งที่ดูขัดกับความเป็นชายในระดับหนึ่ง หากคุณเป็นผู้ชายที่ไม่คุ้นเคย หรือไม่ชินกับการปล่อยให้คนอื่นมามีอิทธิพลต่ออารมณ์ของคุณ คุณอาจรู้สึกว่าจำเป็นต้องพยายามควบคุมพฤติกรรมของพวกเขา

อารมณ์ความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอาจจะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนคุณอาจเผลอไปบอกคู่ของคุณว่าต้องทำอะไร ต้องแต่งตัวอย่างไร ไปเที่ยวกับใคร และอื่นๆ ด้วยข้ออ้างที่ว่า “เป็นเพราะฉันรักเธอ”

หลายคนอาจเข้าใจผิดจนให้นิยามความรักในทางที่ไม่ดี และเป็นพิษ บางคนอาจมองว่าการยอมรับ เชื่อฟัง และการปฏิบัติตามกฎของเขาทั้งหมดเป็นสัญญาณของความรัก และคนที่ถูกควบคุมมักจะรู้สึกเหมือนถูกรักเพราะพวกเขาเข้าใจผิดว่ามันเป็นความสนใจ และความเอาใจใส่อย่างแรงกล้า หลายคนเข้าใจไปว่านั่นเป็นความรัก แทนที่จะมองว่ามันเป็นรูปแบบหนึ่งของการละเมิด”

ถ้าคุณรักใครสักคนจริงๆ คุณจะรู้ว่าพวกเขาควบคุมความรู้สึกของคุณได้พอๆ กับที่คุณสามารถควบคุมความรู้สึกของพวกเขาได้เช่นกัน แต่คุณไม่ควรพยายามที่จะควบคุม หรือจำกัดสิ่งที่พวกเขาทำ แต่คุณควรพยายามที่จะกลมกลืนกับพวกเขา หากเป็นความรักที่แท้จริง คุณจะต้องการให้พวกเขารู้สึกมีความสุข ไม่ถูกจำกัด ถูกคุกคาม จนหายใจไม่ออก

?5. ความรักไม่ใช้ความรุนแรง และไม่ให้อภัยความรุนแรง

การกระตุ้นให้เกิดการควบคุมคู่รักที่กล่าวถึงข้างต้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาไม่เชื่อฟัง

ในสถานการณ์เช่นนั้น ผู้ชาย หรือผู้หญิงบางคนมักใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะทางร่างกาย หรืออารมณ์ และคำพูด นั่นเป็นความจริงที่น่าเศร้าท และมีสถิติอันน่าสยดสยองเกี่ยวกับการล่วงละเมิดในครอบครัว และความรุนแรงต่อคู่นอน ผู้หญิง มากกว่า1 ใน 3ของโลกที่ถูกฆาตกรรมเสียชีวิตด้วยน้ำมือของคู่ชีวิต แต่ถ้าคุณรักใครซักคนจริงๆ ไม่เพียงแต่คุณจะไม่ฆ่าเขาเท่านั้น แต่คุณจะไม่คิดจะทำร้ายเขาเลยด้วยซ้ำ

“คู่รักที่ชอบใช้ความรุนแรงด้วยวิธีนี้ เป็นเพราะเขาหรือเธอต้องการให้คนรักยอมรับ และปฏิบัติตามกฎของพวกเขาอย่างเต็มที่” ความรุนแรงมักจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ทำร้ายไม่ได้รับสิ่งเหล่านั้น นั่นทำให้ผู้ทำร้ายรู้สึกว่าไม่มีใครรัก ดังนั้นพวกเขาจึงทำให้แน่ใจว่าสัญญาณแห่งความรักเหล่านี้จะถูกตอบสนองในทิศทางที่พวกเขาต้องการให้เป็น จนกลายเป็นความรุนแรงในจิตใจของเขา แน่นอนว่า มันตรงกันข้ามกับความรัก มันเป็นการทำร้าย ความเห็นแก่ตัว และทำให้เจ็บปวด”

หากทุกคนมีความเข้าใจที่ดีขึ้นว่าความรักคืออะไร ความรู้สึกที่เติบโตเมื่อเวลาผ่านไปจากการได้รู้จักใครสักคนอย่างใกล้ชิด จะเป็นเหมือนสนับสนุนพวกเขา และช่วยให้พวกเขามีความสุข และในสังคมปัจจุบัน บางสิ่งที่เราเคยเรียกว่าโรแมนติกนั้นแท้จริงแล้วมีความรุนแรง การควบคุม เป็นพิษ ไร้เหตุผล หรือไม่ดีต่อสุขภาพซ่อนอยู่ในนั้น

#lover #relationship #date #dating #ความรัก #ความสัมพันธ์ #การเดท #SEX #PASSION #เป้าหมายของชีวิต #การดูแลความสัมพันธ์ #ความสัมพันธ์ #ความรัก #แฟนเก่า #ความรัก #relationship

Sharry

Writer, Project Editor, Photographer

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save