ปีเก่าผ่านไปสำหรับพรีเมียร์ลีกก็ผ่านครึ่งทางพอดี โอกาสเสริมนักเตะช่วงกลางฤดูกาลเริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีข่าวการย้ายตัวกันซักเท่าไหร่ เนื่องจากไวรัสที่ยังแพร่ระบาดบวกกับมีสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ
ยังไงเสียปีใหม่แล้วอะไรก็คงจะดีขึ้นไปตามลำดับ เช่นเดียวกับหัวตารางของพรีเมียร์ลีกที่เห็นได้ชัดขึ้นว่าใครขึ้นแท่นเต็งหนึ่ง และใครเป็นผู้ท้าชิงในฤดูกาลนี้ เหล่าบิ๊กซิกซ์อันเลื่องชื่อจะเหลือเพียงชื่อหรือยังโลดแล่นบนเส้นทางแชมป์ได้ในฤดูกาลนี้
อาร์เซน่อล
ต้องชมเชยเหล่านักเตะปืนใหญ่ไม่น้อย ทุกคนต่างรู้ว่าโอกาสที่พวกเขาจะมาแย่งบัลลังก์แชมป์ยังคงต้องใช้เวลาอีกซักพัก ซึ่งในฤดูกาลนี้ในช่วงเริ่มต้นเหล่าแฟนไอ้ปืนใหญ่คงไม่คิดจะลุ้นอะไร แต่ผิดคาดแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ลุ้นไปถึงแชมป์ได้ก็จริง แต่การอยู่อันดับ 4 ของตารางในตอนนี้ถือว่าทำได้เกินคาด
เหล่าเด็กหนุ่มของอาร์เตต้าสร้างเกมรุกได้อย่างเฉิดฉายสุดเล้าใจ บอกได้เลยว่าสุดสะแด่วเพราะการเล่นบอลบนพื้นของอาร์เซน่อลตื่นตาตื่นใจเป็นทุนเดิมบวกกับลูกตั้งเตะที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงกลุ่มเด็กปืนที่เล่นได้อย่างทะลุทะลวง ทั้งกาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เอมิลสมิธ โรว์ หรือแม้แต่ มาร์ติน โอเดการ์ด เด็กหนุ่มผู้มีชื่อมาก่อนฝีมือ เขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามีความสำคัญกับทีมเพียงใด จนทำให้รุ่นใหญ่บางคนฟอร์มดับวูบไปเลย นี่ยังไม่รวมถึงบูกาโย ซากาที่สามารถทิ้งความผิดหวังออกไปได้หมดจากการเป็นคนยิงจุดโทษพลาดให้กับทีมชาติอีกด้วย
การห่างกับตำแหน่งจ่าฝูงถึง 20 แต้มดูจะไกลเกินเอื้อมไปหน่อย แต่หากเป็นตำแหน่งในเวทีแชมเปี้ยนลีกแล้ว ฤดูกาลนี้ขับเคี้ยวกันสนุกแน่นอน
ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์
หลังการมาของอันโตนิโอ คอนเต้ สเปอร์กลายเป็นทีมที่แพ้ยากขึ้น พวกเขามีเกมรับที่ดี และเกมรุกที่ยอดเยี่ยม เพียงแต่ในช่วงหลัง การเข้าทำเกมรุกของสเปอร์ดูมีปัญหา นักเตะตัวความหวังทั้งแฮร์รี่ เคน และซน ฮึง มินฟอร์มหายไปดื้อๆ จับบอลกันยังต้องลุ้น เพราะหตุนี้จึงทำให้ทีมจากลอนดอนทีมนี้ไม่สามารถเก็บคะแนนได้ตามหวัง
พวกเขาอยู่อยู่อันดับที่ 6 ในตอนนี้แข่งน้อยกว่าจ่าฝูงอยู่ 2 เกมเป็นอย่างน้อย โอกาสที่พวกเขาจะได้ไปเล่นแชมเปี้ยนลีกยังเปิดกว้าง เหลือแค่เค้นฟอร์มเก่งของหัวหอกตัวความหวังออกมาให้ได้ หากพวกเขาปลดล็อคพลังความเก่งออกมาได้เมื่อไหร่ สเปอร์บินสูงแน่นอน ซอนเองเพิ่งได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของเอเชียสมัยที่ 5 ติดต่อกันมาด้วย ดูท่าพลังความเก่งกำลังจะประทุให้ได้เห็นในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังเป็นแน่
แมนเชสเตอร์ ยูไนเตต็ด
แมนฯ ยูไนเต็ดหลังจากมีการเปลี่ยนโค้ชเกิดขึ้น พวกเขามีผลงานที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ สุดท้ายพวกเขาก็แพ้คารังต่อวูล์ฟในนัดล่าสุด แม้จะได้กุนซือต้นแบบของ”เกเก้นเพลสซิ่ง”มากุมบังเหียนก็ตาม แต่หากเทียบกับช่วงต้นฤดูกาลก็ต้องถือว่าอุ่นใจได้มากกว่า เพียงแต่ตอนนี้ยากเหลือเกินที่จะมีคะแนนตามเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญ
การมาของโรนัลโด้ทำให้ทีมสามารถยิงประตูได้ก็จริง เพียงแต่แมนฯ ยูไนเต็ดก็ยังมีเกมรับที่ไม่น่าไว้วางใจ วาราน กองหลังตัวความหวังของทีมก็เพิ่งกลับมาจากอาการเจ็บยังต้องฟื้นฟูแมตย์ฟิตเนตอีกซักระยะ ครึ่งฤดูกาลที่เหลือคงไปต่อได้แค่ลุ้นไปแชมเปี้ยนลีกเท่านั้น ปีนี้คงทำได้แค่เพียงขอพรให้เมืองแมนเชสเตอร์อย่าเป็นสีฟ้าก็พอ
ลิเวอร์พูล
หลังจากทำแต้มหล่นไปอีก 2 คะแนนหลังจากเสมอกับเชลซีมาอย่างสุดมันส์ ทำให้พวกเขาต้องตามหลังจ่าฝูงถึง 11 แต้มแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด โอกาสในการแย่งบัลลังก์ยังคงอยู่ในเส้นทาง แม้จะดูห่างออกไปก็ตาม คงต้องบอกว่าโชคดีไม่น้อยที่โมฮัมเมด ซาล่า กลับมาจุติได้ทันเวลาอีกครั้ง เทพเจ้าแห่งอียิปต์น่ากลัวทุกนาทีที่มีบอลในกรอบเขตโทษ เพียงแต่ลิเวอร์พูลเองมีปัญหาตัวผู้เล่นเป็นปัญหาหลัก พวกเขาจำเป็นต้องใช้นักเตะวัยรุ่นลงมาเล่น ความเคี่ยวของทีมจึงลดลงไปในจุดนี้ แต่ฤดูกาลนี้ก็ต้องบอกว่า หงส์แดงคือไม่กี่ทีมที่จะขึ้นแซงจ่าฝูงได้ในเวลาที่เหลืออยู่
เชลซี
เกิดอะไรขึ้นกับเชลซี พวกเขาดูจะเป็นทีมที่คะแนนไล่บี้กับแมนฯ ซิตี้ได้แบบไม่เห็นฝุ่น แต่ช่วงเดือนหลังมานี่ พวกเขากลับมีผลงานที่หละหลวมไปซะเองแบบดื้อๆ จนกระทั่งก่อนเกมเจอกับลิเวอร์พูล ข่าวของ ลูกากู ก็เฉลยความสัมพันธ์บางอย่างภายในทีม นี่อาจเป็นเรื่องไม่ใหญ่เท่าไหร่ หากเทียบกับแค่คนหนึ่งคนต่อทีมหนึ่งทีม แต่เมื่อคิดถึงสภาพจิตใจที่มีรอยด่างของความหึกเหิมในการเป็นแชมป์แล้วละก็ ดูจะหาอะไรมากลบไม่มิด เชลซีถึงตกมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไล่ตามจ่าฝูง 10 แต้ม ทำให้พวกเขาทำได้เพียงห้ามพลาดไปกว่านี้แล้ว โทมัส ทูเคิลต้องเรียกกำลังใจของทีมกลับมาโฟกัสที่เดิมให้จงได้หากยังหวังจะเป็นแชมป์ลีก
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เรือใบสีฟ้าติดปีกบินหนีทีมอื่นอย่างเป็นรูปธรรม พวกเขากลับมาเข้าที่เข้าทางได้ก่อนทีมอื่นในช่วงที่เกิดวิกฤตไวรัสระลอกใหม่ระบาด ทำให้คะแนนห่างไกลกันออกไปแตะเลข 2 หลักหลังผ่านครึ่งทางของซีซั่นนี้ ต้องชม กวาดิโอลา ที่มีทรัพยากรเหลือเฟือให้ใช้ในยามวิกฤต รวมถึงรูปเกมของแมนฯซิตี้ที่ไม่ว่าทีมไหนเป็นต้องหนาวทุกครั้งที่ลงเล่นร่วมกัน ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขามายืนอยู่ในจุดนี้ก่อนใคร ที่เหลือก็แค่ประคองตัวให้เก็บ 3 แต้มได้ไปเรื่อยๆ โอกาสเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้มาแบบไม่ยากเย็นนัก ซึ่งหากเขาทรงตัวกับบอลลีกได้ ดูเหมือนบอลถ้วยแชมเปี้ยนลีกจะสามารถโฟกัสได้อย่างเข้มข้นกว่าเดิมแปดสิบเท่า
เหล่าบรรดาทีมใหญ่ต่างมีปัญหารุมเร้าทำให้ดูเหมือนกันเบียดลุ้นแชมป์ไม่เข้มข้นดั่งที่หวังไว้เหมือนช่วงต้นฤดูกาล แม้หนทางจะเหลืออีกครึ่งทางก็ตาม แต่ความสนุกยังคงเต็มเปี่ยมเพราะระหว่างทางต่อจากนี้จะสนุกยิ่งขึ้น เกมกลางสัปดาห์หรือแม้กระทั่งไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกับแต่ละทีมอย่างลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจะได้เห็นการแก้ปัญหาของเหล่าทีมหญ่ และทีมกลางตารางที่พร้อมจะแบ่งแต้มได้ตลอดทุกนัด ดูอย่างเวสต์แฮมที่ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 ของตารางในตอนนี้ ทำให้เห็นได้ว่ายังมีความหวังในการเกิดบางอย่างขึ้นก็เป็นไปได้ทั้งนั้น คงต้องลุ้นกันไปนัดต่อนัดว่าทีมรักของทุกท่านจะฝ่าฟันไปได้ไกลถึงเพียงใด ลพกม.