พรีเมียร์ลีกเตะกันต่อเนื่องในโค้งสุดท้าย นอกจาก Gameweek 33 ที่เตะกันยันคืนวันพฤหัสฯ GW34 ก็มารออยู่แล้ว โดยผลของเกมเอฟเอ คัพ รอบรองฯ ที่เชลซีผ่านพาเลซไปได้ ทำให้มีโปรแกรม DGW34 ของเชลซี และแมนฯ ยู เกิดขึ้นมา

นอกเหนือจากโปรแกรมเบิ้ลของ 2 ทีมใหญ่ GW34 ยังน่าจะเป็นวีคสำคัญของกุนซือหลายท่านที่ยังเหลือ Wildcard อยู่ในมือ เพราะเป็นวีคโปรแกรมเทิร์น ซึ่งจะเตรียมการไปถึง DGW36 และ 37 ที่เหมาะแก่การกักตุนตัว หรือใช้ตัวช่วยอื่นที่เหลืออยู่อย่าง Bench Boost หรือ Free Hit

เนื่องจากเรายังไม่ทราบผลทั้งหมดของ GW33 ดังนั้นการสรุปผลจึงไปว่ากันทีหลัง ส่วนของเนื้อที่ที่เหลืออยู่ จะแชร์เรื่องความเสี่ยงโรเตชันของบางทีม ที่ยังมีลุ้นในถ้วยอื่นช่วงปลายซีซัน

วิเคราะห์ทีเด็ด : Gameweek 34

ผู้รักษาประตู
โชเซ่ ซา (วูล์ฟ / 5.3 ล้านปอนด์)

ความจริงโกล์ และเกมรับที่น่าแนะนำที่สุดหนีไม่พ้นแมนฯ ซิตี้ อยู่แล้ว เพราะเกมที่เปิดบ้านเจอวัตฟอร์ดที่ตกชั้นไปครึ่งตัว โอกาสคลีนชีตสูงมาก แต่เดี๋ยวจะแนะนำนักเตะซิตี้ในตำแหน่งอื่น เลยพยายามหานายด่านซักทีม ที่พอมีลุ้นคลีนชีตหน่อย ซึ่งยากเหมือนกัน

ที่แนะนำซา เพราะวูล์ฟคงยังเน้นอยู่พอตัว เพื่อทำคะแนนให้ดีที่สุด เผื่อเบียดขึ้นอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปได้ เกมที่ไปเยือนเบิร์นลีย์ที่กำลังมุ่งมั่นหนีตกชั้นอาจจะไม่ง่าย แต่เจ้าถิ่นก็เล่นติดต่อกันมาหลายนัด พักน้อยกว่าชัดเจน เกมรุกก็ไม่ถึงกับดี โอกาสที่ “หมาป่า” จะเก็บคลีนชีต ก็มีอยู่พอสมควร

กองหลัง
เจา คันเซโล่ (แมนฯ ซิตี้ / 7.1 ล้านปอนด์)

มีความสุ่มเสี่ยงจะโดนพักเหมือนกัน เพราะคันเซโล่เล่นติดต่อกันมาหลายนัด โดยเฉพาะรอบรองฯ เอฟเอ คัพ และเกมกับไบรท์ตันกลางสัปดาห์ แถมมีเกมสำคัญกับมาดริดรออยู่ด้วย เกมกับวัตฟอร์ดจึงเป็นโอกาสดี ที่เป๊บอาจจะเลือกพักเขา

อย่างไรก็ดี อาการบาดเจ็บของวอล์คเกอร์ น่าจะยังต้องเช็คฟิตกัน ซึ่งถ้าหากวอล์คเกอร์ไม่ฟิตสมบูรณ์ คันเซโล่อาจจะต้องลงเล่นต่อไปก่อน เพราะสโตนส์ และอาเก้ ก็ดูมีอาการเจ็บจากเกมกับไบรท์ตัน ทำให้แบ็คฝั่งขวาอาจจะขาดแคลน วัดใจหน่อย แต่ถ้าได้ลง คันเซโล่เป็นแคนดิเดตกัปตันได้เลยด้วยซ้ำ

กองกลาง
โม ซาล่าห์ (ลิเวอร์พูล / 13.2 ล้านปอนด์)

เกมรุกของลิเวอร์พูลดุดันเหลือเกิน แถมมีตัวเลือกให้ลงเล่นหลากหลาย แม้จะเป็นเกมเมอร์ซีไซด์ ดาร์บี้ ที่หนัก แต่คาดว่าเกมรุกของพวกเขาจะเรียกสกอร์ได้ไม่น้อยเลย ยิ่งหากเอฟเวอร์ตันมาเปิดหน้าสู้แบบที่พวกเขาทำเสมอเมื่อเจอกัน

ก่อนที่ซาล่าห์จะยิงเบิ้ลในเกมกำราบแมนฯ ยู หลายคนเริ่มมองถึงการเปลี่ยนตัวเขาเป็นพรีเมียมอื่น รวมถึงมาเน่ ที่ฟอร์มการถล่มประตูเริ่มสม่ำเสมอต่อเนื่อง (ซึ่งเกมนี้ ก็น่าแนะนำทั้งคู่) แต่ในเมื่อซาล่าห์ยังเป็นตัวยอดนิยมที่คนถือ ก็ยังอยากแนะนำเขาต่อไป และแน่นอนเขาเป็นแคนดิเดตกัปตันที่ดีเช่นกัน

เมสัน เมาท์ (เชลซี / 7.6 ล้านปอนด์)

แน่นอนว่าโปรแกรมได้เตะเบิ้ล ทำให้เชลซีน่ามองขึ้นมามาก แต่เกมที่หนักพอตัวเลย ต้องเจอทั้งเวสต์แฮม และแมนฯ ยู ที่ยังมีลุ้นทำอันดับฟุตบอลยุโรป เลยมองมาที่กองกลาง ซึ่งเมาท์ก็ดูเป็นตัวที่มีโอกาสลงทั้ง 2 นัด และมักจะมีส่วนร่วมกับเกมรุก อย่างการทำ 2 ประตู 2 แอสซิสต์ ใน 2 เกมหลัง

ข้อดีนิดนึงของการเลือกนักเตะ “สิงห์บลู” คือพวกเขาตกรอบ UCL ไปแล้ว ดังนั้นแมทช์สำคัญนอกเหนือจากเกมลีก คือเกมเอฟเอ คัพ รอบชิง ที่จะเตะตอน GW37 นู่นเลย ก่อนหน้านั้น พวกเขาคงต้องพยายามเน้นให้จบที่ 3 แน่นอน หลังเพิ่งพ่ายอาร์เซน่อลมาในเกมล่าสุด

ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนฯ ซิตี้ / 10.5 ล้านปอนด์)

เด บรอยน์ เป็นแนวรุกของแมนฯ ซิตี้ ที่น่าเลือกที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย หรือหากจะมองโฟเด้น, แบร์นาโด้, มาห์เรซ ก็น่าสนใจเช่นกัน แต่ที่แนะนำราฮีม เพราะเขาได้พักมาในเกมกับไบรท์ตัน เลยคาดว่าเขาจะได้สตาร์ทตัวจริงในเกมกับวัตฟอร์ดแทน

อย่างที่ทราบกัน ซิตี้มีเกมกับมาดริดรออยู่ เป๊บอาจจะคิดถึงการหมุนเวียนนักเตะบางคน แบร์นาโด้ กับโฟเด้น เล่นติดต่อกันมาจากเกมเอฟเอ คัพ กับลิเวอร์พูล ส่วน KDB ก็เพิ่งหายจากอาการเจ็บเล็กน้อยมา หากมีโอกาสเลือก ราฮีมเลยดูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจขึ้นมา

กองหน้า
โอลลี วัตกินส์ (วิลล่า / 7.4 ล้านปอนด์)

เดี๋ยวหาว่าแนะนำแต่ของแพง (ซึ่งจริงๆ โรนัลโด้ กับ เคน ก็น่าแนะนำ) เลยขอเลือกตัวราคากลางๆ บ้าง โดยจิ้มไปที่วัตกินส์ เพราะเชื่อว่าเลสเตอร์น่าจะโรเตชันนักเตะครั้งใหญ่อีกครั้ง เพื่อเก็บความสดไว้ลงเล่นยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ กลางสัปดาห์แทน ยิ่งเพิ่งเจอเกมตกค้างมาก่อนนี้

แนวรับของเลสเตอร์กลับมามีตัวเลือกในแต่ละตำแหน่ง 2 คน ทำให้หมุนเวียนใช้งานได้บ่อย ซึ่งนั่นทำให้เกมรับของพวกเขามีปัญหา วิลล่าเองได้พักมาเต็มๆ และต้องการเก็บชัยบ้าง เพราะระยะหลังฟอร์มค่อนข้างหล่น วัตกินส์น่าจะมีโอกาสจบสกอร์บ้าง ส่วนจะทำได้หรือไม่ ต้องลุ้นกัน

Differential
แจ็ค แฮร์ริสัน (ลีดส์ / 5.5 ล้านปอนด์)

ลีดส์ที่ได้พักมาเต็มถัง จะบุกไปเยือนพาเลซ ซึ่งซีซันของพาเลซเพิ่งจะจบลง หลังพ่ายเชลซีตกรอบเอฟเอ คัพ ไปแล้ว โปรแกรมหลังจากนี้ก็เป็นเพียงการเตะเพื่อทำอันดับให้ดีที่สุด จึงคาดว่าลีดส์ที่ฟอร์มกระเตื้องขึ้นชัดเจน อาจจะทำผลงานได้ดีในเกมเยือนเซลเฮิร์ส ปาร์ค

แนวรุกของลีดส์มีทั้งโรดริโก้, ราฟินญ่า, เจมส์ แต่ที่แนะนำแฮร์ริสัน เพราะฟอร์มกำลังดีต่อเนื่อง นอกจากยิงประตู 3 นัดติด เจ้าตัวยังดูกลับมาวูบวาบเหมือนซีซันที่แล้ว เกมนี้ก็น่าจะพอมีลุ้นทำคะแนนได้อีก

นัดไหน? ทีมไหน? ควรระวังโรเตชัน

เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย ทำให้เราเห็นโปรแกรมที่เหลืออยู่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแต่พรีเมียร์ลีก ฟุตบอลถ้วยในประเทศ และฟุตบอลสโมสรยุโรป ก็ส่งผลได้เช่นกัน เพราะทีมจากเมืองผู้ดีเข้ารอบลึกกันเพียบเลย ดังนั้นไปไล่ดูกัน ว่านัดไหน ทีมไหน อาจจะมีการโรเตชันมากเป็นพิเศษ

แมนฯ ซิตี้

“เรือใบสีฟ้า” เหลือถ้วยนอกเหนือจากพรีเมียร์ลีกคือ UCL ซึ่งรอบรองฯ จะแข่งกันหลัง GW34 และ GW35 ซึ่งเป็นเกมที่เจอวัตฟอร์ด (เหย้า) และลีดส์ (เยือน) ตามลำดับ ดังนั้นอาจจะต้องระมัดระวัง แม้พวกเขาจะต้องเน้นเกมลีกเช่นกัน แต่ตัวไหนพอพักได้ ก็อาจมีปรับให้เห็น

ลิเวอร์พูล

“หงส์แดง” จะอีรุงตุงนังกว่า คือนอกจากโปรแกรม UCL รอบรองฯ ที่จะแข่งหลัง GW34 (เอฟเวอร์ตัน – เหย้า) และ GW35 (นิวคาสเซิล – เยือน) พวกเขายังมีเกมเอฟเอ คัพ นัดชิง ซึ่งจะเตะระหว่าง GW36 นัดที่ 2 (วิลล่า – เยือน) และ GW37 (น่าจะเป็นเซาธ์แธมป์ตัน – เยือน) การที่พวกเขามีทีมที่สมบูรณ์ ย่อมหมายถึงการปรับโรเตชันได้มากเช่นกัน

เชลซี

“สิงโตน้ำเงินคราม” สถานการณ์ในลีกยังไม่ถึงกับไว้วางใจได้นัก แต่ก็มีโอกาสหลุดพื้นที่ UCL น้อย ดังนั้นเป้าหมายสำคัญของพวกเขาคือนัดชิงเอฟเอ คัพ นั่นทำให้ GW36 นัดที่ 2 (ลีดส์ – เยือน) น่าจะเป็นเกมที่พวกเขาพร้อมโรเตชันแบบยกแผง เพราะนอกจากจะได้พักเต็มที่ ยังทำให้ได้เปรียบเหนือคู่ชิงอย่างลิเวอร์พูล ที่ต้องเน้นในลีกทุกนัด อีกด้วย

เวสต์แฮม

“ขุนค้อน” มีจุดน่ากังวลคือมี squad depth น้อย และใช้ชุดตัวจริงลงเล่นมาติดต่อกันอย่างยาวนาน จนฟอร์มในลีกแกว่ง ดังนั้นเกมยูโรป้า ลีก รอบรองฯ ที่จะแข่งหลัง GW34 (เชลซี – เยือน) และ GW35 (อาร์เซน่อล – เหย้า) มอยส์อาจจะต้องหันไปเน้นหน่อย และหากพวกเขาเข้ารอบชิงได้ แมทช์ใน GW37 (แมนฯ ซิตี้ – เหย้า) น่าจะต้องโรเตชันกันหนักแน่นอน

เลสเตอร์

“จิ้งจอกสยาม” ไม่มีลุ้นในลีกแล้ว เราเลยเห็นเขาสลับสับเปลี่ยนทีมกันแทบทุกนัด เพราะก็มีตัวหายเจ็บกลับมาหลายราย โดยเฉพาะในแนวรับ ดังนั้นไม่ต้องห่วงเลยว่ารอบรองฯ ยูโรป้า คอนเฟอร์เรนซ์ ที่จะแข่งหลัง GW34 (วิลล่า – เหย้า) และ GW35 (สเปอร์ – เยือน) จะส่งผลต่อการจัดทีมแน่นอน และหากเลสเตอร์ไปถึงรอบชิงได้ ซึ่งจะเตะหลัง GW38 (เซาธ์แธมป์ตัน – เหย้า) แค่ 3 วัน จะทำให้พวกเขาโรเตชันยกชุดแน่

จัดทีม วัดใจ

ผลงาน Free Hit ใน GW33 ได้ผลตอบแทนดีทีเดียว แต่พอกลับมาจัดการกับ GW34 ก็ยังมีปัญหาให้ปวดหัวหลายจุด เพราะผมไม่มี Wildcard อยู่แล้ว ต้องลุยกับทรัพยากรที่มี

แน่นอนว่าสิ่งปวดหัวแรกคือการปิดเทอมของทั้งโดเฮอร์ตี้ และคูโค่ โดยตัวของโดเฮอร์ตี้ไม่น่ามีปัญหา เพราะเล็งจะเปลี่ยนกองหลังพรีเมียมเข้ามาแทนอยู่แล้ว ซึ่งตอนแรกก็มองคันเซโล่ตาม template แต่ก็อาจจะเสียวๆ เรื่องการโรเตชันหน่อย เพราะเจ้าตัวลงเล่นติดต่อกันมาหลายนัด

อีกทางเลือกคือแนวรับตัวเตะเบิ้ล อย่างเจมส์ หรืออลอนโซ่ ของเชลซี แต่ฟอร์มทีมก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เป็นปัจจัยที่ต้องตัดสินใจ รวมถึงตามข่าวรูดิเกอร์ ที่พลาด GW33 เพราะมีอาการเจ็บติดตัวด้วย

ในแดนกลาง มาร์ติเนลลีก็น่าห่วง เพราะหลุดไปสำรองในเกมล่าสุด เพราะทีมเก็บชัยได้ บาร์นส์เองก็ฟอร์มดี เพียงแต่จะมีเรื่องโรเตชันให้ต้องระแวงเป็นธรรมดา เพราะมีเกมบอลยุโรปให้โฟกัสอยู่ นอกนั้นตัวอื่นน่าจะยังถือต่อไปได้ เพียงแต่ต้องคิดเผื่อการ Bench Boost ใน GW36 ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดด้วย

อย่างที่ไล่เรียงไป จะมีหลายเรื่องให้ต้องคิด ดีหน่อยที่เดดไลน์วันเสาร์ พอมีเวลาติดตามข่าวสารกัน ยังไงทีมไฟนอล จะแชร์ให้ได้ทราบกันเหมือนเดิมครับ
กลุ่มเฟซบุ๊ค >> คลิกที่นี่ <<
กลุ่มแชทใน LINE OpenChat >> คลิกที่นี่ <<

ย้ำส่งท้าย ว่าเข้าสู่โค้งสุดท้ายกันจริงจังแล้วนะครับ ดังนั้นมีตัวช่วย หรือมีทีเด็ดอะไรต้องงัดออกมาให้หมด อย่าลืมตั้งเป้าหมายของคุณให้ชัดเจน และดูแรงจูงใจของทีมต่างๆ ด้วย ขอให้โชคดีครับ

Picture : Fantasy Premier League, VOI, Sports Burnout, News Bulletin 247, TEAMtalk, This Is Anfield, MARCA, Sports Illustrated, YouTube, The Sportsman, Alley Sport, Liverpool FC, 90Min, Zee News, The Guardian, Arsenal