ฟาอิก เจฟรี่ โบลเกียห์ : เจ้าชายนักเตะ ผู้ขอพิสูจน์ผลงานในสนาม - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
ฟาอิก เจฟรี่ โบลเกียห์ : เจ้าชายนักเตะ ผู้ขอพิสูจน์ผลงานในสนาม

ชื่อของ “ฟาอิก เจฟรี่ โบลเกียห์” เป็นที่พูดถึงในแวดวงสื่อ และแฟนบอลบ้านเรามาแล้ว 2 ครั้ง 2 หน ในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หนแรกเป็นช่วงปลายปีที่ชลบุรี เอฟซี จัดการประกาศเซ็นเขามาร่วมทีม และอีกหนเร็วๆ นี้ ที่ผลงานของ “เจ้าชาย” เริ่มแสดงให้เห็นว่าเขามีฝีเท้าที่ดี หาใช่แค่ทรัพย์สินเงินทอง

“ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี เปิดตัวเซ็นฟาอิก เจ้าชายบรูไน มาร่วมทีมเมื่อปลายปีที่แล้ว
(Source : G3 Football)

แน่นอนว่าความร่ำรวย และทรัพย์สินส่วนตัวของฟาอิก (ขอเรียกจากชื่อหน้า) ไม่สามารถปฏิเสธได้ ว่าเขาน่าจะเป็นนักเตะที่รวยที่สุดในโลก ตามที่สื่อฝรั่งหลายสื่อเทียบถึง เรียกว่ารวยกว่า “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” หรือ “ลิโอเนล เมสซี่” เสียอีก

นอกจากเชื้อสายโดยตรง เพราะพระบิดาของเขาคือ “เจฟฟรี โบลเกียห์” พระอนุชา (น้องชาย) องค์เล็กของกษัตริย์ผู้ครองบรูไนอย่าง “สุลต่านฮัสนัล โบเกียห์” ที่คาดกันว่ามีทรัพย์สินราว 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ สื่อยังเคยตีข่าวถึงพระบิดา ซึ่งมีหน้าที่ดูแลกิจการหลายอย่างของครอบครัว มีรถหรูสะสมมากมาย และเคยถึงขั้นจ้างไมเคิล แจ็คสัน มาแสดงคอนเสิร์ตส่วนตัวให้ชม!

เจ้าชาย “เจฟฟรี โบลเกียห์” พระบิดาของฟาอิก อนุชาของสุลต่านผู้ครองบรูไน
(Source : Page Six)

อย่างไรก็ดี แม้จะมีภาพลักษณ์ติดมากับฐานะทางบ้านที่ร่ำรวย แต่สิ่งที่เจ้าชายฟาอิกต้องการพิสูจน์เสมอมา คือการยึดสถานะ ​“นักเตะอาชีพ” เพื่อพิสูจน์ว่าเขามีดีเพียงพอจะยืนหยัดในโลกลูกหนังที่คนดับมากกว่าคนรุ่ง ที่มาที่ไป และหนทางของฟาอิกจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง เราจะพาไปทำความรู้จักกันหน่อย

วัยเด็กในดินแดนแห่งฟุตบอล

ฟาอิกเกิดที่ลอส แองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 1998 พร้อมกับพี่สาวฝาแฝด “เคียน่า ฟาอิก โบลเกียห์” ที่ตามโลกออนไลน์ไม่มีเรื่องราวของเธอมากนัก ก่อนจะย้ายไปเติบโตที่อังกฤษ โดยอยู่แถบเบิร์คเชียร์ ซึ่งอยู่ไม่ห่างมหานครลอนดอนเท่าไหร่

“เคียน่า” พี่สาวฝาแฝดของฟาอิก ที่ข้อมูลแทบไม่มีบนโลกออนไลน์
(Source : Sportliva)

ตามประวัติในหลายที่ ฟาอิกย้ายไปอยู่กับลูกพี่ลูกน้อง และมี “เดนนิส วัลเลซ” อดีตนักบาสเก็ตบอล NBA เป็นคนดูแลในหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต รวมถึงความสนใจในด้านกีฬา ซึ่งฟาอิกชื่นชอบฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก โดยส่วนนึงอาจจะเพราะอยู่ท่ามกลางดินแดนแห่งฟุตบอล ที่ทุกคนมีฟุตบอลเปรียบเป็นดั่งอีกศาสนา

นอกจากลงเล่นให้ทีมในระดับหมู่บ้าน เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลจริงๆ จังๆ กับทีมท้องถิ่นที่ชื่อ “เอเอฟซี นิวบิวรี” ก่อนจะได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของเซาธ์แธมป์ตัน และได้ทดสอบฝีเท้ากับเรดดิ้ง ก่อนจะได้ร่วมทีมใหญ่อย่าง “อาร์เซน่อล” ในเวลาต่อมา

ความพยายามในแดนผู้ดี

ที่แคมป์เยาวชนปืนใหญ่ ฟาอิกได้เรียนรู้การพัฒนาไปสู่ลำดับขั้นต่อไปของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ บวกกับได้รับแรงสนับสนุนจากผู้เป็นพ่อเต็มที่ ทำให้เขามุ่งมั่นหันมาเอาดีทางฟุตบอล แม้สุดท้ายจะไม่ได้เติบโตในระบบเยาวชนของอาร์เซน่อลเท่าไหร่ก็ตาม

ฟาอิกในสีเสื้อของเชลซี ที่เขาเคยร่วมทีมในระยะเวลาสั้นๆ หลังจากอาร์เซน่อล
(Source : Daily Star)

ถัดจากอาร์เซน่อล ฟาอิกได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของ “เชลซี” ซึ่งแม้จะลงเอยคล้ายเดิม คือไม่สามารถขยับเข้าไปสู่ทีมชุดใหญ่ได้ แต่ก็เป็นโอกาสให้ได้ทดสอบฝีเท้ากับสโต๊ก ก่อนมาลงเอยกับ “เลสเตอร์” ซึ่งเขาได้สัญญานักเตะอาชีพ 3 ปี โดยเจ้าตัวขยับขึ้นไปถึงทีมสำรอง แม้สุดท้ายจะไม่ได้สัมผัสเกมชุดใหญ่เลยก็ตาม

กับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ฟาอิกได้สัญญาอาชีพ และขึ้นไปถึงทีมสำรองได้
(Source : 90Min)

ช่วงที่ฟาอิกดิ้นรนเล่นในระดับเยาวชนของสโมสรในอังกฤษ เจ้าตัวถูกจับตามองโดยทีมเยาวชนของสหรัฐอเมริกา ที่เขาสามารถเลือกเล่นได้จากถิ่นเกิด แต่สุดท้ายเขาก็เลือกรับใช้บรูไน และมีโอกาสได้ลงเล่นในซีเกมส์ปี 2015 ซึ่งเขาสามารถทำประตูได้ในเกมที่แพ้ติมอร์ 1-2 ก่อนจะได้ประเดิมทีมชาติชุดใหญ่ในอีกปีต่อมากับติมอร์เช่นกัน โดยปัจจุบันนี้ เจ้าตัวได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมชาติบรูไน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้จะมีอายุเพียง 23 ปี

ผจญภัยในโปรตุเกส

หลังอยู่กับเลสเตอร์ด้วยสัญญา 3 ปี และต่อเพิ่มอีก 1 ปี จนสุดท้ายแยกทางกันในปี 2020 ฟาอิกเซ็นสัญญาร่วมทีม “มาริติโม่” ทีมในลีกสูงสุดของโปรตุเกส โดยเจ้าตัวมีโอกาสใกล้เคียงที่สุดคือมีชื่อสำรองในเกมลีกกับสปอร์ติ้ง ลิสบอน

เส้นทางการค้าแข้งในโปรตุเกสจบลงในระยะเวลาซีซันเดียว โดยเล่นให้ทีมบี และยู-23 เป็นหลัก
(Source : VI Vandaag)

ฟาอิกได้ลงเล่นให้มาริติโม่ส่วนใหญ่ อยู่ในระดับทีมยู-23 และทีม “มาริติโม่ เบ” หรือทีมบีของสโมสร ซึ่งลงเล่นในลีกระดับ 3 ของโปรตุเกส ซึ่งเขาเองก็ได้รับโอกาสไม่มากนัก และอยู่ค้าแข้งในดินแดนฝอยทองแค่เพียงซีซันเดียว 2020/21

เจ้าชายฉลามชล

เมื่อช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมา วันที่ 24 ธ.ค. “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ได้จัดการแถลงเปิดตัวเซ็นฟาอิกมาร่วมทีมในโควต้าอาเซียน แน่นอนว่าสื่อ และแฟนบอล ต่างโฟกัสไปที่การเป็น “นักเตะที่รวยที่สุดในโลก” และความเป็น “ลูกท่านหลานเธอ” ของฟาอิกกันหมด พร้อมตามมาด้วยข่าวซุบซิบ ว่าชลบุรีเอามาโปรโมททีมบ้างล่ะ ราชวงศ์บรูไนจะเข้ามาซื้อหุ้นชลบุรีมั่งล่ะ หรือมีเลยเถิดไปว่า ฟาอิกจะได้รับสิทธิพิเศษอะไรหรือเปล่า

ฟาอิกเซ็นร่วมทีม “ฉลามชล” ด้วยการถูกจับตามองเรื่องอื่น มากกว่าฝีเท้าจริงๆ ของเขา
(Source : Khaosod)

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ตามที่หลายท่านทราบกัน ชลบุรีเองก็ปฏิบัติต่อฟาอิกเหมือนนักเตะทั่วไป และตัวฟาอิกเอง ก็มุ่งมั่นฝึกซ้อม และรอโอกาสลงเล่นเหมือนนักเตะย้ายมาใหม่ปกติ จนถึงตอนนี้ที่มีข่าวเขียนถึงกันครึกโครม สถานะของฟาอิกก็ยังเป็นตัวสำรองของฉลามชลซะเป็นส่วนใหญ่

ลีลาและความเร็วในการกระชาก และเปิดบอลในตำแหน่งริมเส้นฝั่งขวา ผลิตไปแล้ว 2 แอสซิสต์ จนคนเริ่มหันมาพูดถึงฝีเท้าของฟาอิกมากกว่าเรื่องทรัพย์สิน บวกกับความติดดิน จากการที่เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์สื่อบ้านเรา ว่าเงินเดือนประมาณ 1 แสนบาท, คอนโดเช่าเดือนละ 6,000 บาท และรถโตโยต้า ยาริส ก็ทำให้เขาใช้ชีวิตได้สบายไม่ลำบาก แถมยังไม่ต้องไปรบกวนบัตรเครดิตที่คุณพ่อเตรียมไว้ให้ใช้ ซึ่งหลายแหล่งบอกว่ามียอดใช้ได้ถึง 28 ล้านบาท

ฟาอิกเริ่มโชว์ผลงานให้ได้เห็น ว่าเขามีฝีเท้าไม่ธรรมดา ช่วยสร้างมิติให้ทีมได้
(Source : 90Min)

การเป็น Talk of the Town ถึงความติดดิน และมุ่งมั่นในฐานะนักฟุตบอลธรรมดาคนนึง ทำให้แฟนบอลเริ่มสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ แฟนฉลามชลเองก็มองฟาอิกเป็นขวัญใจคนใหม่ เริ่มมีธงชาติบรูไนเข้ามาเชียร์ในสนาม เป็นภาพที่น่ารักไปอีกแบบ

ความสำเร็จที่ความรวยช่วยไม่ได้

นอกจากความเป็นอยู่ที่บ้านเรา ในการสัมภาษณ์ออกสื่อของฟาอิก เขาตอบในสิ่งทั่วๆ ไปเพิ่มเติม เช่น ชอบทะเล อยากไปเที่ยวทะเลสวยๆ ของไทย, ชอบอาหารรสจัด อย่างต้มยำกุ้ง, ยังโสด ขอเน้นโฟกัสเรื่องฟุตบอลก่อน หรือการที่บอกว่าจะใช้ท่าสัญลักษณ์หัวใจแบบซีรีส์เกาหลี เป็นท่าฉลองหากยิงประตูได้ ทำให้เราเห็นความเป็นกันเอง และดูเข้าถึงได้กว่าภาพลักษณ์ก่อนนี้ ที่ต่างคนต่างมองว่าเขาเป็นนักเตะที่รวยที่สุดในโลก

ความสำเร็จยังต้องพิสูจน์กันอีกเยอะ แต่ตัวตนและความมุ่งมั่น เราเริ่มเห็นอะไรดีๆ จากฟาอิก
(Source : Thairath)

ถามว่าฟาอิกจะประสบความสำเร็จในอาชีพค้าแข้ง หรือกับชลบุรีมั้ย? จะตอบให้แน่ชัดตอนนี้คงจะเร็วไป แต่สิ่งที่เขาแสดงออกมา และน่าจะต่อยอดได้ดี คือความมุ่งมั่น และพร้อมต่อสู้บนเส้นทางในแบบนักฟุตบอลธรรมดาคนนึง ซึ่งจากประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่น้อย ก็น่าจะทำให้เขาไม่ถอดใจง่ายๆ และเชื่อว่าจะมีหลายคนที่รอติดตามเขา ในฐานะ “นักฟุตบอลฝีเท้าดี” หาใช่ “นักฟุตบอลที่รวยที่สุดในโลก”

Picture : Phonkha, G3 Football, Page Six, Sportliva, Daily Star, 90Min, VI Vandaag, Khaosod, Thairath

rocketseer

ทำงาน Sports content | บ้าบอล-เป็น The KOP | (เคย)บ้าดูหนัง-(เคย)ทำเพจหนัง | อยู่บ้านนาน ก็ชักเป็นบ้า!

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save