ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ขึ้นชื่อได้ว่า เป็นการแข่งขันที่เล่นด้วยความรวดเร็ว และดุดันลำดับต้นๆของวงการฟุตบอลเลยก็ว่าได้ และมีนักเตะหลายๆคนที่ปรับตัวไม่ได้ ซึ่งทำให้พวกเขาโชว์ฟอร์มไม่ออกจนต้องย้ายออกไปในท้ายที่สุด

อย่างไรก็ตาม มีผู้เล่นจำนวนหนึ่งที่กลับสร้างความประหลาดใจด้วยการโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมแม้พวกเขาจะอยู่ในช่วงปลายอาชีพแล้วก็ตาม และนี่คือ 5 แข้งจอมเก๋าที่พิสูจน์แล้วว่า อายุไม่ใช่ปัญหาสำหรับการเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี

1. เฟร์นานโด เอียร์โร่ (โบลตัน วันเดอเรอร์ส)

แซม อัลลาไดซ์ อดีตกุนซือ โบลตัน มีความสามารถในการดึงนักเตะชื่อดังมากประสบการณ์หลายๆคนเข้ามาเล่นกับพลพรรค “เดอะ ทร็อตเตอร์ส” ในช่วงปลายอาชีพอาทิ ยูริ จอร์เกฟฟ์ อดีตจอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส รวมถึง ออกุสติน เจย์ เจย์ โอโคชา ยอดมิดฟิลด์ทีมชาติไนจีเรีย และ เอียร์โร่ ก็คือหนึ่งในนั้น

หลังประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับทีมชาติสเปน และ เรอัล มาดริด เอียร์โร่ ก็โยกไปเล่นอับ อัล ราย์ยัน ในปี 2003 และหลังจากนั้น 1 ปี เขาก็ข้ามฝากมาเล่นในอังกฤษกับ โบลตัน ในวัยที่มากถึง 36 ปี แต่สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือ อดีตดาวเตะ “กระทิงดุ” ทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง

เอียร์โร่ กลายเป็นกำลังสำคัญให้กับ โบลตัน ทันที เขาลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ และกองกลางตัวรับได้อย่างยอดเยี่ยม โดยลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไปมากถึง 28 นัด ซึ่งรวมถึงการเป็นตัวจริง 15 นัดอีกด้วย แถมยังช่วยให้ “เดอะ ทร็อตเตอร์ส” จบฤดูกาลกด้วยอันดับ 6 ก่อนที่เขาจะประกาศแขวนสตั๊ด

2. เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม (ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์)

ตำนานศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ เพิ่งรับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักเตะอาชีพของอังกฤษ หรือ PFA กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2001 ด้วยวัยถึง 35 ปี และในซัมเมอร์เขาก็ตัดสินใจหวันกลับไปเล่นกับอดีตสโมสรเก่าอย่าง อตแน่ม ฮอทสเปอร์

เชอริงแฮม ไม่สนใจคำขอร้องจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ที่อยากให้อยู่ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต่อไป เนื่องจากเขาต้องการโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอแม้จะอยู่ในช่วงปลายอาชีพแล้วก็ตาม

เชอร์ริงแฮม ไม่ทำให้ สเปอร์ส ผิดหวังโดยตลอดการเซ็นสัญญาระยะเวลา 2 ปี เขาลงสนามไปรวมทุกรายการมากถึง 80 เกม ซัดไป 26 ประตู ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ พอร์ทสมัธ และย้ายไปแขวนสตั๊ดกับ โคลเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2008

3. สลาตัน อิบราฮิโมวิช (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

หลังจากประสบความสำเร็จตลอด 4 ฤดูกาลกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส อิบราฮิโมวิช ก็ต้องการมองหาความท้าทายใหม่ในอาชีพของตัวเอง และ แมนฯ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็เป็นปลายทางของเขา

ดาวยิงชาวสวีเดนย้ายมาเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2016 โดยเป็นคนซัดประตูชัยให้ “ปีศาจแดง” เอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 คว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ แถมยังทำประตูได้ในเกมนัดแรกของเขาในพรีเมียร์ลีกอีกด้วย และกลายเป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุดที่ทำประตูได้ในวัย 35 ปี 125 วัน

ในปีแรก อิบราฮิโมวิช ระเบิดสกอร์ในพรีเมียร์ลีกไปถึง 17 ประตู จาก 28 เกม และมีส่วนช่วยให้พลพรรค “ปีศาจแดง” คว้าแชมป์ยุโรป้า ลีก และฟุตบอลถ้วย ลีก คัพ ได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนจะอำลาสโมสรในปี 2018

4. แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ (ลิเวอร์พูล)

เชราร์ด อุลลิเย่ร์ อดีตโค้ชชาวฝรั่งเศสของ ลิเวอร์พูล เคยกล่าวถึงการเซ็นสัญญากับ แม็คอัลลิสเตอร์ในวัย 35 ปีแบบไร้ค่าตัวในปี 2000 ว่าเป็น “ผมคิดว่า เขาเป็นการเซ็นสัญญาที่สร้างแรงบันดาลใจมากที่สุดของสโมสรแห่งนี้”

แม้จะโดนไล่ออกจากสนามในเกมประเดิมสนามกับ อาร์เซนอล แต่ผลงาน และประสบการณ์ของอดีตกองกลางทีมชาติสก็อตแลนด์ ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญของเขาในการช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีก คัพ, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า คัพ โดย “ซูเปอร์ แม็ค” คว้ารางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมรอบชิงฯด้วย

        นอกจากนี้ แม็คอัลลิสเตอร์ ยังได้รับการยกย่องว่า มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีม ลิเวอร์พูล กลายเป็นยอดนักเตะในยรอบทศวรรษที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้

5. ทูกาย เคริโมกลู (แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส)

อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติตุรกีกลายเป็นนักเตะที่แฟนบอล แบล็คเบิร์น บูชาอย่างมากหลังย้ายจาก กลาสโกว์ เรนเจอร์ส มาเล่นกับ “กุหลาบไฟ” เมื่อปี 2001 และเขาก็ค้าแข้งอยู่ในถิ่นอีวู้ด ปาร์ค นานถึง 8 ซีซั่นเลยทีเดียว

ทูกาย เป็นผู้เล่นคนสำคัญของ แบล็คเบิร์น ตลอดหลายฤดูกาลถึงแม้เขาจะอยู่ในช่วงท้ายอาชีพก็ตาม โดยในวัย 35 ปี เขายังคงฟิตเหมือนนักเตะวัยรุ่น และการที่เขาสูบบุหรี่ 20 วันต่อวัน ก็ไม่ทำให้เขามีปัญหาในการลงสนามแต่อย่างใด

 ภาพประกอบ : dailystar.co.uk, vbetnews.com, skysports.com