ในวงการลูกหนังตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น มีผู้เล่นระดับโลกมากมายหลายต่อหลายคนที่ได้โชว์ลีลาให้แฟนบอลได้เห็นในสนาม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากทวีปแอฟริกา ซึ่งมีนักฟุตบอลระดับตำนานที่สร้างสีสรรค์ให้กับคอลูกหนังอย่างต่อเนื่อง

5 ยอดแข้งเหล่านี้ ได้รับการยกย่องว่า เป็นแข้งที่ดีที่สุดแห่งดินแดนบ้านเกิดของพวกเขา ซึ่งดูจากสถิติ และความสำเร็จต่างๆคงไม่มีใครกล้าปฏิเสธความยอดเยี่ยมของบรรดาผู้เล่นเหล่านี้อย่างแน่นอน

5. โมฮาเหม็ด ซาล่าห์

หนึ่งในสุดยอดกองหน้าของวงการฟุตบอลแห่งยุคปัจจุบัน ซาล่าห์ เริ่มเล่นฟุตบอลกับ อัล โมเกาลูน ในบ้านเกิดเมื่อปี 2010 และอีก 2 ปีต่อมามันก้าวสำคัญในอาชีพของเขาหลังย้ายมาเล่นในยุโรปกับ เอฟซี บาเซิ่ล

         ดาวเตะชาวอิยิปต์โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับ บาเซิ่ล จนทำให้ เชลซี คว้าตัวไปร่วมทีมในปี 2014 แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีโอกาสกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” ก่อนจะโดนปล่อยไปเล่นกับ ฟิออเรนติน่า และ โรม่า ด้วยสัญญายืมตัว

         อย่างไรก็ตาม ซาล่าห์ กลับมาระเบิดฟอร์มได้ยอดเยี่ยมอีกครั้งจนทำให้ ลิเวอร์พูล คว้าตัวเขาไปล่าตาข่ายเมื่อปี 2017 และเจ้าตัวก็กลายเป็นกำลังสำคัญช่วยให้พลพรรค “หงส์แดง” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ และแชมป์สโมสรโลกได้อย่างยิ่งใหญ่

4. ยาย่า ตูเร่

สุดยอดกองกลางแห่งยุค 2000 ตูเร่ สร้างชื่อให้กับตัวเองในช่วงปี 2007-2010 ให้กับ บาร์เซโลน่า ซึ่งเขาเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของพลพรรค “เจ้าบุญทุ่ม” รวมถึงพาทีมคว้าแชมป์ลา ลีกา ได้ 2 สมัย, ฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ และแชมป์สโมสรโลก

        หลังอำลาถ่น คัมป์ นู มิดฟิลด์ทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ก็มุ่งหน้ามาความท้าทายกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเขาก็อยู่รับใช้ “เรือใบสีฟ้า” ยาวนานถึง 8 ปี โดยลงเล่นไปรวมทุกรายการมากถึง 316 เกม ซัดไป 79 ประตู พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 3 สมัยเลยทีเดียว

         ในปี 2018 ตูเร่ อำลา แมนฯ ซิตี้ ย้ายไปเล่นกับ โอลิมเปียกอส และไปแขวนสตั๊ดกับ  ชิงเต่า หวงไห่ ในศึกไชนีส ซุเปอร์ ลีก เมื่อปี 2020

3. ซามูเอล เอโต้

หนึ่งในนักเตะที่ดี่สุดตลอดกาลของทีมชาติแคเมอรูน เอโต้ เริ่มเล่นฟุตบอลกับอคาเดมี่ของสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีโอกาสกับ “ราชันชุดขาว” จึงต้องย้ายไปแจ้งเกิดกับ เรอัล มายอร์ก้า

หลังทำผลงานถล่มประตูให้กับ มายอร์ก้า ได้เป็นกอบเป็นกำ บาร์เซโลน่า ก็คว้าตัว เอโต้ ไปร่วมทีม และนั่นก็คือ จุดเริ่มค้นที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างมากบนแผ่นดินยุโรปหลังพา “เจ้าบุญทุ่ม” คว้าแชมป์ลา ลีกา 2 สมัย และแชมป์ยูฟ่า แชมเปี่ยนส์ ลีก 2 สมัย โดยทำไปถึง 130 ประตู จาก 199 เกม

นอกจากนี้ ดาวยิง “หมอผี” ยังเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ อินเตอร์ มิลาน ภายใต้การคุมทัพของ โชเซ่ มูรินโญ่ โค้ชชาวโปรตุเกสคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ ในปี 2009 อีกด้วย

2. ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา

สุดยอดกองหน้าแห่งยุค 2000 ดร็อกบา สร้างชื่อกับ โอลิมปิก มาร์กเซย ในฝรั่งเศส ก่อนจะย้ายไปสร้างตำนานกับ เชลซี ภายใต้การทำงานร่วมกับ โชเซ่ มูรินโญ่ โค้ชชาวโปรตุเกส ซึ่งทั้งคู่เป็นหัวเรือสำคัญที่ทำให้ “สิงโตน้ำเงินคราม” เริ่มต้นยุคการเป็นมหาอาจของพรีเมียร์ลีก

ดร็อกบา ค้าแข้งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ นานถึง 8 ปี โดยลงเล่นไปรวมทุกรายการ 341 เกม ซัดไป 157 ประตู และยังหวนกลับมารับใช้ เชลซี เป็นรอบที่ 2 ในซีซั่น 2014-2015 อีกด้วย ซึ่งทำให้เขากลายเป็นที่รักของสาวก “สิงโตน้ำเงินคราม” ทุกๆคน

         หลังแขวนสตั๊ดกับ โฟนิก ริสซิ่ง ในปี 2018 ดร็อกบา ก็ได้ดำรงตำแหน่งรองประธานสมาคมนักฟุตบอลไอวอรีโคสต์ก่อนจะประกาศลาออกเมื่อปี 2021

1. จอร์จ เวอาห์

แฟนฟุตบอลในยุค 90 คงไม่มีใครไม่รู้จัก เวอาห์ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในระหว่างปี 1995-2000 ที่เขาเล่นให้กับ เอซี มิลาน และพาพลพรรค “รอสโซเนรี่” กวาดแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ได้ถึง 2 สมัย และเป็นช่วงที่เขาได้รับรางวัลบัลลังก์ ดอร์ อีกด้วย

         ตำนานกองหน้าชาวไลบิเรียเป็นหัวหอกที่จบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาด ความเร็วจัด และเทคนิคยอดเยี่ยม ซึ่งทำให้เขาได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในแนวรุกที่อันตรายที่สุดของโลกใสนช่วงที่กำลังพีค และในช่วงปลายอาชีพ เวอาห์ ยังมีโอกาสมาโชว์ฝีเท้าในเมืองผู้ดีกับ เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยเช่นกัน

ภาพประกอบ : goal.com, skysports.com