ในโลกของฟุตบอล ทีมมหาอำนาจลูกหนังมีอยู่หลายทีมผลัดเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย ทีมบาร์เซโลนาคือหนึ่งในนั้นเช่นกัน พวกเขาถูกขนานนามให้เป็นทีมที่ต้องเชิญไปเล่นกับทีมนอกโลกในยุคสมัยนึง ความสำเร็จมักเป็นม่านบังตาความล้มเหลว หลังจากบาร์เซโลนาครองความยิ่งใหญ่ได้มาได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นปี 2000 มาถึงตอนนี้พวกเขาต้องกลับมานับหนึ่งอีกครั้ง

เป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษที่บาร์เซโลนากลับมาครองความยิ่งใหญ่สมฉายา”เจ้าบุญทุ่ม” คว้ารางวัลมากมายและเป็นตัวเต็งในทุกรายการที่ลงแข่ง การบริหารทีมดูเฉิดฉายมีความพร้อมทั้งศูนย์ฝึกเยาวชน มีเงินในการดึงยอดนักเตะสู่ทีม และมีระบบการเล่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ครบองค์ประกอบของทีมยิ่งใหญ่ จากความครบครันนี้เองดูเหมือนบาร์เซโลนาจะเชิดหน้าชูตาอยู่บนบัลลังค์ได้อีกหลายร้อยปี ต่อให้แบ่งแยกประเทศออกมาเป็นของตัวเอง บาร์เซโลนาก็ไม่มีผลกับการสร้างทีม ผลพวงจากการพองขนในช่วงไม่กี่ปีหลังที่ทีมประสบความสำเร็จสูงสุด กลับต้องจมหายไปในช่วงพริบตา เพราะการบริหารงานที่ผิดพลาด แต่ทุกวิกฤตย่อมมีแสงสว่างเสมอ และแสงของบาร์เซโลนาถูกจุดประกายด้วยการกลับบ้านอีกครั้งของชายที่ชื่อ “ชาบี เฮอร์นันเดซ”

การมาของชาบีคือแสงแห่งศรัทธาของแฟนบอลเจ้าบุญทุ่ม หลังการเด้งโรนัลด์ คูมันออกจากตำแหน่ง การกลับมารับเผือกร้อนที่คัมป์นูดูจะเป็นงานที่ยากเกินกว่าโค้ชหนุ่มจะแก้ให้กลับมาเหมือนเดิมได้โดยเร็ว โดยเฉพาะการจากไปของลีโอเนล เมสซี่ที่ถือเป็นไพ่ตายของทีม ทำให้ผลงานของทีมต่ำกว่ามาตรฐานไปไกลมาก แต่อย่างน้อยที่สุดการมาของชาบีทำให้ได้เห็นการทำสิ่งใหม่ เพื่อกลับสู่รูปแบบที่บาร์เซโลนาวางรากฐานไว้

เรื่องช็อคที่สุดของบาร์เซโลนาดูจะเป็นเรื่องของการตกรอบแบ่งกลุ่มในรายการแชมป์เปี้ยนลีก ต้องระเห็จไปเล่นถ้วยยูโรป้าลีกในรอบ 17 ปี หลังแพ้ให้กับบาเยิร์นแบบหมดรูป 3-0 เรื่องนี้โทษอะไรชาบีไม่ได้ และสมควรเกิดขึ้นกับทีมในตอนนี้เป็นที่สุด เพราะการที่ขุมกำลังทีมกำลังประสบปัญหาแบบนี้การที่ได้เล่นในถ้วยรองดูจะเหมาะกว่ากับการพัฒนาเด็กหนุ่มที่มีอยู่ในทีม หรือจะเรียกว่าทำแต่พอตัวก็ดูจะไม่ผิดแปลกมากนัก

“เรากลับมาเริ่มต้นจากศูนย์ และเราต้องพาบาร์ซ่า กลับไปเล่นแชมเปียนส์ ลีกอีกครั้ง ผมต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เราต้องออกไป และคว้าแชมป์ยูโรปา ลีก” นี่คือคำพูดของชาบี เฮอร์นันเดซหลังทีมตกรอบแชมป์เปี้ยนลีก เป็นบทสัมถาษณ์เชิงบอกให้สาวกบาร์เซโลนารู้ถึงการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ต้องใช้เวลาขัดเกลาเหล่านักเตะเพื่อกลับสู่ยุคทองของทีมอีกครั้ง

ทำไมต้องเป็นชาบี เฮอร์นันเดซในการกอบกู้เอกราชของบาร์เซโลนา!?

“ไม่มีใครเหมาะสมที่สุดเหมือนกับเขา” เหตุผลที่ดีและเข้าท่ามากที่สุด เขามีทั้งความเป็นบาร์เซโลนา รักสโมสรสุดหัวใจ มีผลงานการคุมทีมที่ยอดเยี่ยม และเข้าใจปรัชญาพื้นฐานของบาร์เซโลนาเป็นอย่างดี การปลูกถ่ายพันธุกรรมบาเซโลนาจึงต้องเป็นเขาเท่านั้นในตอนนี้ แม้การเลือกตั้งประธานสโมสรของทีม ชาบีจะไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกับลาปอร์ต้า เรียกได้ว่าอยู่กันคนละขั้วอำนาจเลย แต่การที่เขาได้รับเลือกให้มาคุมทีมนั่นหมายถึงความเหมาะสมที่สุดในการคุมทีมต้องเป็นเขาเท่านั้น การมีชาบีทำให้เสียงของกลุ่มแฟนบอลที่ไม่ค่อยพอใจในการจัดสรรค์สโมสรของลาปอร์ต้าเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด และแฟนบอลบาร์ซ่าเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับทีมอยู่ในปัจจุบัน แฟนบอลต่างเชื่อว่ามนุษย์กลายพันธ์กลุ่มใหม่จะเกิดขึ้นมาได้อีกครั้งด้วยมือของ ชาบี เฮอร์นันเดซ

ใครได้ดูเกมของบาร์ซ่าหลังจากชาบีเข้ามารับงาน คงได้เห็นความแตกต่างทางด้านตัวผู้เล่นชัดเจนอยู่ไม่น้อย เขาให้เด็กจากลามาเซียเล่นเป็นส่วนใหญ่ เด็กน้อยเหล่านั้นอายุอานามยังไม่ก้าวเข้าเลขสองเลยด้วยซ้ำ โดยจะมีรุ่นใหญ่คอยคุมเกมให้ในตำแหน่งสำคัญๆ รูปเกมของบาร์ซ่าในยุคสมัยของชาบียังไม่กลับมาเป็นระบบติกิ-ตากะซะทีเดียว เขามีการเล่นบอลยาวด้วยในหลายจังหวะ นั่นอาจมาจากผลพวงของการทำทีมก่อนหน้านี้จากระบบเกมของคูมัน รวมถึงศักยภาพของตัวผู้เล่นที่ไม่ค่อยเหมาะหากเล่นบอลเท้าสู่เท้าเข้าสู่พื้นที่สุดท้าย ด้วยพื้นฐานทางด้านความเก๋ายังคงไม่พอ เราจะเห็นได้จากการที่การเก็บเกมตรงกลางของบาร์ซ่ายืนระยะกันได้ไม่นิ่งตลอดทั้งเกม จนมีอันต้องเสียประตูทำแต้มหล่นหายไปหลายแต้มจากการได้เปรียบคู่แข่งในเวลาการแข่งขัน

ยิ่งเรื่องซุปตาร์ประจำทีมคงยังไม่ต้องพูดถึง หลังการย้ายออกอย่างน่ากังขาของลีโอเนล เมสซี่ ดาวเด่นของทีมก็ตกเป็นของเดปาย อดีตเบอร์ 7 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คงจะวัดผลของทีมบาร์ซ่ากันได้ว่าจะไปอยู่จุดไหน ไม่ใช่จะเสียดสีเดปายแต่อย่างใด แต่เมื่อเทียบกับเมสซี่ที่แม้จะอายุปาไปไกลแล้ว ด้านศักยภาพยังคงแตกต่างกันชัดเจน และผลงานก็ชี้ชัดว่าเดปายช่วยกู้วิกฤตเป็นตัวแบกของบาร์ซ่าในชั่วโมงนี้ไม่ได้ หรือการพูดถึงเด็กหนุ่มที่น่าจับตามอง ก็ยังมองไม่เห็นภาพชัดๆในผลงานที่โดดเด่นจนต้องร้องว้าวออกมา

เปดรีห้องเครื่องจอมขยัน ออสก้า มินเกซา กับ อีไลน์ โมริบา กองหลังอนาคตไกล หรือแม้แต่อันซู ฟาติ ปีกความเร็วแสง แล้วกลับมาลองคิดถึงช่วงที่เมสซี่ขึ้นมาชุดใหญ่ ตอนนั้นเด็กหนุ่มอย่างโบยาน เกร์กิชก็ไม่ด้อยกว่าเมสซี่เลยในด้านสถิติ หรือเปโดรที่ยิงให้กับทีมทุกถ้วยที่ลงเล่น นี่คือเด็กต่างดาวของบาเซโลนา ขนาดทำได้ขนาดนั้น บางเกมยังเป็นได้เพียงสำรอง เมื่อกลับมาเทียบกับยุคนี้แล้ว การที่จะบอกว่าเด็กรุ่นใหม่เก่งจนเทียบกับยุคก่อนได้ ก็คงยังพูดได้ไม่เต็มปาก ด้วยความที่เด็กยุคของชาบีกำลังต้องการประสบการณ์ พวกเขาจำเป็นต้องมีผู้เล่นจอมเก๋าคอยปลูกประสบการณ์ผ่านอุปสรรคที่ยากที่สุดในช่วงเวลานี้ให้ได้ เพราะฟุตบอลสมัยนี้ต้องการความสำเร็จอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะกับทีมใหญ่

คุณสมบัติของชาบีตอบโจทย์บาร์เซโลนาได้จริงหรือ!?

คำตอบออกมาคงเป็นใช่ล้านเปอร์เซ็นต์ ดีเอ็นเอความเป็นบาร์เซโลนาเต็มเปี่ยม พร้อมทั้งรูปแบบการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวฉบับบาร์ซ่าเท่านั้น ชาบีทำให้เห็นกับการไปคุมทีมอัล ซาดด์ ในประเทศการ์ตา กลายเป็นทีมที่เล่นบอลเท้าสู่เท้าได้ไม่ต่างกับบาร์ซ่าสมัยที่ชาบีเล่นอยู่ไม่มีผิดเพี้ยน รูปเกมที่สวยงาม ตามมาด้วยถ้วยรางวัลเกียรติยศประดับบารมี แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย ชาบีเปลี่ยนทีมอัล ซาดด์ด้วยกาลเวลา เขาเป็นผู้เล่นที่นั่นตั้งแต่ 2015 และผันตัวมาเป็นโค้ชในปี 2019 นั่นทำให้เขาลงลึกในรายละเอียดเกมได้เป็นอย่างดี แต่กับที่บาร์ซ่า เวลาจะถูกบีบอัดให้เร็วขึ้น การการันตีผลงานย่อมต้องมาด้วยถ้วยรางวัลในระยะเวลาอันสั้น ชาบีเองมีระเบิดเวลาที่นับถอยหลังอยู่ แต่เขามีหน้าที่ยิ่งใหญ่กว่าปล่อยให้เวลาหมดลง เหล่าต่างดาวตัวน้อย ต้องเติมศักยภาพให้เร็วที่สุด เพราะนี่ถือเป็นเรื่องแรกที่จะต้องทำ เห็นได้ชัดว่านักเตะหนุ่มทั้งหลายขาดเพียงประสบการณ์เท่านั้นในการต่อกรกับทีมน้อยใหญ่ ชาบีต้องทำเพื่อตัวเขาเอง และเพื่อสโมสรที่เขาถือกำเนิดขึ้น อนาคตของบาร์เซโลนาอยู่ในมือเขา การกอบกู้ศรัทธาครั้งนี้จึงมาพร้อมกับปาฏิหาริย์ที่เสกความยิ่งใหญ่กลับมาให้กับบาร์เซโลนาอีกครั้ง