Valve ได้ทำการประกาศเปิดตัวเครื่องเล่นเกมพกพาใหม่ที่ชื่อว่า Steam Deck อีกหนึ่งทางเลือกสำรับใครที่ต้องการหาความแตกต่างในตลาดเครื่องเกมพกพาในตอนนี้

พร้อมวางจำหน่ายภายในเดือนธันวาคมและจะเปิดจองครั้งแรกในวันที่ 16 กรกฎาคมเป็นต้นไป มาพร้อมกับราคาเริ่มต้น $399 (ประมาณ 13,000 บาท) $529 (ประมาณ 17,200 บาท) และ $649 (ประมาณ 21,200 บาท)

ตัวเครื่องมาพร้อมกับการใช้งานฃิปเซ็ตภายในเป็นของทาง AMD แบบ APU จำนวนคอร์การทำงานแบบ 4 core 8 threads และจำนวน compute units 8 สถาปัตยกรรมแบบ Zen 2 ขณะที่ด้านกราฟิกใช้งานเป็นสถาปัตยกรรม RDNA 2 พร้อมแรม 16GB LPDDR5 ที่เก็บข้อมูลมีให้เลือกแตกต่างกันด้วยกันทั้งหมด 3 ขนาด 64GB (eMMC), 256GB (NVMe SSD) และ 512GB (NVMe SSD แบบความเร็วสูงพิเศษ) สามารถที่จะเพิ่ม microSD แยกได้ในทุกรุ่น

ตัวเครื่องมาพร้อมกับปุ่มควบคุมจำนวนมาก มี thumbsticks 2 จุด อีกทั้งยังมีตัว tracpads สำหรับควบคุมด้วยการสัมผัสตามแบบฉบับที่เราเคยได้เห็นใน Steam Controller มาให้ใช้งาน พร้อมปุ่ม ABYX และ D-pad ขณะเดียวกันหน้าจอของตัวเครื่องมีขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล หน้าจอรองรับการใช้งานแบบสัมผัสความละเอียดในการเล่นเกมสูงสุดที่ 720p ตัวเครื่องมี gyroscope มาให้ในตัว เช่นเดียวกับไมโครโฟนแบบฝังภายในเครื่องที่มีมาให้

ในส่วนของแบตเตอรี่ Steam Deck มีการเปิดเผยออกมาคร่าว ๆ หากเราเล่นเกมที่ไม่ได้ใช้ทรัพยากรอะไรมากนักเช่นเกม 2D ท่องเว็บไซต์ สามารถที่จะใช้งานได้ยาวนาน 7 – 8 ชั่วโมง แต่ถ้าเล่นเกมอย่าง Portal 2 ที่ 30 FPS จะเล่นได้อยู่ที่ประมาณ 5 – 6 ชั่วโมง มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่สามารถกดเพื่อหยุดเล่นชั่วขณะแล้วกลับมาเล่นต่อใหม่จากที่เดิมได้ทันที

และการเป็นเครื่องเล่นเกมพกพาในปัจจุบันสิ่งที่ขาดไปไม่ได้คงเป็นเรื่องของความสามารถในการต่อออกจอทีวีเนื่องจาก Valve เองก็มีการขายอุปกรณ์เสริมอย่าง dock สำหรับต่อ Steam Deck ออกจอใหญ่เพื่อเล่น ส่วนการต่อออกจอทาง Valve เผยว่าสามารถที่จะนำไปใช้งานเล่นกับจอ CRT ตัวเก่าได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการต่อผ่าน USB-C หรือจะเป็น HDMI อีกทั้งยังมี Ethernet และ USB มาให้ใช้งานที่ตัว dock อีกด้วย เช่นเดียวกับ Bluetooth

สำหรับระบบภายในที่ใช้งานของตัวเครื่องใช้เป็น SteamOS รุ่นใหม่ล่าสุดที่ถูกปรับแต่งมาให้เหมาะกับการใช้งานภายในเครื่องเล่นเกมพกพา แต่หากว่าเจาะรายละเอียดลงไปจริง ๆ จะพบว่ามันก็คือระบบ Linux ที่ใช้งาน Proton เพื่อให้สามารถเล่นเกมจาก Windows ได้ นั่นเอง ซึ่งการที่เป็นระบบที่มี Linux เป็นพื้นฐานส่งผลให้เราสามารถที่จะต่อเมาส์ คีย์บอร์ด หรือจอเพื่อใช้งานได้ เช่นเดียวกับการติดตั้งระบบอื่น ๆ ลงไปภายในเครื่อง

ความตั้งใจของทาง Valve ที่ผลิต Steam Deck ขึ้นมาเพื่อที่จะต้องการให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะเล่นเกมที่มีอยู่ภายใน Steam ได้ไม่แตกต่างกัน พร้อมกับฟีเจอร์ในการใช้งานที่ทำได้ทั้งแชทคุยกับเพื่อน การแจ้งเตือน เซฟผ่านระบบ cloud ทุกอย่างถูกเชื่อมถึงกันทั้งหมด และถ้าเกิดรู้สึกว่าตัวเครื่องแรงไม่พอก็ใช้งานฟีเจอร์ Remote Play มาทดแทนได้เช่นกัน

วันวางจำหน่ายจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมแต่จะจำกัดพื้นที่ในการขายไว้แถวโซนยุโรปและอเมริกาเท่านั้น ส่วนพื้นที่อื่น ๆ จะมีการขยายเพิ่มเติมในปี 2022 ใครที่สนใจก็เตรียมความพร้อมเอาไว้ได้เลย ส่วนว่า Steam Deck จะแจ้งเกิดได้หรือไม่คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

ที่มา – ThisIsGame