ในวงการฟุตบอลนั้น กองหน้า ถือเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดของทีมเลยก็ว่าได้เพราะพวกเขาเป็นคนคอยยิงประตูทำให้ทีมคว้าชัยชนะในแมตช์ต่างๆ ซึ่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีหัวหอกระดับพระกาฬมากมายที่สร้างชื่อให้แฟนบอลได้จดจำ

อย่างไรก็ตามมีศูนย์หน้าอีกจำนวนหนึ่งที่ถึงแม้พวกเขาจะผลิตสกอร์มากมายทั้งในระดับชาติ และระดับสโมสร แต่ก็ไม่ได้เป็นที่พูดถึงมากนัก อย่างเช่น 5 ดาวยิงต่อไปนี้ที่ไม่ได้รับการยกย่องมากเท่าที่ควรแม้ผลงานในสนามจะดีแค่ไหนก็ตาม

1. มาริโอ มานด์ซูคิช

         ดาวยิงชาวโครแอตถล่มประตูมามากมายตลอดอาชีพของเขาไล่ตั้งแต่แจ้งเกิดกับ ดินาโม ซาเกร็บ ในบ้านเกิด จากนั้น ย้ายมาเล่นกับ โวล์ฟบวก, บาเยิร์น มิวนิค, แอตเลติโก มาดริด, ยูเวนตุส, อัล-ดูฮาอิล และ เอซี มิลาน โดยรวมแล้วซัดไปมากกว่า 200 ประตูเลยทีเดียว

         มานด์ซูคิช เป็นกองหน้าที่จอมขยัน และทุ่มเทเพื่อทีมอย่างมาก ซึ่งในระยะหลังเขาก็ได้รับบทบาทเล่นเป็นตัวรุกริมเส้น และเจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย นอกจากนี้ ในนามทีมชาติโครเอเชีย นั้น เขาเป็นกำลังสำคัญของทีมมาตลอดหลายปี และเคยพาพลพรรค “ตราหมากรุก” เข้าชิงดำในฟุตบอลโลก 2018 มาแล้ว แต่น่าเสียดายที่ต้องพ่ายให้กับ ฝรั่งเศส

         หัวหอกวัย 35 ปี เพิ่งประกาศแขวนสตั๊ดไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเจ้าตัวถือเป็นหนึ่งในแข้งที่ประสบความสำเร็จในอาชีพจากการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล, 2 สมัย, ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, กัลโช่ เซเรีย อา 4 สมัย และโคปปา อิตาเลีย 3 สมัย

2. โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

ชิรูด์ ยังคงถูกมองข้ามมาโดยตลอดแม้เจ้าตัวจะเคยคว้าแชมป์กับทุกสโมสรที่เคยเล่นไล่ตั้งแต่ มงต์เปลลิเย่ร์ คว้าแชมป์ลีก เอิง 1 สมัย, อาร์เซน่อล คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 3 สมัย, เชลซี คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย และยูโรป้า ลีก 1 สมัย ที่สำคัญเขาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ร่วมกับฝรั่งเศสมาแล้ว

ขณะเดียวกัน หัวหอกจอมเก๋าวัย 34 ปี ซึ่งกำลังค้าแข้งกับ เอซี มิลาน นั้น ขึ้นแท่นเป็นนักเตะที่ผู้ทำประตูสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของพลพรรค “เลส์ เบลอส์” ด้วยผลงาน 46 ประตู จาก 117 นัด โดยมีเพียง เธียร์รี่ อองรี เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยิงได้มากกว่าเขาด้วยจำนวน 51 ปะตู

3. คาริม เบนเซม่า

ศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศสรับบทพระรองของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกทีมชาติโปรตุเกสในสโมสร เรอัล มาดริด มานานหลายปีแล้ว และทุกคนก็ลืมไปแล้วว่า เบนเซม่า เป็นกำลังสำคัญในแนวรุกของพลพรรค “ราชันชุดขาว” มานานกว่าทศวรรษแล้วหลังย้ายมาจาก โอลิมปิก ลียง เมื่อปี 2009

สถิติของ เบนเซม่า กับ มาดริด นั้น ยอดเยี่ยมมากๆหลังจากที่เจ้าตัวระเบิดสกอร์ให้กับทีมไปเกิน 280 ประตู พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ลา ลีกา 3 สมัย, แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 สมัย, ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ 3 สมัย และแชมป์สโมสรโลก 4 สมัย

ในวัย 33 ปี กองหน้าเฟรนช์แมนยังคงเป็นคีย์แมนในแนวรุกที่ มาดริด จะขาดไปไม่ได้เลย เขายังคงแข็งแกร่ง มีความเร็ว สัญชาตญาณยอดเยี่ยม และจบสกอร์ได้อย่างคมกริบ

4. โรเมลู ลูกากู

ชื่อของ ลูกากู อยู่ในวงการฟุตบอลยุโรปมานานแล้วหลังจากที่เขาแจ้งเกิดกับ อันเดอร์เลชท์ ด้วยวัยเพียง 16 ปี ก่อนจะโดน เชลซี คว้าตัวมาร่วมทีม และถูกปล่อยไปเล่นกับหลายสโมสรในพรีเมียร์ลีกอย่าง เวสต์บรอมวิช อัลเบียน, เอฟเวอร์ตัน, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

หัวหอกชาวเบลเยียมยิงประตูในอังกฤษได้อย่างมากมาย แต่เขาโชว์ฟอร์มไม่โดดเด่นนักกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเจ้าตัวก็ถูกขายให้กับ อินเตอร์ มิลาน และกลับมาระเบิดฟอร์มอีกครั้งด้วยการพา “งูใหญ่” คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ได้สำเร็จในรอบ 11 ปีของสโมสร

หลังทำผลงานกับ อินเตอร์ ได้อย่างยอดเยี่ยม เชลซี ก็ทุ่มเงินเกือบ 100 ล้านปอนด์ คว้าตัว ลูกากู กลับไปล่าตาข่ายอีกครั้ง และเขาก็กำลังเป็นคีย์แมนในการพาพลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม” ลุ้นแชมป์หลายรายการ ซึ่งตลอดอาชีพของเจ้าตัวนั้น ซัดไปมากกว่า 250 ประตู

5. ชิโร่ อิมโมบิเล่ (ลาซิโอ 150 ประตูจาก 219 เกม)

ชื่อของ อิมโมบิเล่ แทบจะไม่ถูกแฟนบอลนอกแดนมะกะโรนีกล่าวถึงนัก แต่เจ้าตัวก็ระเบิดสกอร์ไปให้ ลาซิโอ มากกว่า 150 ประตูแล้วหลังย้ายมาจาก เซบีย่า เมื่อปี 2016 และพาพลพรรค “อินทรีฟ้าขาว” คว้าแชมป์โคปา อาเลีย ได้ 1 สมัย

อิมโมบิเล่ เป็นเครื่องจักรถล่มประตูชั้นยอด และถึงแม้เขาจะไม่ประสบความสำเร็จในการเล่นในยุโรปกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ เซบีย่า นั้น แต่ตอนนี้ หัวหอกวัย 31 ปี กลับมาเฉียบคมเหมือนเดิม และยังเป็นคีย์แมนในเกมรุกของทีมชาติอิตาลีอีกด้วย

ภาพประกอบ : skysports.com