หากเอ่ยถึงหนึ่งในสโมสรฟุตบอลของศึกลาลีกา สเปน ที่ทำธุรกิจได้ประสบความสำเร็จมากที่สุดลำดับต้นๆในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา บาเลนเซีย คงอยู่ในลิสต์นั้นอย่างแน่นอน โดยทัพ “ไอ้ค้างคาว” ทำกำไรเข้าสู่ทีมได้อย่างมหาศาลจากการขายนักเตะของตัวเอง

แม้จะเสียผู้เล่นระดับคีย์แมนไปหลายคน แต่ บาเลนเซีย ก็ยังสามารถประคองตัวจนเป็นทีมชั้นนำของลีกกระทิงดุมาจนถึง ณ เวลานี้ และนี่คือ 10 นักเตะที่ได้รับการบันทึกว่า “ไอ้ค้างคาว” ขายได้มากที่สุด

10. ดาบิด ซิลบา

       ซิลบา เติบโตมาจากอคาเดมี่ของ บาเลนเซีย ก่อนจะถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2006 และอำลาสโมสรในปี 2010 ไปยัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 29 ล้านยูโร จอมทัพชาวสเปน ฝากผลงานกับ “ไอ้ค้างคาว” ด้วยการซัดไป 31 ประตู จากการลงสนาม 168 เกมรวมทุกรายการพร้อมคว้าแชมป์โคปา เด เลย์ 1 สมัย

        หลังย้ายไปเล่นกับ แมนฯ ซิตี้ ซิลบา ก็กลายเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกของทีมมาตลอด 10 ปี และพา “เรือใบสีฟ้า” ประสบความสำเร็จอย่างมากมายด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย และเอฟเอ คัพ 2 สมัย ก่อนจะอำลาถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาในฐานะตำนานสโมสร

9. โรแบร์โต้ โซลดาโด้

       โซลดาโด้ เป็นเด็กปั้นของ เรอัล มาดริด แต่แทบไม่มีโอกาสลงสนามให้กับ “ราชันชุดขาว” มากนักจึงทำให้เขาต้องย้ายมาเล่นกับ บาเลนเซีย ในปี 2010 และแจ้งเกิดได้อย่างสุดยอดด้วยการระเบิดสกอร์ไปถึง 81 ประตู จาก 141 เกมรวมทุกรายการตลอด 3 ปี

        ในปี 2013 หัวหอกชาวสเปน ถูกขายให้กับ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ด้วยค่าตัว 30 ล้านยูโร แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถปรับตัวกับการเล่นในพรีเมียร์ลีกได้หลังยิงไปเพียง 16 ประตู จาก 76 เกมรวมทุกรายการ จากนั้น โซลดาโด้ ก็โดนปล่อยตัวกลับไปเล่นในบ้านเกิดอีกครั้งกับ บียาร์เรอัล ในปี 2015

8. ปาโก้ อัลกาเซร์

       อีกหนึ่งเด็กลูกหม้อขนานแท้ของ บาเลนเซีย ที่เติบโตมาจากทีมเยาวชนก่อนจะถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2013 ซึ่ง อัลกาเซร์ ก็ทำผลงานให้กับ “ไอ้ค้างคาว” ได้อย่างน่าประทับใจด้วยการซัดไปถึง 43 ประตู จาก 124 เกมรวมทุกรายการ

        ในปี 2016 ดาวยิงสแปนิช ได้รับโอกาสครั้งใหญ่ในชีวิตด้วยการย้ายไปล่าตาข่ายกับ บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัว 30 ล้านยูโร แต่ อัลกาเซร์ กลับฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย และอยู่กับ “เจ้าบุญทุ่ม” ได้เพียง 2 ฤดูกาลเท่านั้น ก่อนจะถูกปล่อยให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในซัมเมอร์ปี 2018

7. โรดริโก้ โมเรโน่

       อีกหนึ่งอดีตดาวรุ่งของ เรอัล มาดริด ที่ไม่มีโอกาสแจ้งเกิดกับ “ราชันชุดขาว” โรดริโก้ ต้องตระเวนไปค้าแข้งกับ เบนฟิก้า, โบลตัน วันเดอเรอร์ส ก่อนจะมาระเบิดฟอร์มแจ้งเกิดกับ บาเลนเซีย ในระหว่างปี 2015-2020 ด้วยการฝากผลงาน 59 ประตู จาก 220 เกมรวมทุกรายการ

       ในปี 2020 ตัวรุกชาวสเปน ถูกปล่อยให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 30 ล้านยูโร และปัจจุบัน ดาวเตะวัย 29 ปี ลงเล่นให้กับพลพรรค “ยูงทอง” ไปแล้ว 15 เกม ซัดไป 3 ประตู พร้อมกับเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกของทีม

6. อันเดร โกเมซ

       มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกส เป็นเด็กปั้นของ เบนฟิก้า จากนั้น ย้ายมายัง บาเลนเซีย ในปี 2014 และก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ จากนั้น ในซัมเมอร์ปี 2016 โกเมซ ก็ย้ายไปยัง “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัว 37 ล้านยูโร

        กองกลาง “ฝอยทอง” ถูกคาดหมายว่า จะเข้ามาเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของ บาร์เซโลน่า แต่น่าเสียดายที่เขาโดนอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทำให้ไม่ได้งเล่นมากเท่าที่ควร และในปี 2018 โกเมซ ก็ถูกปล่อยให้ เอฟเวอร์ตัน ยืมตัวไปใช้งานก่อนจะย้ายมายัง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เป็นการถาวรในปี 2019  

5. ดาบิด บีย่า

       บีย่า ถือเป็นหนึ่งในการสูญเสียครั้งใหญ่ของ บาเลนเซีย เลยก็ว่าได้ หลังเจ้าตัวเป็นหัวใจสำคัญในแดนหน้าของ “ไอ้ค้างคาว” ในช่วงปี 2005-2010 พร้อมฝากผลงานซัดไป 129 ประตู จาก 225 เกมรวมทุกรายการ

        อดีตกองหน้าทีมชาติสเปน ถูกขายให้กับ บาร์เซโลน่า ในปี 2010 ด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโร โดย บีย่า ประสบความสำเร็จอย่างมากมายในทัพ “เจ้าบุญทุ่ม” ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย ก่อนจะอำลาถิ่นคัมป์ นู ในปี 2013 ไปเล่นกับ แอตเลติโก มาดริด

4. เจา คันเซโล่

       คันเซโล่ ทำกำไรให้กับ บาเลนเซีย อย่างมหาศาลหลังย้ายมาจาก เบนฟิก้า ในปี 2014 และ “ไอ้ค้างคาว” ขายให้กับ “เจ้าม้าลาย” ยูเวนตุส ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 40 ล้านยูโร ในซัมเมอร์ปี 2018

        แบ็คทีมชาติโปรตุเกส ค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ได้เพียงฤดูกาลเดียวก็ถูก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทุ่มเงิน 60 ล้านยูโร คว้าตัวไปเสริมทัพในเดือนปี 2019 และ ณ ตอนนี้ คันเซโล่ ก็กลายเป็นกำลังสำคัญในแนวรับของพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” ไปเรียบร้อยแล้ว

3. ชโคดราน มุสตาฟี่

       ค่อนข้างน่าแปลกใจไม่น้อยสำหรับ มุสตาฟี่ ที่ไม่เคยเล่นให้กับทีมในเยอรมันบ้านเกิดของตัวเองเลยแม้แต่สโมสรเดียว โดยกองหลังวัย 28 ปี เริ่มต้นค้าแข้งกับ เอฟเวอร์ตัน ก่อนย้ายไปแจ้งเกิดกับ ซามพ์โดเรีย จากนั้น ย้ายมายัง บาเลนเซีย ในปี 2014

        มุสตาฟี่ บัญชาเกมรับในถิ่นเมสตาย่า สเตเดี้ยม ตลอด 3 ปี ได้อย่างแข็งแกร่งก่อนจะถูกปล่อยให้กับ อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 41 ล้านยูโร ในปี 2017 และปัจจุบัน เซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวเยอรมัน ก็ยังคงเป็นสมาชิกคนสำคัญในทัพ “ไอ้ปืนใหญ่”

2. นิโกลัส โอตาเมนดี้

       อีกหนึ่งนักเตะที่ทำกำไรสุดงามให้กับ บาเลนเซีย โอตาเมนดี้ ย้ายจาก เอฟซี ปอร์โต้ มาเล่นในถิ่นเมสตาย่า สเตเดี้ยม ด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโรในปี 2014 จากนั้น ในปี 2015 เขาก็ถูกขายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวถึง 44 ล้านยูโร

        โอตาเมนดี้ เป็นกำลังสำคัญในแนวรับของ แมนฯ ซิตี้ มานานถึง 5 ปี โดยลงเล่นไปมากถึง 210 เกม พร้อมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย ก่อนจะถูกขายให้กับ เบนฟิก้า ในซัมเมอร์ปี 2020 ด้วยค่าตัวเพียง 15 ล้านยูโร

1. กาอิซก้า เมนเดียต้า

       สถิติของ เมนเดียต้า ที่ย้ายจาก บาเลนเซีย ไปยัง ลาซิโอ ในปี 2001 ด้วยค่าตัว 48 ล้านยูโร ยังคงเป็นอันดับหนึ่งที่ “ไอ้ค้างคาว” ขายออกจากสโมสรด้วยค่าตัวที่มากที่สุด โดยอดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสเปน ค้าแข้งในถิ่นเมสตาย่า สเตเดี้ยม นานถึง 9 ปี

        เมนเดียต้า เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของ บาเลนเซีย เลยก็ว่าได้ เขาลงเล่นไปมากถึง 300 เกม และยังเคยได้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม “ไอ้ค้างคาว” อีกด้วย ซึ่งการย้ายไปยัง ลาซิโอ ของเขานั้น ก็ทำให้แฟนบอลหลายคนเสียดายไม่น้อย

ภาพประกอบ : elmundo.es, mundodeportivo.com, libertaddigital.com, en.as.com, goal.com, besoccer.com, marca.com, provenquality.com, getfootballnewsspain.com