นับตั้งแต่ โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐาชาวรัสเซีย เข้ามาเทคโอเวอร์ เชลซี เมื่อปี 2003 นั้น “สิงโตน้ำเงินคราม” กลายเป็นสโมสรที่ร่ำรวยใช้จ่ายเงินอย่างมหาศาลแทบทุกรอบของตลาดนักเตะเพื่อซื้อผู้เล่นฝีเท้าดีมาร่วมทีม

        นักเตะชื่อดังหลายรายจากทั่วทุกมุมโลกถูกดึงตัวมายังถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยแรงเงินของ อบราโมวิช แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวังเอาไว้ โดยแข้ง 10 รายต่อไปนี้ ได้รับการจดจำว่า เป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของ เชลซี

10. มัตเตโอ โควาซิส

       มิดฟิลด์ทีมชาติโครเอเชีย ถูกยืมตัวมาจาก “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เมื่อปี 2018 ในยุคที่ เมาริซิโอ ซาร์รี่ โค้ชชาวอิตาเลียน กุมบังเหียน เชลซี จากนั้น ในซัมเมอร์ปี 2019 โควาซิส ถูกซื้อตัวมายังถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นการถาวรด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์

        ปัจจุบัน กองกลางวัย 26 ปี ยังคงเป็นกำลังสำคัญในทีมชุดแรกของ เชลซี โดยลงเล่นไปแล้วรวมทุกรายการมากกว่า 100 เกม ซัดไป 2 ประตู พร้อมกับพาพลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม” คว้าถ้วยยูโรป้า ลีก 1 สมัย

9. ติมู บากาโยโก้

       หลังทำผลงานให้กับ โมนาโก ได้อย่างยอดเยี่ยม เชลซี ภายใต้การนำทัพของ อันโตนิโอ คอนเต้ ยอดเทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน ก็ตัดสินใจทุ่มเงิน 40 ล้านปอนด์ คว้าตัว บากาโยโก้ มาเสริมทัพในปี 2017 พร้อมเซ็นสัญญายาวถึง 5 ปี

        อย่างไรก็ตาม มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศส ไม่สามารถปรับตัวกับการเล่นในพรีเมียร์ลีกได้ เขาอยู่กับ เชลซี ได้เพียงปีเดียวลงเล่นไป 43 เกม ซัดไป 3 ประตู ก่อนจะถูกปล่อยให้ เอซี มิลาน ยืมตัวไปใช้งานในซัมเมอร์ปี 2018

        หลังอาลำ เชลซี บากาโยโก้ ก็ยังไม่ได้กลับไปเล่นให้กับทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” อีกเลย โดยเวลานี้ ดาวเตะวัย 26 ปี กำลังเล่นให้กับ นาโปลี ด้วยสัญญายืมตัว

8. ติโม แวร์เนอร์

       แม้จะตกเป็นข่าวกับหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปอย่าง บาเยิร์น มิวนิค และ ลิเวอร์พูล แต่สุดท้ายกลายเป็น เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่ได้ตัว แวร์เนอร์ ไปล่าตาข่ายเมื่อซัมเมอร์ปี 2020 หลังจ่ายเงิน 47.5 ล้านปอนด์ ให้กับ แอร์เบ ไลป์ซิก

        ในช่วงแรก หัวหอกทีมชาติเยอรมัน ทำผลงานให้กับ เชลซี ได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในพรีเมียร์ลีก และศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่หลังจากนั้น แวร์เนอร์ กลับฟอร์มตกอย่างไม่น่าเชื่อ โดยหลายคนมองว่า เขาถูก แลมพาร์ด จับไปเล่นตำแหน่งที่ไม่ถนัด

        อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ เชลซี ประกาศปลด แลมพาร์ด ไปเรียบร้อยแล้ว และแต่งตั้ง โธมัส ทูเคิ่ล โค้ชชาวเยอรมันเพื่อนร่วมชาติของ แวร์เนอร์ เข้ามาคุมทัพแทน ซึ่งอาจเป็นผลดีที่ทำให้ ดาวยิงวัย 24 กลับมาระเบิดฟอร์มเก่งอีกครั้ง

7. เบน ชิลเวลล์

       ชิลเวลล์ เป็นเด็กลูกหม้อของ เลสเตอร์ และแจ้งเกิดกับ “สุนัขจิ้งจอก” ได้อย่างน่าประทับใจตลอด 1-2 ฤดูกาลที่ผ่านมาก่อนจะถูก เชลซี ในยุค แฟรงค์ แลมพาร์ด คว้าตัวมาเสริมแนวรับด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ปี 2020

        แบ็คซ้ายทีมชาติอังกฤษ เข้ามายกระดับเกมฝั่งซ้ายของ เชลซี ได้อย่างยอดเยี่ยม และเบียดคู่แข่งในตำแหน่งเดียวกันอย่าง เอเมอร์สัน พัลมิเอรี่ ดาวเตะแซมบ้า และ มาร์กอส อลอนโซ่ ฟูลแบ็คสแปนิช จนหลุดไปเป็นตัวสำรอง

        ชิลเวลล์ ลงเล่นให้กับ เชลซี ไปแล้วรวมทุกรายการ 23 เกม ซัดไป 2 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ และสถิติของเจ้าตัวยังไม่หยุดแค่นี้แน่นอน

6. เฟร์นานโด ตอร์เรส

       หนึ่งในการทำธุรกิจที่ผิดพลาดมากที่สุดของ เชลซี ตอร์เรส ถูกคว้าตัวมาจาก ลิเวอร์พูล ในเดือนมกราคมปี 2011 ในยุคกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ ด้วยค่าตัวถึง 50 ล้านปอนด์ พร้อมกับได้รับการคาดหมายว่า จะเข้ามาเป็นกำลังสำคัญในเกมรุกของ “สิงห์บลูส์”

        อย่างไรก็ตาม อดีตหัวหอกทีมชาติสเปน ลืมฟอร์มเก่งสมัยที่ยังเล่นให้กับ “หงส์แดง” ไปอย่างไม่น่าเชื่อ เขาฟอร์มตก และสูญเสียความมั่นใจไปอย่างสิ้นเชิง โดยมีสถิติลงเล่นให้ เชลซี ไปรวมทุกรายการ 172 เกม ยิงไป 45 ประตู

        ในปี 2014 ตอร์เรส ถูกปล่อยให้ เอซี มิลาน ยืมตัวไปใช้งาน จากนั้น เขากลับไปเล่นให้กับอดีตต้นสังกัดเก่าอย่าง แอตเลติโก มาดริด ถึงปี 2018 ก่อนจะย้ายไปเล่นในญี่ปุ่นกับ ซางัน โทสุ และแขวนสตั๊ดเมื่อปี 2019

5. จอร์จินโญ่

       จอร์จินโญ่ เป็นคีย์แมนคนสำคัญในแดนกลางของ นาโปลี ในระหว่างปี 2013-2018 ก่อนจะย้ายตาม เมาริซิโอ ซาร์รี่ เจ้านายเก่าที่ “อัซซูร่า” มาร่วมงานกันที่ เชลซี ด้วยค่าตัว 57 ล้านปอนด์ พร้อมเซ็นสัญญายาว 5 ปี

       ห้องเครื่องทีมชาติอิตาลี ยังคงเป็นสมาชิกในทีมชุดแรกของ เชลซี มาจนถึง ณ เวลานี้ โดยลงเล่นไปรวมทุกรายการมากกว่า 100 เกม ซัดไป 13 ประตู พร้อมกับพาพลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม” คว้าถ้วยยูโรป้า ลีก 1 สมัย

4. คริสเตียน พูลิซิส

       หลังปล่อย เอเด็น อาซาร์ ปีกทีมชาติเบลเยียม ไปให้กับ เรอัล มาดริด ในซัมเมอร์ปี 2019 เชลซี ก็รีบหาตัวแทนด้วยการดึง พูลิซิส จาก “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เข้ามาเสริมทัพด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 58 ล้านปอนด์

        ปีกทีมชาติสหรัฐอเมริกา ยังคงอยู่ในระหว่างปรับตัวกับการเล่นในอังกฤษ เขาค่อยๆมีบทบาทในทีมชุดแรกของ เชลซี และศักยภาพของเขานั้น จะสามารถเข้ามาแทนที่ อาซาร์ ได้อย่างแน่นอน โดย ดาวเตะวัย 22 ปี ลงเล่นให้กับ “สิงห์บลูส์” ไปรวมทุกรายการ 52 เกม ซัดไป 13 ประตู

3. อัลบาโร่ โมราต้า

       ศูนย์หน้าทีมชาติสเปน ถูก เชลซี ในยุค อันโตนิโอ คอนเต้ คว้าตัวมาจาก เรอัล มาดริด ในซัมเมอร์ปี 2017 ด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ แต่เขาไม่ประสบความสำเร็จนักหลังลงเล่นไปรวมทุกรายการ 72 เกม ยิงไปเพียง 24 ประตู

        โมราต้า ถูกปล่อยให้กับ แอตเลติโก มาดริด ในเดือนมกราคมปี 2019 และปัจจุบัน เขากำลังเล่นให้กับ “เจ้าม้าลาย” ยูเวนตุส ด้วยสัญญายืมตัว 

2. เกป้า อาร์รีซาบาลาก้า

       เกป้า กลายเป็นผู้รักษาประตูที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกทันทีหลังย้ายจาก แอธเลติก บิลเบา มาเฝ้าเสากับ เชลซี ด้วยค่าตัว 71 ล้านปอนด์ ในซัมเมอร์ปี 2018 และปัจจุบันยังไม่มีนายทวารคนใดสามารถทำลายสถิติค่าตัวของเขาได้

        ในช่วงแรก มือกาวชาวสเปน ยึดตำแหน่งมือ 1 ของ เชลซี มาได้อย่างต่อเนื่อง แต่ในช่วงหลังเขาฟอร์มตก และมักก่อความผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในฤดูกาลนี้ เขาต้องตกเป็นตัวสำรองของ เอดูอาร์ด เมนดี้ โกล์ทีมชาติเซเนกัล ที่ย้ายมาจาก แรนส์ เมื่อซัมเมอร์ปี 2020  

1. ไค ฮาแวร์ตส์

       ตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา ฮาแวร์ตส์ ได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในวงการลูกหนังเยอรมัน และก็ไม่แปลกใจเลยที่ เชลซี จะยอมทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสร 72 ล้านปอนด์ ให้กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น คว้าตัวเขามายังถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อซัมเมอร์ปี 2020  

        อย่างไรก็ตาม ฮาแวร์ตส์ ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งสมัยที่อยู่กับ เลเวอร์คูเซ่น ออกมาได้ และดูเหมือนว่า เขายังหาตำแหน่งที่แจริงของตัวเองไม่เจอ แต่การที่ โธมัส ทูเคิ่ล โค้ชชาวเยอรมันเพื่อนร่วมชาติได้เข้ามาทำงานที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด นั้น ก็อาจทำให้ ดาวเตะวัย 21 ปี กลับสู่ฟอร์มที่ดีอีกครั้ง

        ฝีเท้าของ ฮาแวร์ตส์ ยังสามารถพัฒนาไปได้อีกไกล และหากคืนฟอร์มได้ เขาจะกลายเป็นนักเตะคนสำคัญของ เชลซี ไปได้อีกหลายปีแน่นอน

ภาพประกอบ : skysports.com