ในวงการลูกหนังทั่วโลกนั้น สถิติการระเบิดสกอร์ของนักเตะแต่ละคนต่างอยู่ในความในความสนใจของแฟนบอลส่วนใหญ่ แต่สถิติการแอสซิสต์ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่คอบอลไม่น้อยคอยติดตามอยู่เสมอ และตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็จะมีสุดยอดแข้งจอมจ่ายบอลส่งให้เพื่อนซัดประตูได้เป็นกอบเป็นกำ

10 อันดับสุดยอดผู้เล่นเหล่านี้ได้รับการจารึกว่า เป็นคนทำสถิติถวายพานให้เพื่อนยิงประตูคู่แข่งมากที่สุดตลอดกาลในวงการฟุตบอล

10. สเตฟเฟ่น ฮอฟแมนน์ (208 แอสซิสต์)

       ชื่อของ ฮอฟแมนน์ อาจไม่เป็นที่คุ้นหูนักของแฟนบอลส่วนใหญ่ เพราะเส้นทางอาชีพของเขาส่วนใหญ่เล่นให้กับสโมสรที่ไม่โด่งดังนักอย่าง 1860 มิวนิค และราปิด เวียนนา ซึ่งเป็นทีมสุดท้ายของเจ้าตัวก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2018

        ฮอฟแมนน์ ลงเล่นฟุตบอลตลอดอาชีพของเขาไปมากกว่า 600 เกมเลยทีเดียว และปัจจุบันในวัย 41 ปี เขายังทำงานเบื้องหลังให้กับ ราปิด เวียนนา ทั้งในตำแหน่งสตาฟฟ์โค้ช และแมวมอง

9. ฟร้องค์ ริเบรี่ (228 แอสซิสต์)

       สุดยอดปีกชาวฝรั่งเศสเริ่มต้นค้าแข้งกับทีมเล็กๆในบ้านเกิดอย่าง บูโลญจน์ และตระเวนไปเล่นกับอีกหลายสโมสรก่อนจะพัฒนาตัวเองจนโด่งดังเป็นพลุแตกกับ โอลิปิก มาร์กเซย จากนั้น ในปี 2007 บาเยิร์น มิวนิค ก็ทุ่มเงิน 25 ล้านปอนด์ คว้าตัวไปเสริมทัพ

        ริเบรี่ ค้าแข้งกับ บาเยิร์น นานถึง 12 ปี พร้อมประสบความสำเร็จกับพลพรรค “เสือใต้” มากมายด้วยการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 9 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยส์ ลีก 1 สมัย ลงเล่นไปมากกว่า 400 เกม พร้อมกับได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสรไปแล้ว

        ในซัมเมอร์ปี 2019 ตัวรุกเฟรนช์แมน อำลา บาเยิร์น ไปเล่นกับ ฟิออเรนติน่า และปัจจุบันในวัย 37 ปี ริเบรี่ ยังคงเป็นคนสำคัญในเกมรุกของ “ม่วงมหากาฬ”อยู่เลย

8. ชาบี เอร์นานเดซ (230 แอสซิสต์)

       หนึ่งในตำนานของทีมชาติสเปน และ บาร์เซโลน่า ชาบี เป็นลูกหม้อขนานแท้ของ “เจ้าบุญทุ่ม” ก่อนจะไต่เต้าจากทีมเยาวชนมาสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 1998 และกลายเป็นมิดฟิลด์ตัวหลักของสโมสรตลอด 20 ปี ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ อัล ซาดด์ ในกาตาร์ เมื่อปี 2015

        ในปี 2019 อดีตกองกลาง “กระทิงดุ” ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการกับ อัล ซาดด์ จากนั้น ชาบี ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีม อัล ซาดด์ จนถึง ณ ปัจจุบัน และในอนาคตคงไม่มีอะไรน่าแปลกใจหากเขากลับไปกุมบังเหียนทีมเก่าอย่าง บาร์เซโลน่า

7. โธมัส มุลเลอร์ (242 แอสซิสต์)

       ดาวเตะทีมชาติเยอรมัน มีฟอร์มการเล่นคงเส้นคงมาตลอดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เขาสามารถเล่นทุกตำแหน่งในแนวรุกทั้งหัวหอกตัวเป้า, กองหน้าตัวต่ำ, False9, ตัวรุกริมเส้นฝั่งซ้าย และตัวรุกริมเส้นฝั่งขวา ซึ่งบทบาทที่เขาได้รับนั้น คุณภาพไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย     

       มุลเลอร์ เป็นเด็กปั้นของ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนจะได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2008 จนถึง ณ ปัจจุบัน เขาก็ยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ “เสือใต้” จะขาดไปไม่ได้เสียแล้ว โดยในวัย 31 ปี เขากวาดแชมป์มานับไม่ถ้วนทั้งกับสโมสร และทีมชาติ

6. เชส ฟาเบรกาส (243 แอสซิสต์)

       ฟาเบรกาส เป็นนักเตะฝึกหัดของ บาร์เซโลน่า แต่เขาได้แจ้งเกิดกับ อาร์เซน่อล ในปี 2004 ภายใต้การคุมทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ โค้ชชาวฝรั่งเศส จากนั้น ในปี 2011 มิดฟิลด์ชาวสเปน ย้ายกลับไปค้าแข้งกับ “เจ้าบุญทุ่ม” อีกครั้ง

        อย่างไรก็ตาม  ฟาเบรกาส ไม่ค่อยได้รับโอกาสจาก บาร์เซโลน่า มากนัก จึงทำให้เขาตัดสินใจย้ายมาเล่นในอังกฤษอีกครั้งกับ เชลซี ในปี 2014 ก่อนจะย้ายไป โมนาโก ในปี 2018 จนถึงเวลานี้ โดยในวัย 33 ปี เขายังบัญชาการเกมแดนกลางให้กับ โมนาโก ได้อย่างสุดยอด

5. อังเคล ดิ มาเรีย (248 แอสซิสต์)

       ดิ มาเรีย แจ้งเกิดกับ โรเซริโอ เซนทรัล ในบ้านเกิดอาร์เจนติน่า ก่อนจะย้ายมาโด่งดังกับ เบนฟิก้า ในปี 2007 จากนั้น เขาก็ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรดังทั่วยุโรปอย่าง เรอัล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จนถึงเวลานี้

        ตลอดเส้นทางอาชีพของ ดิ มาเรีย นั้น เขาประสบความสำเร็จอย่างนับไม่ถ้วนกับทุกสโมสร และในวัย 32 ปี ปีกอาร์เจนไตน์ กำลังเข้าสู่ช่วงท้ายของตัวเองแล้ว และเป็นไปได้ว่า เปแอสเช อาจจะปล่อยเขาออกจากสโมสรในซัมเมอร์ที่จะถึงนี้

4. เมซุต โอซิล (256 แอสซิสต์)

       อดีตเพลย์เมคเกอร์ทีมชาติเยอรมันโด่งดังขึ้นมากับ ชาลเก้ 04 ก่อนจะย้ายไประเบิดฟอร์มกับ แวร์เดอร์ เบรเมน ในระหว่างปี 2007-2010 และไปกอบโกยความสำเร็จกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เป็นเวลาถึง 4 ปี เต็ม

        ในปี 2013 โอซิล ย้ายจาก มาดริด มาเล่นกับ อาร์เซน่อล และกลายเป็นขวัญใจแฟนบอล “เดอะ กันเนอร์ส” มาตลอดก่อนที่ มิเกล อาร์เตต้า เทรนเนอร์ชาวสเปนจะเข้ามาคุม “ไอ้ปืนใหญ่” และตัดเขาออกจากทีมชุดแรก

        การไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ อาร์เตต้า นั้น ทำให้ดาวเตะวัย 32 ปี ตัดสินใจยกเลิกสัญญากับ อาร์เซน่อล และย้ายมาค้าแข้งกับ เฟเนร์บาห์เช่ ในลีกตุรกีเมื่อวันที่ 27 มกราคมปี 2021 ท่ามกลางความเสียใจของสาวก “ไอ้ปืนใหญ่”

3. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (265 แอสซิสต์)

       ไม่มีอะไรน่าเซอร์ไพรส์ที่ชื่อของ โรนัลโด้ จะติดอยู่ในลิสต์นี้ โดยปีกซุเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกส โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดตลอดหลายปีแล้ว ซึ่งสภาพร่างกาย ความฟิต ความมุ่งมั่น และผลงานส่วนตัวของเขาแทบไม่ได้ดร็อปลงเลย

        ในวัย 35 ปี  โรนัลโด้ ยังคงรักษาระดับการเล่นไว้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เขายังเป็นกำลังหลักในแนวรุกของ “เจ้าม้าลาย” ยูเวนตุส ในการไล่ล่าความสำเร็จฤดูกาลนี้ และหากมองจากทัศนคิตสุดยอดมืออาชีพของเขานั้น เจ้าตัวยังสามารถครองโลกลูกหนังไปได้อีกหลายปีเลยทีเดียว

2. หลุยส์ ซัวเรซ (268 แอสซิสต์)

       หนึ่งในสุดยอดกองหน้าแห่งทศวรรษที่ผ่านมา ซัวเรซ ระเบิดฟอร์มได้อย่างสุดยอดให้กับทุกสโมสรที่เขาเคยเล่นด้วยไล่ตั้งแต่ นาซิอองนาล, โกริงเก้น, อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม, ลิเวอร์พูล, บาร์เซโลน่า และล่าสุดกับ แอตเลติโก มาดริด

        แม้จะถูกแฟนบอลฝั่งตรงข้ามมองว่า เป็นนักเตะจอมตุกติก แต่สำหรับทีมต้นสังกัดนั้น ต่างมองว่า หัวหอกชาวอุรุกวัย เป็นนักเตะจอมทุ่มเท และสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ทีมได้รับชัยชนะ โดยตอนนี้ในวัย 34 ปี ซัวเรซ ก็ยังโชว์ฟอร์มให้กับ แอตฯ มาดริด ได้อย่างยอดเยี่ยม

1. ลิโอเนล เมสซี่ (335 แอสซิสต์)

       สุดยอดนักเตะแห่งยุค และเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 6 สมัย ซึ่งทุกรางวัลส่วนตัว และความสำเร็จในฐานะทีมกับ บาร์เซโลน่า นั้น บ่งบอกถึงคุณภาพของ เมสซี่ ได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่า สถิติแอสซิสต์ที่ ตัวรุกชาวอาร์เจนไตน์ ทำไว้คงไม่มีใครทำลายลงได้ง่ายๆแน่นอน

        ปัจจุบัน เมสซี่ ในวัย 33 ปี ยังลงโลดแล่นบัญชาการเกมรุกให้กับ บาร์เซโลน่า อยู่เลย และหากเขาประกาศอำลาสนามไปแฟนบอลทั่วโลกคงคิดถึงผู้ชายคนนี้อย่างแน่นอน

ภาพประกอบ : spox.com, en.as.com, 90min.com,talksport.com, marca.com, skysports.com