ทุกคนเกิดมาบนโลกนี้พร้อมกับความไม่สมบูรณ์แบบ แม้แต่คนที่เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย เหมือนจะสมบูรณ์เพียบพร้อมไปซะทุกเรื่อง แต่ในชีวิตจริงทุกชีวิตก็ล้วนแล้วแต่ต้องเผชิญกับความไม่สมบูรณ์แบบทั้งนั้น เพราะความไม่สมบูรณ์คือ สัจจะธรรม
ไม่มีสิ่งใดในจักรวาลนี้ถือกำเนิดมาพร้อมกับความสมบูรณ์แบบ ดังนั้นจึงสมควรอย่างยิ่งที่เราทุกคนต้องพร้อมที่จะยอมรับมันและเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับความไม่สมบูรณ์แบบ ซึ่งหลักการ คินซึงิ (Kintsugi) ปรัชญาเซนจากประเทศญี่ปุ่นสามารถนำมาปรับใช้กับการอยู่ร่วมกับความไม่สมบูรณ์แบบได้เป็นอย่างดี ดังที่เราจะนำเสนอให้เพื่อนๆ ทุกคนได้รู้จักในครั้งนี้ ตามมาดูกันเลย
ต้นกำเนิดของปรัชญา “คินซึงิ”
ในช่วงปี ค.ศ. 1450 ท่านโชกุนผู้ทรงอำนาจแห่งแดนอาทิตย์อุทัยนามว่า อาชิกางะ ได้พบว่าเครื่องปั้นดินเผาสุดที่รักของตนแตกออกเป็นชิ้น โชกุนผู้นี้มีความปรารถนาที่จะให้ช่างดินเผาที่ฝีมือดีที่สุด ซ่อมเครื่องปั้นดินเผาชิ้นนั้นให้กลับมาสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยเหตุนี้ยอดช่างดินเผาจึงได้คิดค้นวิธีการประสานดินเผาที่แตกด้วยการใช้แลกเกอร์ที่ทำจากทองคำ จากนั้นจึงค่อยนำชิ้นส่วนของเครื่องปั้นดินเผาที่แตกนั้นมาต่อประสานเข้าด้วยกันจนได้ชิ้นงานที่กลับมาสมบูรณ์แบบที่สุด สร้างความประทับใจแก่โชกุนเป็นอย่างมาก
เหตุการณ์ในครั้งนั้นกลายเป็นที่เล่าขาน และได้ก่อให้เกิดปรัชญาใหม่ในลัทธิเซนที่มีชื่อว่า คินซิงิ (Kintsugi) ซึ่งคำๆ นี้เป็นการนำเอาคำ 2 คำมาประกอบเข้าด้วยกันคือ Kin ที่แปลว่า ทองคำ และ Tsugi ที่แปลว่า ประสาน รวมกันก็แปลว่า ประสานเข้าด้วยทองคำ ซึ่งในเวลาต่อมา นักปราชญ์ชาวญี่ปุ่นก็ได้นำหลักการของคินซึงิมาเปรียบกับหลักการใช้ชีวิตของคนเรา เพราะชีวิตของทุกคนไม่สมบูรณ์แบบ เหมือนกับเครื่องปั้นดินเผาที่แตกร้าว แต่เราสามารถประสานความไม่สมบูรณ์แบบทั้งหลายเข้าไว้ด้วยกันกลายเป็นตัวเราที่สมบูรณ์ที่สุด ทำให้หลัก คินสึงิ กลายเป็นวิธีโอบกอดความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเองที่ดีที่สุด ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
ยอมรับ
เพราะเราทุกคนไม่สามารถสมบูรณ์แบบได้ในทุกด้าน สิ่งที่เราทำได้ จึงเป็นการ “ยอมรับ” ในความไม่สมบูรณ์แบบนั้น เพื่ออุดช่องว่างแห่งความไม่สมบูรณ์แบบนั้นไปทีละน้อย เราจึงจะสามารถพัฒนาตัวเองให้สมบูรณ์แบบขึ้นได้ในลำดับต่อไปได้
ทำ SWOT เรียนรู้ตัวเองให้มากขึ้น
ขั้นตอนต่อมาก็คือการเรียนรู้จุดอ่อน-จุดแข็ง ภายในตัวเองอย่างตั้งใจ จดมันออกมาเตือนตัวเองเสมอ เพื่อที่เราจะได้ใช้จุดแข็งของเราเผชิญกับอุปสรรคแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และรู้จักหลบเลี่ยง ปิดบังจุดอ่อน ไม่ให้สิ่งที่เป็นปัญหาและอุปสรรคใดๆ เข้ามากระทบจุดอ่อนเราได้โดยง่าย
ซึ่งในขั้นตอนนี้ก็เปรียบเสมือนกับกรรมวิธีในการซ่อมแซมด้วยทองคำ สิ่งที่สำคัญคือเราต้องรู้ก่อนว่าจุดอ่อนของเรา หรือ จุดที่แตกร้าวคือบริเวณไหนเพื่อที่เราจะสามารถรู้ได้ว่า เราต้องแก้ไขหรือปรับตัวอย่างไร อย่างไรก็ตามเราก็ไม่ควรโฟกัสจุดอ่อนของตัวเรามากเกินไป แค่ระวังไว้ก็พอแล้ว แต่ให้เราใส่ใจกับจุดแข็งของเราให้มาก เพื่อจะได้ใช้มันพิชิตเป้าหมายความสำเร็จ
โอบกอดความไม่สมบูรณ์ที่ตัวเอง
สิ่งที่เราต้องเตือนตัวเองเสมอก็คือ “ทุกคนในโลกนี้เกิดมาพร้อมกับความไม่สมบูรณ์” และความไม่สมบูรณ์นี้มากน้อยไม่เท่ากัน แล้วแต่โชคชะตาของแต่ละคน แต่เราจะไม่ยอมแพ้โชคชะตาง่ายๆ บางคนเกิดมาจน บางคนพิการ บางคนไม่หล่อ ไม่สวย บางคนเรียนรู้ได้ช้า จงโอบกอดความไม่สมบูรณ์แบบนั้นไว้ ให้กำลังใจตัวเองว่า แม้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้หากมีความพยายามมากพอ โชคชะตาอาจพาเรามาบนโลกนี้พร้อมกับความไม่สมบูรณ์ แต่เราสามารถพัฒนา ซ่อมแซมตัวเองให้สมบูรณ์ได้เสมอ เหมือนเครื่องปั้นดินเผาที่แตก แต่ก็กลับมาสมบูรณ์ได้ด้วย คินซึงิ
และนี่ก็คือหลัก คินซึงิ (Kintsugi) ปรัชญาเซนจากแดนอาทิตย์อุทัยที่ใช้โอบกอดความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง และพร้อมจะซ่อมแซม ประสานความไม่สมบูรณ์แบบขึ้นมาใหม่ ให้เรากลายเป็นคนใหม่ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ก็หวังว่าหลักการนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน เมื่อได้ทราบแล้วก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กันนะครับ