ผ่านพ้นวีคสุดท้ายของเดือน ก.ย. ไปด้วยความเข้มข้นทีเดียว นอกจากการต่อสู้กันบนตาราง The.Macho League ที่เราจะสรุปแชมป์เดือนกันในช่วงท้าย เรื่องของ performance นักเตะยังมีอะไรให้ได้คิดต่อพอสมควร ทั้งการ blank ของโรนัลโด้ และลูกากู, การยิงต่อเนื่องของซาล่าห์, การกลับคืนฟอร์มของแมนฯ ซิตี้ และอาการบาดเจ็บที่มาเยี่ยมเยือน
ตัวอย่างตัวเจ็บที่น่าจะส่งผลกระทบ ก็อย่างชอว์ ที่เจ็บในเกมล่าสุด หรือเทรนท์ ที่มีข่าวว่าเจ็บก่อนเกม UCL ซึ่งขณะที่ผมเขียนบทความอยู่นี้ในวันอังคาร ยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะสโมสรยังไม่แจ้งอะไรมา
ข้อดีอย่างนึงคือการจะมีเบรกทีมชาติมาคั่นหลัง Gameweek 7 ซึ่งนอกจากจะมีเวลาสำหรับนักเตะเจ็บ ยังมีเวลาให้กุนซือแฟนตาซีได้คิดมากขึ้น แต่บางครั้งความหัวร้อน และราคานักเตะขึ้น-ลง อาจทำให้หลายท่านรอไม่ได้ ซึ่งนั่นต้องประเมินด้วยตรรกะกันให้ดีที่สุด
มีเรื่องต้องให้คิดเยอะเชื่อเลย ยังไงลองมาไล่ดูรายละเอียดที่เราเตรียมไว้ให้เหมือนเดิม เผื่อจะได้ไอเดียไปปรับใช้ไม่มากก็น้อยครับ
สรุปผลประกอบการ
คะแนน Gameweek 6 : 44 คะแนน
คะแนนรวม : 390 คะแนน
อันดับโลก : 810,100 (ตกมาจาก 718,977)
อันดับชาวไทย : 6,245 (ตกมาจาก 5,596)
อันดับ The.Macho League : 929 (ตกมาจาก 851)
ถึงคะแนนจะค่อนข้างน้อย (ความจริงก็คาบเส้นคะแนนเฉลี่ยนะ) แต่หากมองภาพรวม มันก็มาจากการตัดสินใจกับทีมที่มีเท่าที่ทำได้ จะพลาดก็ตรงเวลท์มัน ที่มามีแอสซิสต์นาทีสุดท้ายของเกม เลยรับโบนัสไปด้วย
คิงที่เปลี่ยนเข้ามาคาดหวังกับ GW6 โดยเฉพาะ มี 1 แอสซิสต์มาฝาก น่าเสียดายที่ประตูที่ทำได้ท้ายเกมล้ำหน้าเสียก่อน ส่วนการเลือกโรนัลโด้เป็นกัปตัน มันก็เป็นทางเลือกที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ GW4 นู่น ดังนั้นในเมื่อพี่โด้ไม่มา ก็ต้องทำใจไป
การเลือกดร็อปตราโอเร่ถือว่าโอเค แต่น่าเสียดายที่ดึงเข้ามายังไม่ตอบแทนคะแนนเลย ส่วนซาร์เป็นการเลือกที่ดีในแง่คะแนน และราคาที่ปรับขึ้น เช่นเดียวกับโบเว่นที่ยังมีแต้มมาฝากบ้าง ถึงจะเสียดายสมิธ โรว์ นิดหน่อยก็ตาม
ผลงานนักเตะแนะนำ
ผู้รักษาประตู : อัสเมียร์ เบโกวิช (0 คะแนน / พิคฟอร์ดกลับมาซะงั้น)
กองหลัง : ลุค ชอว์ (0 คะแนน / เจ็บจ้า), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (3 คะแนน)
กองกลาง : ฮาร์วีย์ บาร์นส์ (1 คะแนน / ไม่มาซักที), พาโบล ฟอร์นาลส์ (1 คะแนน)
กองหน้า : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (2 คะแนน)
Differential : โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่ (2 คะแนน)
Gameweek 7 : วิเคราะห์ทีเด็ด
ผู้รักษาประตู
ลูคาสซ์ ฟาเบียนสกี้ (เวสต์แฮม / 5.0 ล้านปอนด์)
มองดูจากฟอร์ม 1-2 นัดที่ผ่านมา เบรนท์ฟอร์ดดูน่ากลัว และเล่นได้มั่นใจ ซึ่งอาจจะเล่นงานแนวรับเวสต์แฮมได้ แต่เมื่อดูแนวโน้มโดยรวมของทีมที่ได้ลุ้นคลีนชีตแล้ว “ขุนค้อน” ถือว่ายังมีภาษีดีกว่าหลายๆ ทีม ตามสถิติการพบกันในอดีต
จุดน่ากังวลเล็กน้อย คือเวสต์แฮมเพิ่งได้คลีนชีตมานัดเดียว และแนวรับยังมีลูกพลาดง่ายๆ อยู่บ้าง แต่ด้วยจำนวนเซฟที่เฉลี่ยนัดละ 3 ครั้งของนายด่านจอมเก๋าชาวโปแลนด์ น่าจะช่วยยับยั้งได้บ้าง หากแนวรับปรับให้ลงตัวขึ้นกว่าเดิม
กองหลัง
เบน มี (เบิร์นลีย์ / 4.9 ล้านปอนด์)
ไม่ค่อยจะมีโอกาสแนะนำแนวรับเบิร์นลีย์เท่าไหร่หรอก ฟอร์มของพวกเขาก็ยังทรงกับทรุด คลีนชีตก็ยังไม่มีเลย แต่กับเกมที่จะเปิดบ้านเจอนอริช หากไม่หวังลุ้นคลีนชีตนัดนี้ จะไปหวังนัดไหนครับเพ่!
อีกอย่างตามที่บอกไปว่าโดยสถิติ อาจจะหาทีมที่เก็บคลีนชีตวีคนี้ยากนิดนึง ดังนั้นเลยอยากแนะนำนักเตะที่มีลุ้น attacking return ด้วย ซึ่งระยะหลังเบน มี มักจะทำได้ดีกว่าทราคอฟสกี้ด้วยซ้ำ นัดกับนอริช ก็น่าจะมีลุ้นอีก
คีแรน เทียร์นีย์ (อาร์เซน่อล / 4.9 ล้านปอนด์)
ยังคงคอนเซปท์แนะนำแนวรับที่มีโอกาสลุ้น attacking return ยิ่งอาร์เซน่อลฟอร์มกำลังต่อเนื่อง โอกาสลุ้นทั้งคลีนชีต และทำแต้มเกมบุกของเทียร์นีย์ ยิ่งชัดเจนมากขึ้นไปด้วย
ฟอร์มของไบรท์ตันยังคงดีต่อเนื่อง แต่ปกติแล้ว “เจ้านกนางนวล” มักจะเสียประตูให้กับ “ปินใหญ่” เสมอ ถึงโอกาสจะเป็นเกมที่มีสกอร์ทั้ง 2 ฝั่งสูง แต่คาดว่าเกมรุกริมเส้นของอาคันตุกะ จะทำได้ดีกว่า มีลุ้นกว่า
อันโตนิโอ รูดิเกอร์ (เชลซี / 5.7 ล้านปอนด์)
แนะนำแนวรับเพิ่มอีกตัว เพราะเชื่อว่ารูดิเกอร์น่าจะเป็นแพลนที่หลายคนหวังเอาเข้าทีมใน GW7 นอกจากลูกากู ข้อดีของแนวรับชาวเยอรมันคือเขาดูจะเป็นตัวเลือกหลักของทีม ถึงจะมีเรื่องให้กังวลเล็กน้อย ตรงที่เขายังตกลงสัญญาใหม่กับเชลซี ไม่ลงตัวก็ตาม
แน่นอนว่าอลอนโซ่ หรือเจมส์ เป็นตัวเลือกที่หวือหวา และคาดหวัง attacking return มากกว่า แต่เรื่องของ game time ก็จะน่ากังวลมากกว่าตามไปด้วย ดังนั้นรูดิเกอร์จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในระยะยาว ถึงนัดนี้กับเซาธ์แธมป์ตัน จะมีเสียวๆ ไม่ได้คลีนชีตก็ตาม
กองกลาง
อิสไมล่า ซาร์ (วัตฟอร์ด / 6.3 ล้านปอนด์)
แนวรุกที่ฟอร์มโดดเด่นอย่างมากในช่วงตลอด 2 นัดหลัง (จริงๆ จะนับว่าตั้งแต่ต้นซีซันก็ได้) หนีไม่พ้นปีกชาวเซเนกัล ที่ยิงไปแล้ว 4 ประตู และกับการเจอลีดส์ ที่ยังมีปัญหาเสียประตูทุกนัด ย่อมมีโอกาสโดนโจมตีจากวัตฟอร์ดอย่างเลี่ยงไม่ได้
ตัดเรื่องราคาที่ช่วงนี้ซาร์กำลังเป็นลูกศรขึ้นต่อเนื่อง ตัวเขาถือเป็นตัวเลือกระยะยาวได้ ยิ่งถ้ายืนระยะไม่ได้รับบาดเจ็บ และเราสามารถหาตัวแทนในช่วงแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชันส์ ได้ เขาน่าจะเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนอยากปรับงบแดนกลาง หรือใช้ Wildcard
กองหน้า
โรเมลู ลูกากู (เชลซี / 11.7 ล้านปอนด์)
กองหน้าพรีเมียม ที่มีคนเล็งเอาเข้านับตั้งแต่ GW7 เป็นต้นไป ซึ่งมันก็น่าหยิบจับจริงๆ แหละ เพราะโปรแกรมของเชลซีเขียวขจีเหลือเกิน และมาตรฐานการจบสกอร์ของพี่ตู้ ก็มีคุณภาพเพียงพอจะเล่นงานทุกทีม แถมอาจจะมีนัดที่ทำคะแนนเพดานสูงให้ได้ลุ้นด้วย
เซาธ์แธมป์ตัน, เบรนท์ฟอร์ด, นอริช, นิวคาสเซิล คือ 4 นัดถัดจากนี้ ถ้าพี่ตู้รักษาความฟิตไว้ได้ (รวมถึงการกลับไปเตะทีมชาติ) มีสกอร์รวมระดับ 3-4 ประตู ก็คุ้มค่าแล้ว เผลอๆ มากกว่านั้น ก็ไม่น่าแปลกใจ
Differential
คริส วู้ด (เบิร์นลีย์ / 6.8 ล้านปอนด์)
เข้าสู่ช่วงเวลาตามหานักเตะปลดล็อคอีกแล้ว โดยวู้ดยิงซีซันนี้ไปแค่ลูกเดียว ในเกมที่เจอกับลีดส์ นอกนั้นเขาคายพิษสงไม่ค่อยออกเท่าไหร่ เพราะฟอร์มทีมเองก็ค่อนข้างน่าผิดหวังด้วย
สถิติของวู้ดยามเจอนอริชถือว่าดีทีเดียว เขาทำประตู “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” ได้อยู่เรื่อยๆ หากจะลองเสี่ยง คงต้องหวังเกมริมเส้น และคู่หูแดนหน้าของเขาให้เข้าฝัก ถ้าคอร์เน่ต์ที่ดูวูบวาบ หายเจ็บทัน บวกกับพวกบาร์นส์, วิดร้า, โรดริเกซ โชว์ฟอร์มได้ วู้ดคงมีโอกาสจบสกอร์พอสมควรในนัดนี้
จัดทีม วัดใจ
ตามที่เคยแชร์ไป ว่าผมน่าจะใช้ Wildcard ใน GW8 ค่อนข้างแน่ เพราะเป็นช่วงที่อยากวางแผนทีมยาวๆ ให้สอดคล้องกับโปรแกรมเทิร์น และมีเวลาเช็คความพร้อมของนักเตะที่กลับจากทีมชาติให้ดีก่อนไฟนอลทีม
ดังนั้นสิ่งที่ผมทำใน GW7 คือการดึงนักเตะของเชลซี ที่คิดว่าจะใช้งานยาว เข้าทีมไว้ก่อน เลยหยิบเอารูดิเกอร์เข้ามา ทั้งด้วยเรื่องราคา และ game time ตามที่บอกไป โดยตอนแรกจะเอามาแทนเวลท์มัน แต่พอชอว์มีอาการเจ็บ และโปรแกรมก็เริ่มหนัก แถมราคาก็สุ่มเสี่ยงจะตก ก็เลยเอาชอว์ออกไปก่อน
ทีมที่มีอยู่ใช้งานกับ GW7 ได้แน่นอน ติดตรงการปรับทัพอีกเล็กน้อย โดยผมยังดราฟท์ตราโอเร่ลงตัวจริงไว้ก่อน แม้นัดที่แล้วจะเลือกดร็อป และตัวเขาก็หลุดเป็นสำรองจริงๆ ด้วย โดยมีบราวน์ฮิลล์พร้อมสแตนด์บาย
ที่ผมยังไม่เอาลูกากูเข้าทีมมา เพราะคิดว่าโรนัลโด้ยังมีโอกาสดีที่จะเล่นงานเอฟเวอร์ตันได้ ถึงแม้ฟอร์มของแมนฯ ยู จะสะดุดเยอะก็ตาม ด้านเทรนท์ที่มีข่าวเจ็บ ก็มีเวลท์มันพร้อมลงแทนอยู่ อาจจะหวังคลีนชีตยากหน่อย แต่ก็พอถูไถ
สุดท้ายแล้วจะจัดสรรทีมยังไง และเรื่องอาการบาดเจ็บ จะส่งผลต่อการปรับทีมอีกมั้ย (เช่น กรณีของเทรนท์ ที่ยังไม่มีข่าวยืนยันออกมา) ยังมีเวลาให้ดูเกมยุโรป และประเมินกันอีกทีครับ จะแชร์ให้ได้ทราบกันผ่านช่องทางของเราเหมือนเดิมครับ
กลุ่มเฟซบุ๊ค >> คลิกที่นี่ <<
กลุ่มแชทใน LINE OpenChat >> คลิกที่นี่ <<
The.Macho League
สู้กันถึงฎีกาจริงๆ สำหรับตำแหน่งแชมป์เดือน ก.ย. เพราะอันดับ 1 และ 2 มีคะแนนเท่ากันที่ 227 คะแนนพอดิบพอดี ก่อนจะเป็น “Jaifa sport club” ที่เฉือนคว้าแชมป์ไปครอง ด้วยการเปลี่ยนตัวในเดือน ก.ย. น้อยกว่า “LEE Y” จำนวน 3 ต่อ 5 ครั้ง ตามกฎตัดสินของ FPL
GW6 ทาง “Jaifa sport club” เก็บได้ถึง 83 คะแนน ด้วยการไม่มีโรนัลโด้ในทีม และเลือกกัปตันซาล่าห์ รวมถึงมีตัวทำแต้มอีกเพียบทั้ง ซาก้า, ซาร๋, ราฟินญ่า, อันโตนิโอ, ฆิมิเนซ, คันเซโล่
ฝั่ง “LEE Y” ที่ยึดจ่าฝูงเดือน ก.ย. มาตลอดทาง พลาดทำได้แค่ 49 คะแนน เพราะกัปตันโรนัลโด้ไม่เข้าเป้า เช่นเดียวกับลูกากู และที่น่าเสียดายคือมีดัฟฟี่ลุ้นแต้มส่งท้าย แต่ทำได้แค่ 2 คะแนน ไม่เพียงพอจะแซง “Jaifa sport club” เลยชวดแชมป์ไปหวุดหวิด
ด้านคะแนนรวม “boongTH” ยังคงเหนียวแน่น แม้จะหล่นมาเป็นอันดับ 2 ของไทย แต่ยังเป็นจ่าฝูงของ The.Macho League อยู่ หนทางอีกยาวไกล มาดูกันว่าเขาจะรักษาอันดับไว้ได้นานแค่ไหน
เดดไลน์ของ GW7 ยังคงเป็นเย็นวันเสาร์ โดยเกมจะเตะกันจบแค่เสาร์ และอาทิตย์ เพื่อปล่อยนักเตะกลับไปรับใช้ชาติ ซึ่งยังต้องติดตามเรื่องอาการบาดเจ็บ และชาติที่เคยมีประเด็นพื้นที่สีแดงโควิด อย่างอเมริกาใต้ และแอฟริกา ว่าหนนี้จะหาทางออกกันอย่างไร อย่าลืมติดตามข่าวสารเสมอครับ ขอให้โชคดี
Picture : Fantasy Premier League, beIN SPORTS, Reuters, The Goa Spotlight, Sky Sports, 90Min, PostX News, Premier League, Goal.com, Never Manage Alone, The Mirror