ขอต้อนรับกลับมาสู่สัปดาห์โปรแกรมลีกอีกครั้ง ซึ่งหลังผ่านพ้นการเบรกทีมชาติหนสุดท้ายของปี 2021 ก็เตรียมลุยกันแบบยาวๆ แทบไม่ได้พักผ่อน เพราะจนถึงสิ้นปีรัวเตะกันถึง 10 นัด ไม่รวมพวกบอลถ้วยต่างๆ อีกสารพัด
สิ่งสำคัญยังคงเหมือนเดิม นั่นคือการวางแผนล่วงหน้าให้ได้มากที่สุด แต่ต้องไม่ลืมการใช้ตัวช่วยด้วย คนที่ยังมี Wildcard ในมือ คุณต้องมองให้ออกแล้วว่าจะใช้วีคไหน ส่วนคนที่ใช้ไปแล้ว ก็ต้องประคองตัวให้ดีที่สุด เลี่ยงการลบพร่ำเพรื่อให้ได้ จนกว่าจะมี Wildcard ให้ได้วางแผนกันอีกหนปลายปี
(Source : Planet Football)
ใน EP นี้ เราจะมาเตรียมตัวกับ Gameweek 12 กัน โดยต้องไม่ลืมติดตามข่าวอัปเดตความฟิตของนักเตะที่กลับจากภารกิจทีมชาติด้วย ในบทความอาจจะยังไม่ทันอัปเดตให้ แต่ในช่องทางอื่นๆ รอติดตามกันได้เหมือนเดิมครับ
นอกเหนือจากการแนะนำทีเด็ด GW12 ผมจะมีเนื้อที่เหลือสำหรับการหยิบประเด็นที่น่าสนใจมาคุยกัน เลยอยากเอาแนวคิดการเลือกทีมหลังผ่านเส้นทางกันมาพอควร เห็นอะไรเป็นอะไรกันมาพอควร ลองติดตามกันดูครับ
Gameweek 12 : วิเคราะห์ทีเด็ด
ผู้รักษาประตู
เอแดร์สัน (แมนฯ ซิตี้ / 6.0 ล้านปอนด์)
ไล่ดูแต่ละคู่ของวีคนี้ ส่วนตัวผมคิดว่าคลีนชีตน่าจะมีกันไม่มาก เลยเลือกแนะนำผู้รักษาประตูยากตามไปด้วย สุดท้ายขอเกาะทีมใหญ่อย่างแมนฯ ซิตี้ ไว้ก่อน เพราะพวกเขากำลังอยู่ในช่วงเน้นเร่งเครื่องเก็บคะแนน และเอฟเวอร์ตันก็ฟอร์มไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่
เอแดร์สันยังคงเป็นตัวเต็งที่จะคว้าถุงมือทองคำเหมือนเดิม แม้จะเจอผลงานตะกุกตะกักของแนวรับในนัดหลังๆ แต่ยอดรวม 6 คลีนชีตตอนนี้ ก็พร้อมจะเพิ่มขึ้นอีกหากกลับมารันยาวต่อเนื่องได้ซัก 2-3 นัด
กองหลัง
แมตตี้ แคช (วิลล่า / 5.1 ล้านปอนด์)
แบ็คทีมชาติโปแลนด์มีซีซันที่ดีด้วยฟอร์มเกมรุกที่ดูดุดัน แต่ด้วยฟอร์มทีมที่ตกต่ำลงจนสมิธโดนปลดไป ทำเอาฟอร์มของแคชเงียบหายไปเหมือนกัน ยิ่งการปรับกลับมาเล่นระบบหลัง 4 และเขาต้องทำหน้าที่ในเกมรับค่อนข้างหนัก
การแนะนำแคชเป็นการวัดใจกุนซือใหม่อย่างเจอร์ราร์ดไปในตัว เพราะรูปแบบการเล่นที่เรนเจอร์นั้น แบ็คทั้ง 2 ข้างมีส่วนร่วมกับเกมรุก และเป็นตัวเข้าทำที่สำคัญทีเดียว เกมกับไบรท์ตัน แคชเลยน่าจะมีส่วนร่วมไม่น้อย และอาจมี attacking return ที่น่าสนใจ
เจา คันเซโล่ (แมนฯ ซิตี้ / 6.5 ล้านปอนด์)
ต่อเนื่องจากการแนะนำเอแดร์สัน เนื่องด้วย “เรือใบสีฟ้า” มีโอกาสดีในการเก็บคลีนชีต และฟอร์มของคันเซโล่เองก็กำลังทำได้ยอดเยี่ยมสม่ำเสมอ โอกาสลุ้น attacking return ในเกมกับเอฟเวอร์ตันจึงมีให้ลุ้นเป็นโบนัสเพิ่มเติม
การเลือกลูกทีมของเป๊บ อาจจะเสี่ยงเรื่องโรเตชันเป็นธรรมดา คันเซโล่ที่ดูแน่นอน ก็อาจจะโดนหางเลขดร็อปเข้าซักนัด แต่ด้วยการเล่นได้ทั้งฝั่งซ้ายและขวา บวกกับฟอร์มยังคงเด่นในช่วงนี้ จำนวนเกมที่โดนพักน่าจะน้อยกว่ารายอื่น ลุ้นใน GW12 หรือมีติดทีมไว้ยาวๆ จึงตอบโจทย์หมด
กองกลาง
ซน ฮึง มิน (สเปอร์ / 10.3 ล้านปอนด์)
สตาร์โสมขาวเป็นนักเตะเนื้อหอมที่สุดใน GW นี้ ในอันดับต้นๆ แน่นอน เพราะนอกจากโปรแกรมเทิร์นที่เราพูดถึงกันไปแล้วใน EP ก่อนๆ การที่คอนเต้มีเวลาในการเตรียมทีม น่าจะทำให้สเปอร์เข้าที่เข้าทางมากขึ้น และพร้อมเปิดบ้านเจอลีดส์ที่ยังมีตัวเจ็บค่อนข้างเยอะ
ตามสถิติแล้ว “ยูงทอง” ไม่สามารถรักษาคลีนชีตในการเจอกับ “ไก่เดือยทอง” มายาวนาน ดังนั้นเชื่อว่าลูกทีมของคอนเต้มีสกอร์แน่นอน และตัวเต็งที่น่าหยิบจับหนีไม่พ้นซน แม้จะต้องลงรับใช้ชาติต่อเนื่องมาทุกเกมก็ตาม
พาโบล ฟอร์นาลส์ (เวสต์แฮม / 6.0 ล้านปอนด์)
ความจริงมีคนถือฟอร์นาลส์อยู่แค่ 2% กว่าๆ เท่านั้น แนะนำเป็น differential ได้ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ดี ฟอร์มของเวสต์แฮมกำลังยอดเยี่ยม และคงมีคนเล็งมิดฟิลด์ “ขุนค้อน” ในช่วงก่อนเดดไลน์พอสมควร เลยขอเอามิดฟิลด์สแปนิช มาแนะนำตรงนี้เลยละกัน
โดยสถิติแล้ว เกมวูล์ฟ-เวสต์แฮม มีโอกาสที่จะยิงกันทั้ง 2 ฝั่ง เพราะทั้ง 2 ทีมเก็บคลีนชีตไม่ค่อยได้เท่าไหร่ อันโตนิโอเองก็มีสถิติส่วนตัวที่เจอ “หมาป่า” ไม่เปรี้ยงปร้าง ดังนั้นคนที่ผลิตสกอร์ได้ อาจจะมาจากแผงมิดฟิลด์คุณภาพอีกหน และฟอร์นาลส์เอง ก็มักจะโผล่มาถูกที่ถูกเวลาเสมอ นัดนี้ได้ลุ้น
กองหน้า
คัลลัม วิลสัน (นิวคาสเซิล / 7.3 ล้านปอนด์)
GW นี้ มีบอลเปลี่ยนโค้ชถึง 3 ทีมด้วยกัน แนะนำวิลล่าของเจอร์ราร์ดไปแล้ว ก็ขอแนะนำนิวคาสเซิล ที่กำลังต้องการชัยชนะอย่างยิ่งของฮาวบ้าง และวิลสันเองก็เป็นอดีตศิษย์เอกของฮาวอยู่แล้ว หาก “สาลิกาดง” หวังจะมีแต้ม ก็คงต้องพึ่งวิลสันนี่แหละ
เบรนท์ฟอร์ดที่จะมาเยือนเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ดูแกว่งๆ ไป ในระยะหลัง โดยเฉพาะการขาดนายทวารมือ 1 อย่างเรย่า มีผลไม่มากก็น้อย ที่ทำให้ทีมเสียประตูมากขึ้นชัดเจน นิวคาสเซิลถึงจะยังไม่ชนะใคร แต่ก็ยิงประตูได้เรื่อยๆ ดังนั้นโอกาสที่วิลสันจะยิงต้อนรับนายใหม่หน้าเก่า จึงมีมุมไม่น้อย
Differential
ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล / 11.9 ล้านปอนด์)
ดาวเตะเซเนกัล เป็นหนึ่งในนักเตะต้องสงสัยว่าจะไม่พร้อมใน GW12 ซึ่งลิเวอร์พูลมีลิสต์นักเตะเจ็บยาวเป็นหางว่าว อย่างไรก็ดี มาเน่ลงซ้อมได้เรียบร้อยแล้วในช่วงวันอังคาร ดังนั้นคาดว่าไม่มีปัญหากับการลงเล่นกับอาร์เซน่อล สุดสัปดาห์นี้
ความจริงทั้งซาล่าห์ และมาเน่ มีสถิติที่ดีในการเจอกับ “ปืนใหญ่” แต่มาเน่ถูกมองข้ามไปเยอะ จนแนะนำเป็น differential สบาย เพราะราคาสูงใกล้เคียงกับซาล่าห์ (ตอนเปิดซีซัน) แต่ความเฉียบคมก็ดูน้อยกว่า อย่างไรก็ดี หากดูที่ผลงาน เขาก็ยิงในลีกไปแล้วถึง 6 ประตู และเป็นนักเตะที่สร้างโอกาสจบสกอร์ได้ลำดับต้นๆ เลยทีเดียว
แนวทางปรับทีมปลายปี
(Source : 90Min)
อย่างที่เคยเกริ่นไป ว่าหลังจากเบรกทีมชาติหนนี้ โปรแกรมลีกจะเตะกันค่อนข้างถี่ จนสิ้นปี มีเกมมากถึง 10 GW ให้ห้ำหั่นกัน ดังนั้นนอกจากการติดตามข่าวนักเตะบาดเจ็บกันแบบใกล้ชิด การวางแผนล่วงหน้าจึงมีความสำคัญมากเป็นพิเศษ
การที่เราจะวางแผนได้ดี เราต้องมองถึงภาพรวมองค์ประกอบทีมของเราให้ดี เพราะทีมแต่ละคนมีความแตกต่าง และมีความชื่นชอบในตัวนักเตะแตกต่างกัน EP นี้ เลยจะขอเน้นแง่คิดเกี่ยวกับโครงสร้างหลัก เพื่อเหมาะไปปรับใช้กับทีมของคุณ
แพลนตัวพรีเมียม
ไม่ว่าจะช่วงไหนของซีซัน ตัวพรีเมียมยังไงก็มีความสำคัญ เพราะถือเป็นตัวทำแต้มหลักของเรา และหากจะปรับกลยุทธ์เป็นการเร่งทำคะแนนไล่เพื่อนๆ ในกลุ่มย่อย หรือการคงระยะห่างในกรณีเป็นทีมนำ สิ่งที่เป็นแกนไอเดียสำคัญ ก็คือตัวพรีเมียมนี่แหละ
(Source : talkSPORT)
ตัวพรีเมียมที่อยู่ในเรดาร์ของกุนซือส่วนใหญ่ มีทั้งกองกลาง และกองหน้า ไล่รายชื่อที่มีจำนวนคนถือเกินกว่า 30% ก็มีเพียงแค่ซาล่าห์, โรนัลโด้, วาร์ดี้ โดยมีซนตามมาในระดับประมาณ 20% และอาจจะมีเคนตามมาอีก หากสเปอร์ฟอร์มเข้าตา
นอกเหนือจากที่ว่ามา อาจจะมีพรีเมียมที่เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญได้อีก 2 ตัว นั่นคือลูกากู ที่มีภาพกลับมาซ้อมได้บ้างแล้ว รวมถึง KDB ที่ยังไม่เปรี้ยงปร้าง และคาดเดา game time ยากไปหน่อย ซึ่งหาก 2 ตัวนี้พร้อม จะเป็นทางเลือกที่ส่งผลต่อภาพรวมคะแนนทั้งหมด ได้ด้วยเช่นกัน
(Source : Football Talk)
สิ่งสำคัญของการเลือกพรีเมียมคือต้องมองออกว่าช่วงโปรแกรมไหนจะใช้ใคร และหากจะเปลี่ยนเป็นอีกตัวต้องให้แน่ใจว่าส่งผลดีต่อทีม การวางแผนล่วงหน้าให้สอดคล้องกับโปรแกรมจึงสำคัญ เพราะนอกจากจะเป็นตัวทำคะแนน พรีเมียมเหล่านี้ ยังเป็นกัปตันทีมให้เราอย่างน้อย 80% ของโปรแกรมตลอดซีซันอีกด้วย
หญ้าบ้านเราก็สวยไม่แพ้คนอื่น
ความจริงมันประโยคเปรียบเปรยที่ฝรั่งเค้าชอบใช้ ถ้าบ้านเราอาจจะใช้ประมาณว่า อาหารของเพื่อนน่ากินกว่าที่เราสั่งเสมอ ประมาณว่าเรามักจะอยากได้ของคนอื่น เพราะของที่เรามีดูไม่ดีพออยู่เสมอ ซึ่งมันเป็นสัจธรรมของแฟนตาซีด้วยเช่นกัน ไอ้ความอยากได้อยากมีเนี่ย
(Source : We All Follow United)
ข้อนี้มีความสำคัญ ตรงที่ระหว่างการแข่งขันแต่ละวีค จะมีนักเตะที่โชว์ฟอร์มดีโผล่ขึ้นมาเสมอ เช่น ซาฮาโผล่มายิง 1 จ่าย 1, โบเว่นโผล่มาทำ 2 แอสซิสต์ หรือวิงแบ็คของเชลซีที่สลับกันทำแต้มเป็นว่าเล่น ปัจจัยเหล่านี้ มักจะสะกิดให้กุนซือแฟนตาซีสนใจ
เพราะเมื่อเห็นแบบนี้ทีไร หลายคนอยากได้ตัวนู้นตัวนี้เข้าทีมเสมอ โดยละเลยแผนระยะยาวที่เราวางไว้ หรือบางคนก็ไม่สนใจโปรแกรมเลยว่าถ้าเลือกเข้ามาแล้ว จะเจอโปรแกรมหินแค่ไหน ดังนั้นสำคัญมากๆ ที่เราต้องรู้จักทีมตัวเอง และพึงพอใจในสิ่งที่มี เพื่อจะลำดับความสำคัญในการจัดการทีมให้ดีที่สุด
ชัดเจนกับตัวที่มี
พูดอยู่เสมอว่าแนวทางการจัดทีมของแต่ละคนต่างกัน อย่างผมนิยมมีตัวพร้อมลงเล่น 15 ตัว เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉิน และสามารถสลับลงเล่นตามโปรแกรมยาก-ง่ายได้ แต่บางคนก็เลือกเน้นไม่ครบ 15 ตัว มีเลือกทิ้งบ้าง เพื่อสแปร์งบไว้สร้างสรรค์ทีมให้ดีที่สุด ซึ่งไม่มีแนวคิดไหนถูก-ผิด หรือประสบความสำเร็จตายตัว
แต่สิ่งที่อยากให้แน่ใจคือเรามีนักเตะแต่ละตัวไว้เพื่ออะไร อย่างผมมีตัวพร้อมลงเล่น 15 ตัว ทำให้ต้องลดทอนงบในบางตัวให้เหมาะสม เช่น มีโกล์ 4.5 x2, มีกองหลังราคาประหยัด (ลิฟราเม็นโต้, ดัฟฟี่) x2 เพราะเน้นเล่นหลัง 3 ตัวหลัก เป็นต้น ของกุนซือท่านอื่นก็ต้องลองมองแบบแผนของเราให้ชัด เพื่อจะได้คิดถึงภาพรวมทั้งงบประมาณ และตัวที่จัดสรรลงเล่น
(Source : Sky Sports)
อย่างคนที่เลือกนักเตะทิ้งบางตำแหน่ง ก็ต้องชัดเจนว่าตัวที่มีสอดคล้องกับแผนที่เราอยากเล่น และโปรแกรมที่เราแพลนไว้ เพราะไม่งั้นอาจจะเป็นกับดักในระยะยาว กลายเป็นมีตัวที่ใช้งานได้ไม่เต็มที่เต็มไปหมด
ยกตัวอย่างง่ายๆ คนที่เลือกทิ้ง มักจะควานหาตัวเลือกราคาต่ำสุด เช่น กองหลัง 3.9-4.0 ซึ่งโอกาสลงเล่นน้อยนิด โดยที่หากเพิ่มงบอีกหน่อย ก็จะได้ตัวที่ราคาประหยัด และสามารถทดแทนได้หากอย่างลิฟราเม็นโต้ หรือดัฟฟี่ ซึ่งตอนนี้ราคาขยับไประดับ 4.4-4.5 กันแล้ว
ของดีมักจะแพง
ช่วงโปรแกรมเดือน พ.ย. ต่อไปจนถึง ธ.ค. จะมีเกมเตะกันแน่น ดังนั้นการเลือกตัวที่ไม่แน่นอน เพราะอยากประหยัดงบ อาจส่งผลให้เราไม่ได้แต้มอย่างที่คาดหวังไว้ ดังนั้นการขยับไปเลือกตัวที่ชัวร์กว่า มีลุ้นคะแนนมากกว่า ถึงจะเสียงบมากกว่า แต่อาจจะคุ้มค่ากว่า หากมองระยะยาว
(Source : Zella News)
ยกตัวอย่างง่ายๆ กับการเลือกหลังเชลซี แน่นอนว่าตัวน่าเลือกคือชิลเวลล์, เจมส์, รูดิเกอร์ ในแง่ความสม่ำเสมอในการลงเล่น แต่หากเราจะประหยัดงบไปเลือกคริสเตนเซ่น หรือชาโลบาห์ ก็ต้องทำใจล่วงหน้าถึงจำนวนแมทช์ที่ลงเล่นน้อยกว่า ซึ่งอาจจะคาดเดาไม่ได้ว่าเขาจะลงเล่นใน fixture ง่าย แบบที่เราคาดหวังมั้ย เป็นต้น
หรืออีกเคสแบบข้ามตำแหน่ง หลายคนกังวลราคาของนักเตะอย่างเทรนท์ และหันไปเลือกตัวอื่นแทนเพื่อประหยัดงบ เช่น แดนหลังไปเลือกมาติปแทน หรือจะใช้วิธีผันงบไปแดนกลาง เลือกตัวราคาระดับ 6-7 ล้านปอนด์แทน ซึ่งหากมองย้อนกลับมา กลายเป็นทางเลือกอื่น ไม่มีทางเลือกไหนทำแต้มโดยรวมได้เท่าเทรนท์เลย ดังนั้นของแพง บางทีอาจจะต้องวัดกันที่ผลลัพธ์มากกว่าค่าตัวที่เห็น
(Source : Football News Central)
รายละเอียดเกี่ยวกับการปรับทีม คงจะแชร์กันประมาณนี้ หวังว่าจะได้แนวทางไปวางแผนทีมของแต่ละคนได้ไม่มากก็น้อย องค์ประกอบทีมต่างกัน ต้องพิถีพิถันเลือกทางที่เรามั่นใจนิดนึง ข้อมูลเพิ่มเติมแลกเปลี่ยนกันได้ตลอด ช่องทางเดิมครับ
กลุ่มเฟซบุ๊ค >> คลิกที่นี่ <<
กลุ่มแชทใน LINE OpenChat >> คลิกที่นี่ <<
เนื่องจากเนื้อหาเกี่ยวกับแนวคิดการจัดทีมค่อนข้างยาว เลยขอยก “จัดทีม วัดใจ” ไปสรุปกันก่อนเดดไลน์ทีเดียวเลย เพราะแนวการปรับทีมเขียนบทความของผม ยังไม่ต่างจากที่แชร์ใน EP ที่แล้ว เดดไลน์ GW12 คือเย็นวันเสาร์ ดังนั้นยังมีเวลาให้ติดตามความพร้อมของนักเตะกันอีกพอสมควร / ขอให้ทุกท่านโชคดีกับสุดสัปดาห์นี้ครับ
Picture : beIN SPORTS, Planet Football, Daily Advent, Sport Onet, Manchester City, Premier League, West Ham United, Sportslens, This Is Anfield, 90Min, talkSPORT, Football Talk, We All Follow United, Sky Sports, Zella News, Football News Central
rocketseer
บทความที่เกี่ยวข้อง
