ช่วงนี้กระแสย้ายประเทศกำลังร้อนแรงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีการเปิดเพจ สร้างกลุ่มเพื่อให้คำแนะนำ และแชร์ประสบการณ์การย้ายประเทศกันอย่างมากมาย ซึ่งแล้วแต่เป็นสาระดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจแทบทั้งสิ้น

หากตัดเรื่องการเมืองออกไปแล้ว การคนรุ่นใหม่จะย้ายประเทศเพื่อออกไปหาความท้าทายใหม่ๆ และความก้าวหน้าให้กับชีวิตนั้นก็เป็นเรื่องที่น่าส่งเสริมไม่น้อย ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จัก 10 ประเทศที่คนทั่วโลกอยากย้ายไปอยู่ประจำปี 2021 ซึ่งเป็นผลสำรวจของ InterNations เครือข่ายคนทำงานต่างประเทศทั่วโลก ที่เรียกว่า Expat Insider 2021 คือรายงานจากการสอบถามคนที่ย้ายไปทำงานต่างประเทศ (expat) ทั่วโลก โดยพิจารณาจาก 4 ด้าน ได้แก่ คุณภาพชีวิตความง่ายในการปรับตัว การเงิน และชีวิตการทำงาน

และในปีนี้ 10 ประเทศ ที่ผู้คนมองว่าดีที่สุดในการย้ายไปทำงาน ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาเจาะลึกในรายละเอียดของประเทศน่าย้ายไปอยู่เหล่านี้ ว่ามีดีอะไร ใครอยากรู้ ตามมาดูกันเลย

ไต้หวัน

เรามาเริ่มกันที่ไต้หวัน แม้จะยังไม่ได้รับการยอมรับสถานะการเป็นประเทศ แต่ที่นี่ก็คือสถานที่ที่ดีต่อใจคนย้ายประเทศอันดับ 1 มาสามปีซ้อน เพราะไต้หวันมีกลิ่นอายความเป็นเอเชียและความเป็นสากลอย่างลงตัว ทั้งในเรื่อง อาหารการกิน วัฒนธรรม ค่าครองชีพ แถมลักษณะนิสัยของคนไต้หวันก็ไม่ได้ต่างจากคนไทยเท่าไรนัก

คนที่ย้ายไปทำงานที่ไต้หวันพึงพอใจกับเรื่องงานอย่างมาก เพราะต่างบอกว่างานที่นี่ค่อนข้างมั่นคง พร้อมกับยืนยันอีกว่าเศรษฐกิจไต้หวันดี ทำให้ความเป็นอยู่ของชาวต่างชาติที่นั่นมีความสุขมาก     

ยิ่งไปกว่านั้นเศรษฐกิจไต้หวันมีความศักยภาพแข็งแกร่งเหนือโควิด ทั้งด้านการทูตและเศรษฐกิจ และบริการด้านสาธารณสุขที่ยอดเยี่ยมที่คนต่างชาติเข้าถึงได้ง่ายอีกด้วย   

ประเทศจากอเมริกากลางและอเมริกาใต้

ประเทศจากอเมริกากลาง และอเมริกาใต้อย่าง เม็กซิโก คอสตาริกา และเอกวาดอร์ ถือเป็นม้ามืดตัวจริง เพราะไม่มีใครคิดว่า 3 ประเทศนี้จะติดอันดับในลิสต์นี้ แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งสามประเทศเข้ามาติดอันดับต้นๆ ของประเทศที่น่าย้ายไปอยู่ได้ คือ ความเป็นมิตรของผู้คน ความง่ายในการปรับตัว ชีวิตทางสังคม วัฒนธรรมที่สนุกสนาน ไปจนถึงค่าครองชีพที่ไม่สูงนัก

อย่างไรก็ตาม คุณภาพชีวิตของประเทศในแถบนี้ถือว่ากลางๆ ไม่เลิศหรูอะไรนัก เรียกได้ว่าอยู่ในระดับกลางค่อนท้ายของการจัดอันดับในลิสต์นี้ ทั้งในแง่คุณภาพของสิ่งแวดล้อม เรื่องความพร้อมของสาธารณูปโภคพื้นฐาน ความสะดวกในการเดินทาง ความพร้อมของระบบขนส่งสาธารณะ และความปลอดภัย ก็ยังคงเป็นรองประเทศที่พัฒนาแล้ว

มาเลเซีย และ เวียดนาม

มาเลเซีย และ เวียดนาม ก็จัดอยู่ในประเทศม้ามืดในลิสต์นี้เช่นกัน โดยทั้งสองประเทศนี้อยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเช่นเดียวกับประเทศในกลุ่มอเมริกากลางและใต้ที่ได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้ เสน่ห์ดึงดูดโดยรวมจึงไม่ได้ต่างกันมาก เช่น ผู้คนเป็นมิตร ใช้ชีวิตสนุก ค่าครองชีพถูก  แม้ว่าโครงสร้างพื้นฐาน และคุณภาพชีวิตโดยรวมจะยังไม่ดีมากนักก็ตาม  

แต่ที่ต้องจับตามองก็คือประเทศเวียดนามที่เศรษฐกิจเติบโตมากๆ แม้จะอยู่ในช่วงวิกฤติการณ์โควิด-19 ไม่แน่ว่าต่อไป เวียดนามอาจจะมีงบประมาณสร้างโครงสร้างและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนมากขึ้นแบบก้าวกระโดดในไม่ช้านี้

โปรตุเกส

โปรตุเกสคือประเทศหนึ่งเดียวจากยุโรปที่ติดอันดับในลิสต์นี้ ซึ่งถือว่าพลิกความคาดหมายไม่น้อย ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าโปรตุเกสคือประเทศที่คนที่ย้ายมาทำงาน 84% ลงความเห็นว่ามีความสุขกับชีวิตโดยรวม และที่นี่มีอากาศอบอุ่นตลอดปี มีกิจกรรมให้ทำมากมาย วัฒนธรรมขึ้นชื่อ อาหารหลากหลาย ประเทศสวยงาม คนเป็นมิตรทำให้มีชีวิตทางสังคมที่ดี ผู้คนที่ย้ายไปอยู่จึงรู้สึกว่าโปรตุเกสเหมือนบ้าน แม้ว่าโปรตุเกสมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ สาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐาน และระบบขนส่งสาธารณะที่ไม่ดีเทียบเท่าประเทศชั้นนำในยุโรปก็ตาม

นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และแคนาดา

นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และแคนาดา คือดินแดนที่ผู้คนทั่วโลกยากจะย้ายถิ่นฐานไปอยู่อาศัยถาวร และทำงานที่นั่นอยู่แล้ว จึงไม่น่าแปลกในที่สามประเทศนี้จะติดในลิสต์นี้

ทั้ง นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และแคนาดาคือประเทศที่พัฒนาแล้ว เป็นดินแดนในฝันของคนไทยหลายๆ คน เพราะเมื่อเข้าไปทำงานที่นี่ ทุกคนมีโอกาสในชีวิตการทำงาน สร้างความมั่นคงให้กับชีวิตได้ไม่ยาก เพราะประเทศเหล่านี้มีฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

จุดเด่นของทั้งสามประเทศนี้คือคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยม เพราะมีโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่ตอบทุกโจทย์ความต้องการ มีสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ มีกิจกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีความเป็นประชาธิปไตยสูง เป็นสังคมที่เปิดกว้าง ยอมรับความแตกต่างของทุกเชื้อชาติ แต่ปัญหาสุดคลาสสิกของการเข้าไปอยู่ในประเทศเหล่านี้ก็คือปัญหาเรื่องค่าครองชีพที่ค่อนข้างแพง หลายคนที่เข้าไปอยู่ชักหน้าไม่ถึงหลัง มีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย อย่างไรก็ดีเมื่อเทียบกับประเทศชั้นนำที่พัฒนาแล้วอื่นๆ จากทั่วโลก พบว่าทั้ง 3 ประเทศนี้มีค่าครองชีพที่ถูกว่ามาก  

และนี่ก็คือ 10 ประเทศที่น่าย้ายไปอยู่ประจำปี 2021 ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่กำลังสนใจอยากย้ายประเทศ สำหรับใครที่ชื่นชอบสนใจประเทศไหน ก็สามารถหาข้อมูลการย้ายถิ่นฐานเพิ่มเติมกันได้ และเราก็ขอให้สมหวังในการย้ายถิ่นฐานกันทุกคนนะครับ