ช่วงนี้กระแสของยานยนต์ไฟฟ้ากำลังมาแรง ในหลายประเทศกระแสการมาของยานยนต์ไฟฟ้าที่จะมาทดแทนยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) ได้เกิดขึ้นแล้ว
โดยเฉพาะในหลายประเทศที่พัฒนาแล้วและใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม เช่น สหภาพยุโรป อเมริกา จีน และญี่ปุ่น เป็นต้น แต่สำหรับในบ้านเรากระแสของรถไฟฟ้ายังคงไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่นัก เพราะขาดปัจจัยสนับสนุนที่ดีพอ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีคนไทยไม่น้อยที่ชื่นชอบในรถไฟฟ้าและพร้อมจะเทใจ เปลี่ยนมาใช้ แม้ว่าปัจจุบันราคาของรถไฟฟ้าในบ้านเรายังมีราคาแพงอยู่ก็ตาม
สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ติดตามเรื่องราวของรถไฟฟ้ามาก่อนจนตอนนี้รู้สึกสนใจรถไฟฟ้า แต่ก็ยังมีความลังเลใจว่าหากเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าแล้วจะคุ้มค่าการลงทุนหรือไม่ วันนี้เราจึงมีข้อมูลสำคัญ เพื่อเปรียบเทียบกันให้เห็นชัดๆ ถึงราคาค่าเชื้อเพลิงหรือไฟฟ้าที่คุณต้องจ่ายเมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างยานยนต์ 3 ชนิด ได้แก่ ยานยนต์สันดาปภายใน ,ยานยนต์ไฮบริด และยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งโดยเราจะเปรียบเทียบให้เห็นว่า หากคุณมีเงิน 100 บาท ยานยนต์แต่ละชนิดจะวิ่งได้ไกลเท่าไหร่ โดยจะมีรายละเอียดเป็นดังนี้
ยานยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine : ICE)
เรามาเริ่มกันที่ยานยนต์สันดาปภายใน ซึ่งก็คือยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้เชื้อเพลิงภายในผ่านจังหวะการ ดูด อัด ระเบิด คาย เพื่อเปลี่ยนเป็นแรงทางกลในการขับเคลื่อนยานยนต์ให้ได้พละกำลัง ความเร็ว และทิศทางที่ต้องการ ซึ่งนั่นก็รวมถึงเครื่องยนต์ เบนซิน ดีเซล ไบโอดีเซล และก๊าซธรรมชาติ (ทั้ง NGV และ LPG) โดยยานยนต์สันดาปภายในนี้ได้รับความนิยมมานานมากแล้ว นับตั้งแต่ที่โลกเราเปลี่ยนผ่านจากยุคจักรกลไอน้ำมาสู่ยุคยานยนต์สันดาปภายก็เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้ว
สำหรับรถยนต์สันดาปภายในนั้นจะมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลงอยู่ที่ 14-16 กิโลเมตรต่อลิตร ค่าเชื้อเพลิงจะอยู่ที่กิโลเมตรละ 1.72-2.08 บาท ดังนั้นหากคุณมีเงิน100 บาท รถยนต์สันดาปภายในจะวิ่งได้ไกลเป็นระยะทาง 45-58 กิโลเมตร
รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle : HEV)
ในช่วง 20 ปีที่แล้ว หรือในช่วงต้นยุค 2000 ที่มีการประโคมข่าวว่า “น้ำมันจะหมดโลก” ทรัพยากรธรรมชาติ น้ำมันเชื้อเพลิงของโลกกำลังจะหมดไป และยานยนต์สันดาปภายในก็เป็นปัจจัยหลักในการผลาญน้ำมันโลกให้หมดไปอย่างรวดเร็ว ราคาน้ำมันจึงเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติกาล
ด้วยเหตุนี้วิศวกรจากทั่วโลกจึงต้องช่วยกันคิดค้นระบบต้นกำลังของยานยนต์รูปแบบใหม่เพื่อจะได้ช่วยลดการใช้น้ำมันของยานยนต์ จึงได้ก่อให้เกิดยานยนต์ไฮบริดขึ้น ซึ่ง ยานยนต์ไฮบริด ก็คือยานยนต์ที่ใช้ต้นกำลังเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในร่วมกับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าซึ่งประกอบด้วย แบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า ที่จะช่วยให้ยานยนต์ชนิดนี้ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่ายานยนต์สันดาปภายในทั่วไป และปล่อยมลพิษน้อยกว่า
สำหรับรถยนต์ไฮบริดนั้นจะมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลงอยู่ที่ 23-25 กิโลเมตรต่อลิตร ค่าเชื้อเพลิงจะอยู่ที่กิโลเมตรละ 1.17-1.25 บาท ดังนั้นหากคุณมีเงิน100 บาท รถยนต์สันดาปภายในจะวิ่งได้ไกลเป็นระยะทาง 80-85 กิโลเมตร
รถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน (Electric Vehicle : EV)
เรามาปิดท้ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนที่กำลังฮอตฮิตเป็นกระแสไปทั่วโลกในตอนนี้ โดยที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ปลุกกระแสให้ยานยนต์ไฟฟ้าล้วนมาเร็วกว่ากำหนดก็คือ Elon Musk แห่ง Tesla Motor ที่ได้สร้างแคมเปญต่างๆ ดันรถไฟฟ้าสุดตัวมาตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว จนกระแสของมันจุดติดในปัจจุบัน
ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ และการชาร์จซึ่งเป็นหัวใจหลักของยานยนต์ไฟฟ้าล้วนได้พัฒนาไปมากแล้ว ทั้งในเรื่องความจุ และความเร็วในการชาร์จ จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ในยุคนี้จะต้องปฏิเสธรถยนต์ไฟฟ้า เพราะมันดีต่อชาวโลกในทุกๆ เรื่อง ทั้งในเรื่องการประหยัดค่าเชื้อเพลิง และลดการปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศ
อีกทั้งหลักการทำงานก็ง่าย ไม่มีความซับซ้อน เพราะรถยนต์ไฟฟ้าจะใช้พลังงานไฟฟ้าที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่เพื่อขับมอเตอร์ที่ใช้เป็นต้นกำลังของล้อรถยนต์ไฟฟ้าโดยตรง จึงทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความทนทาน ไม่เสียง่าย และมีค่าดูแลรักษาต่ำกว่ายานยนต์ 2 ชนิดก่อนหน้า
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะมีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 2.89-6.04 กิโลเมตรต่อหนึ่งหน่วยไฟฟ้า (kWh) ค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายอยู่ที่กิโลเมตรกิโลเมตรละ 0.5-1 บาท ดังนั้นหากคุณมีเงิน100 บาท รถยนต์สันดาปภายในจะวิ่งได้ไกลเป็นระยะทาง 100-200 กิโลเมตร เลยทีเดียว
และนี่ก็คือการเปรียบเทียบให้เห็นแบบชัดๆ ของความคุ้มค่าในเรื่องค่าเชื้อเพลิงและไฟฟ้าของยานยนต์ทั้ง 3 ชนิดเปรียบเทียบกัน ก็หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งข้อมูลดีสำหรับคนที่กำลังสนใจรถไฟฟ้าไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ ส่วนใครที่เทใจมาทางรถไฟฟ้าแล้ว แต่ขาดประสบการณ์อยากลองขับรถ EV จริงก่อน เพื่อจะได้รู้ว่าชอบแน่หรือไม่ ปัจจุบันก็มีหลายบริษัทเปิดให้บริการเช่ารถไฟฟ้าไว้ลองขับ ที่มีแบบทั้งเป็นรายชั่วโมง รายวัน และรายเดือนแล้วนะ สนใจก็ลองหาข้อมูลกันดูครับ