คนที่ประสบกับสภาวะการเงินมีปัญหา ชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช้จ่ายแบบแทบจะเรียกได้ว่าเดือนชนเดือนในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้องเข้าสู่การ รัดเข็มขัด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพิ่มรายได้ ฟื้นฟูสถานะการเงินในครอบครัว หลังจากที่ได้พยายามกันมาพักหนึ่ง เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ประสบความสำเร็จกันมั้ย?
ถ้าคุณยังไม่ทราบว่าความพยายามฟื้นฟูสถานะทางการเงินของคุณประสบความสำเร็จขึ้นบ้างหรือไม่ วันนี้เรามี 8 สัญญาณที่ดีว่าคุณมาถูกทางแล้วจะมาบอกให้ทราบกัน ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย
รายได้สม่ำเสมอ
สำหรับข้อแรก ยังไม่พูดถึงว่ารายได้ที่เข้ามามากหรือน้อย แต่เน้นไปที่ความสม่ำเสมอ หากในแต่ละเดือนเมื่อทำบัญชีแล้วทราบว่ามีรายรับอย่างสม่ำเสมอ เข้ามาจากแหล่งรายได้หลายทางที่คุณได้สร้างขึ้น ทั้งจากงานหลัก และงานเสริม ก็เริ่มสบายใจได้เปราะหนึ่งแล้วว่าแหล่งที่มาของรายได้ทุกทางที่คุณได้สร้างขึ้นสามารถทำเงินได้จริง ที่เหลือก็แค่ปรับปรุงคุณภาพ เพิ่มปริมาณรายรับของแต่ละแหล่งที่มาของรายได้
รู้ที่มาที่ไปของรายจ่าย
ก่อนหน้านี้คนที่ประสบปัญหาการเงินทั้งหลายจะไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับรายจ่าย เพราะอยากได้อะไรก็ซื้อตามใจตัวเองทุกอย่าง การเริ่มรับรู้ที่มาที่ไปของรายจ่ายย่อมเป็นสัญญาณที่ดี เพราะคุณจะได้ทราบว่ารายจ่ายที่จ่ายไปในแต่ละรายการคุ้มค่ากับการจ่ายมากน้อยแค่ไหน เพราะการจ่ายส่วนใหญ่ของคนเราจะเป็นการจ่ายในลักษณะที่ทำให้ สูญเสียความมั่งคั่ง
เริ่มชำระหนี้ได้ตรงตามกำหนดเวลา
เชื่อว่าก่อนหน้านี้คนที่ประสบปัญหาด้านการเงินทุกคนย่อมมีอาการชักหน้าไม่ถึงหลัง นั่นหมายความถึงว่าการจ่ายบิลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำ-ไฟ ค่าเช่าบ้าน หนี้บัตรเครดิต เงินกู้ต่างๆ และงวดรถ เป็นต้น จะต้องมีความล่าช้า ต้องมีการผลัดผ่อน เลื่อนอยู่เสมอๆ และทุกครั้งที่ต้องเลื่อน รายจ่ายที่เพิ่มตามมาก็คือดอกเบี้ย และค่าปรับต่าง แต่หากเร็วๆ นี้ ช่วงที่ผ่านมาคุณสามารถจ่ายบิลได้ตรงเวลามาหลายรอบบิลแล้ว ย่อมเป็นสัญญาณที่ดีว่า สถานะทางการเงินคุณพัฒนาขึ้นมาก
เริ่มออมเงินได้เป็นก้อน
มีคำแนะนำที่ดีเกี่ยวกับการออมเงิน คือเมื่อได้รายรับมาแล้ว ให้ออมก่อนเสมอ ก่อนที่จะจ่าย เช่น บางคนกำหนดว่าต้องออมให้ได้ 5% ของรายได้ในแต่ละเดือน ที่เหลือค่อยนำไปบริหารการใช้จ่ายต่างๆ ในครอบครัว หากคุณทำได้เช่นนี้มาหลายเดือนแล้ว ตอนนี้ย่อมมีเงินเก็บเป็นก้อน มากน้อยก็ตามแต่รายได้ของแต่ละคน แต่อย่างน้อย หากเริ่มออมได้จนมีเงินเก็บก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีแล้วล่ะ
สามารถซื้อของที่ต้องการได้โดยไม่เดือดร้อน
ก่อนหน้านี้คุณจำเป็นต้องเข้าสู่มาตรการ รัดเข็มขัด คงทำให้รู้สึกอึดอัด ต้องข่มจิตข่มใจไม่ให้จ่ายเงินได้ไม่น้อย แต่ตอนนี้หากคุณเริ่มซื้อของเพื่อสนองกิเลสตัวเองได้มากขึ้น โดยไม่ทำให้วินัยทางการเงินต้องเสียไป ยังคงออมเงินได้ตามเป้า จ่ายบิลชำระหนี้ต่างๆ ได้ตรงเวลา นั้นเป็นสัญญาณว่าสถานะทางการเงินคุณเริ่มดีขึ้นมากแล้ว
เริ่มฝันถึงการลงทุนต่อยอด
เมื่อเดินมาถูกทาง สถานะการเงินในครอบครัวดีขึ้น คุณและคนในครอบครัวก็จะมีความสุข ปัญหาทะเลาะเบาะแว้งก็จะลดลง การใช้จ่ายคล่องตัวขึ้น เงินออมเริ่มเติบโต คุณก็จะเริ่มมีความฝันอยากนำเงินไปต่อเงินให้งอกเงยเพิ่มรายได้ให้มั่นคงมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อมาถึงจุดนี้ นั่นหมายความว่าคุณใกล้หลุดพ้นจากปัญหาหนี้สินแล้ว อย่างไรก็ตามอย่าได้ชะล่าใจ เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ก่อนจะลงทุนอะไรต้องศึกษาให้ดี รอบคอบเข้าไว้ พลาดมาอาจได้ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นก็ได้นะ
เคลียร์ประวัติการเงินให้สดใสแล้ว
สำหรับคนที่เคยติดบูโร หรือ มีประวัติเสียทางการเงิน หากสามารถล้างบูโรได้สำเร็จ ถึงตอนนี้แสดงว่าคุณประสบความสำเร็จมากๆ แล้ว เพราะประวัติทางการณ์เงินที่ดี ย่อมทำให้คุณสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนต่างๆ จากสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้น
เริ่มนำเงินไปลงทุนระยะยาวได้
สำหรับใครที่มาถึงข้อนี้ได้แบบไม่ลัดขั้นตอน นั่นย่อมบ่งบอกได้ว่าคุณสามารถฟื้นฟูสถานะทางการเงินได้สำเร็จแล้ว เพราะคุณมีเงินเย็นไปลงทุนระยะยาว หรือเรียกได้ว่าเป็นการออมเพื่อให้รายได้งอกเงยอย่างมั่นคงสามารถส่งต่อถึงลูกหลานได้ เช่น การออมในหุ้น และกองทุนต่างๆ ที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ผลตอบแทนงดงาม
และนี่ก็คือ 8 สัญญาณที่บ่งชี้ว่าสถานะทางการเงินของคุณดีขึ้น แบบตรงไปตรงมา ไม่หลอกตัวเอง ที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ที่ประสบปัญหาทางการเงินมาก่อนได้ทราบ ก็หวังจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน สำหรับใครที่เริ่มมีสัญญาณเหล่านี้แล้วเราก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วย ส่วนใครที่ยังทำไม่สำเร็จ ก็ต้องพยายามกันต่อไป สู้ๆ กันทุกคนนะครับ