สำหรับวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ การที่ทีมต่างๆคว้านักเตะใหม่มาเสริมทัพแบบไม่มีค่าตัว หรือการที่ผู้เล่นเหล่านั้นหมดสัญญากับต้นสังกัดเดิมมันมีเป็นประจำในตลาดนักเตะแทบทุกรอบอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่า แข้งคนดังกล่าวจะทำผลงานได้ดีเพียงใด

         นักเตะไร้ค่าตัวบางคนตอบแทนต้นสังกัดใหม่ได้อย่างคุ้มค่า แต่สำหรับผู้เล่นทั้ง 6 รายนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขาเป็นการลงทุนที่น่าผิดหวังที่สุดของสโมสร

1. วินสตัน โบการ์เด้ (บาร์เซโลน่า ไปยัง เชลซี ปี 2000)

โบการ์เด้ เป็นอดีตปราการหลังตัวหลักของสโมสรดังแห่งยุโรปอย่าง อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์เดม, เอซี มิลาน และ บาร์เซโลน่า รวมถึงมีดีกรีติดทีมชาติฮอลแลนด์ 20 ครั้ง ซึ่งการที่เขาย้ายมาคุมแนวรับให้กับ เชลซี ในปี 2000 นั้น มันเป็นดีลที่แฟนบอล “สิงโตน้ำเงินคราม” ตื่นเต้นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เชลซี เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังจาก จานลูก้า วิอัลลี่ โค้ชชาวอิตาลีที่ดึง โบการ์เด้ เข้ามาร่วมทีมนั้น โดนปลด และถูกแทนที่โดย เคลาดิโอ รานิเอลี่ ที่ไม่ได้มี โบการ์เด้ อยู่ในแผนการทำทีมตั้งตั้งแต่แรก

 กองหลังชาวดัตช์ต้องเผชิญห้วงเวลาที่ยากลำบากอย่างหนักกับ เชลซี แต่เขาก็ยอมอยู่จนครบสัญญา 4 ปีกับสโมสร โดยลงเล่นไปรวมทุกรายการเพียง 9 เกม ก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดในเวลาต่อมา

2. มาร์ค บอสนิช (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปยัง เชลซี ปี 2001)

หลังจากเฝ้าเสากับ แอสตัน วิลล่า มานาน 8 ปี บอสนิช ก็ได้โอกาสครั้งใหญ่ด้วยการย้ายไปร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 1999 แต่หนึ่งปีต่อมา “ปีศาจแดง” คว้าตัว ฟาเบียน บาร์กเตซ โกล์ทีมชาติฝรั่งเศสเข้ามาเสริมทัพก็ทำให้เขาต้องย้ายออกมาเพื่อหาโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ

ในปี 2001 บอสนิช ตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ เชลซี แบบไร้ค่าตัวด้วยสัญญา 18 เดือนเพื่อท้าทายตำแหน่งมือ 1 กับ คาร์โล คูดิชินี่ แต่ทุกอย่างมันไม่เป็นไปตามที่หวังเอาไว้ โดยอดีตนายด่านทีมชาติออสเตรเลียมีปัญหากับการใช้ชีวิตนอกสนามอย่างหนัก และโดน “สิงโตน้ำเงินคราม” ปล่อยตัวในปี 2003 หลังจากไม่ผ่านการทดสอบยาเสพติด

3.  โจ โคล (เชลซี ไปยัง ลิเวอร์พูล ปี 2010)

บางที สตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ก็น่าเห็นใจที่สุดหลังเคยให้สัมภาษณ์ในช่วงที่ “หงส์แดง” คว้าตัว โคล มาจาก เชลซี ได้สำเร็จแบบไม่มีค่าตัวพร้อมค่าเหนื่อย 90,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ โดยระบุว่า “เมสซี่ สามารถทำสิ่งที่น่าอัศจรรย์บางอย่างได้ แต่ทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้ โจ โคล ก็สามารถทำได้เช่นกัน”

อย่างไรก็ตาม โคล ไม่สามารถทำได้เหมือนกับที่ เจอร์ราร์ด พูดไว้ เขามีปัญหาสภาพร่างกายตลอดเวลา 2 ปีที่อยู่กับ ลิเวอร์พูล โดยลงเล่นไปรวมทุกรายการเพียง 42 เกม ก่อนจะโดนปล่อยให้ ลีลล์ ยืมคัวไปใช้งาน และก็ย้ายกลับไปเล่นกับสโมสรเก่าอย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเวลาต่อมา

4. ไมเคิ่ล โอเว่น (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปยัง สโต๊ค ซิตี้ ปี 2012)

อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ตัดสินใจย้ายออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด มาเล่นกับ สโต๊ค เพื่อหาโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ แต่จากปัญหาอาการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวายในช่วงเริ่มต้นกับ “ชั่งปั้นหม้อ” นั้น ก็ส่งผลให้เขาต้องพักยาว และตกเป็นตัวสำรองของ ปีเตอร์ เคร้าช์

ตลอด 1 ปี กับ สโต๊ค โอเว่น ไม่เคยได้ลงสนามเป็นตัวจริงเลย ได้ลงเล่นไปทั้งหมด 8 เกมในฐานะตัวสำรอง ยิงไป 1 ประตู และประกาศอำลาวงการฟุตบอลทันทีหลังจบฤดูกาล

5. โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปยัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปี 2011)

ในฐานะที่เคยเป็นอดีตนักเตะ บาเยิร์น มิวนิค เจ้าของดีกรีแชมป์บุนเดสลีก 4 สมัย และ แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย รวมถึงเป็นอดีตนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด พ่วงด้วยถ้วยพรีเมียร์ลีก 1 สมัย และแชมป์ยุโรป 1 สมัย ชื่อชั้นของ ฮาร์กรีฟส์ ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ

ในซัมเมอร์ปี 2011 หลังหมดสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษเร่งพิสูจน์สภาพร่างกายตัวเองผ่านทางยูทูป และดูเหมือนว่า มันได้ผลหลังจาก แมนฯ ซิตี้ เสนอสัญญาให้เขา 1 ปี และ ฮาร์กรีฟส์ ก็รับโอกาสเอาไว้

ในฤดูกาลดังกล่าว แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดในรอบ 44 ปีของสโมสรได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่ ฮาร์กรีฟส์ ไม่มีโอกาสรับเหรียญรางวัลหลังจากเขาลงสนามในลีกให้ “เรือใบสีฟ้า” ไป 1 เกม

6. โรแบร์ต ปิแรส (บียาร์เรอัล ไปยัง แอสตัน วิลล่า 2010)

อดีตปีกตัวเก่ง อาร์เซน่อล ได้กลับมาเล่นฟุตบอลอังกฤษอีกในรอบ 4 ปีหลังจากที่ แอสตัน วิลล่า เสนอสัญญาระยะสั้นให้เขาเป็นเวลา 6 เดือน หลังจากที่หมดสัญญากับพลพรรค “เรือดำน้ำสีเหลือง” บียาร์เรอัล

อย่างไรก็ตาม ในวัย 37 ปี ปิแรส เลยช่วงที่ดีที่สุดของเขาไปแล้ว และแน่นอนว่า เขาล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงกับ วิลล่า โดนมีโอกาสลงเล่นไปเพียง 9 เกม

ภาพประกอบ : joe.ie, theguardian.com ,skysports.com