คนส่วนใหญ่เมื่อเรียนจบ เข้าสู่วัยทำงานก็มักจะเลือกสมัครเข้าทำงานในองค์กรต่างๆ ตามสายวิชาชีพที่ตนได้ร่ำเรียนมา เป็นพนักงานประจำ เพื่อหารายได้ และเก็บประสบการณ์การทำงาน โดยได้รับรายได้ผลตอบแทนเป็นเงินเดือนในแต่ละเดือน หลายคนเมื่อทำงานลักษณะนี้ไปสักพักก็เกิดอาการเบื่อหน่าย
เพราะงานไม่มีความท้าทาย ไม่สมกับความรู้ความสามารถของตนที่ได้ร่ำเรียนมา ครั้นจะเปลี่ยนงานใหม่ก็เสี่ยงเหลือเกินเพราะช่วงนี้งานก็หายาก ครั้นจะลาออกมาเป็นนายตัวเอง เป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ หรือเป็นฟรีแลนซ์ก็ไม่กล้าพอ เพราะกลัวว่าจะหารายได้ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ จึงจำเป็นต้องจำยอมทำงานเดิมนี้ต่อไป ทั้งๆ ที่ความเบื่อหน่ายสะสมมีมากขึ้นทุกวัน นานวันเข้าก็กลายเป็น “หมดไฟ” ในการทำงาน กลายเป็นคนเฉื่อยชา ทำงานช้า และทำงานขาดประสิทธิภาพ และเป็นตัวถ่วงขององค์กรในที่สุด
ใครที่กำลังเผชิญหน้ากับอาการหมดไฟเช่นนี้อยู่ แล้วอยากจะกลับมามีชีวิตชีวาลิงโลดดีใจเหมือนวันแรกที่รู้ว่าบริษัทรับเราเข้าทำงานจะต้องทำอย่างไร วันนี้เราได้รวบรวมเคล็ดลับมาให้เพื่อนๆ ได้ทราบกัน 5 ข้อ ดังนี้
รับรู้ถึงคุณค่าของงานที่เราทำ
เพื่อนๆ บางคนเรียนจบมาสูง บางคนเรียนเก่งมาก จบมาจากเมืองนอกเมืองนา ได้เกียรตินิยม แต่พอมาทำงานจริงๆ ในองค์กรกลับรู้สึกว่าได้ทำงานกระจิ๊บกระจ๊อยไม่สมกับที่เรียนมา ทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย แม้ว่าจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินเดือนที่สูงตามคุณวุฒิที่มีก็ตามที สถานการณ์เช่นนี้สามารถแก้ไขได้ไม่ยาก ก็คือคุณอย่าดูถูกดูแคลนงานที่กำลังทำอยู่ จงรับรู้ว่าอย่างน้อยมันก็ทำให้คุณมีรายได้สะดวกสบาย เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ จงทำมันอย่างเต็มที่ ให้มีประสิทธิภาพ และทำให้เสร็จเร็วที่สุดตามความสามารถที่คุณมี ซึ่งนั่นจะย่อมช่วยทำประโยชน์ต่อองค์กรได้มากกว่าการที่คุณเฉื่อยชาไม่ให้ความสำคัญกับมัน
เวลาที่เหลือหลังจากทำงานเสร็จคุณสามารถนำไปใช้พัฒนาศักยภาพต่างๆ ให้กับตัวเอง รวมถึงจัดเตรียมข้อเสนอแนะดีๆ ให้กับองค์กร และช่วยเหลือทีมงานคนอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือ เพื่อจะได้ขับเคลื่อนให้องค์กรก้าวหน้าไปพร้อมกัน อย่าน้อยใจว่าตนได้ทำงานไม่สมกับความรู้ เพราะถึงเวลา ความรู้ที่คุณมีรับรองว่าได้ใช้แน่นอน หากไม่ได้ใช้ในงานหลัก ก็สามารถใช้หารายได้เสริมได้
รู้คุณค่าของเวลา พร้อมมองหาโอกาสใหม่ๆ
คนเก่งหลายคนรู้ว่างานที่ได้รับมอบหมายจากองค์กรมานั้นง่าย แค่กระดิกนิ้วครั้งเดียวก็เสร็จ ก็เลยใช้วิธีการเตะถ่วง ไม่สนใจทำตั้งแต่ตอนแรก แล้วค่อยมาเร่งทำในภายหลัง ทำให้งานขาดความรอบคอบ คุณภาพไม่ดีสมกับที่ได้รับความไว้วางใจ บางครั้งก็เสร็จไม่ทันกำหนด
แทนที่คุณจะทำแบบนั้น คุณควรเปลี่ยนวิธีการคิดและทำใหม่ เมื่อได้รับมอบหมายงานมาไม่ว่าจะง่ายหรือยากเพียงใด ก็ต้องรีบตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จก่อน คุณควรทำงานอย่างรู้คุณค่าของเวลา เมื่อเสร็จแล้วก็ทบทวนความถูกต้องเพื่อให้ผลงานมีคุณภาพเป็นที่ประทับใจของเจ้านาย เมื่อมีเวลาเหลือคุณค่อยใช้มองหาโอกาสความก้าวหน้าใหม่ๆ ทั้งในแง่การลงทุน และเพิ่มพูนศักยภาพการทำงานของตัวเองให้สูงยิ่งๆ ขึ้นไป
เพียงเท่านี้คุณก็จะเห็นแล้วว่า ยิ่งงานของคุณง่ายแค่ไหน ก็ยิ่งไม่มีอะไรน่าเบื่อเลย เพราะคุณจะได้มีเวลาว่างมองหาโอกาสทำสิ่งท้าทายใหม่ๆ ที่เป็นความสำเร็จของตัวเอง โดยยังกอดงานที่มั่นคง เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพของคุณไว้ได้
ใส่ใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้ดี
ใครจะรู้ บางทีความเบื่อหน่ายในชีวิตการทำงานอาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด ไม่ว่าจะเป็นบ้านรก ห้องนอนรก ชีวิตความเป็นอยู่ไม่ถูกสุขอนามัย โต๊ะทำงานยุ่งเหยิง ไม่เป็นระเบียบ หาอะไรไม่ค่อยเจอ เมื่อสำรวจตัวเองแล้วหากใครพบว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ จงอย่าได้นิ่งนอนใจคิดว่าไม่มีผล จริงๆ แล้วมันมีผลมาก แต่คุณไม่รู้ตัว ต้องรีบจัดการให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเสีย ไม่แน่ว่าความรู้สึกเซ็งๆ เบื่อหน่ายกับงานอาจหายไปในพริบตาเลยทีเดียว ดังคำกล่าวที่โด่งดังของนายพลสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จท่านหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า “หากคุณคิดจะเปลี่ยนโลก เปลี่ยนที่นอนของคุณเองให้เป็นระเบียบเรียบร้อยซะก่อน”
ท่องเที่ยว เปิดโลกกว้าง เปิดประสบการณ์ ใกล้ชิดธรรมชาติ
อย่าให้ชีวิตผูกติดไว้กับที่ทำงานเป็นที่สุดท้าย หลายคนให้ความสำคัญกับออฟฟิศมากจนลืมไปว่าโลกนี้ยังมีอะไรให้น่าค้นหาอีกมาก การได้ออกไปท่องเที่ยว หาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับชีวิตยังสถานที่ที่ไม่เคยไปมาก่อนย่อมช่วยคลายความรู้สึกเบื่อหน่ายในชีวิตการทำงานได้เป็นอย่างดี การได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติจะทำให้คุณเข้าใจชีวิต และรู้จักมองโลกให้กว้างขึ้น ผู้ประสบความสำเร็จแทบทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า วันใดที่คุณรู้สึกหมดไฟในการทำงาน ให้ลาพักร้อนแล้ว “ออกไปเที่ยว” เพื่อชาร์จพลังให้ตัวคุณกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง รับรองว่ากลับจากท่องเที่ยว ไฟในตัวคุณจะลุกโชนกลับมา
พักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลสุขภาพกาย และสุขภาพจิตให้ดี
ใครที่รู้ตัวว่าช่วงนี้นอนไม่ค่อยหลับ ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ปาร์ตี้เยอะ ดื่มหนัก สูบบุหรี่จัด ก็ควรหันกลับมาดูแลเอาใจใส่สุขภาพได้แล้ว สุขภาพที่ย่ำแย่ พักผ่อนไม่เพียงพอ มีความเหนื่อยล้าสะสมย่อมเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ร่างกายและจิตใจเราไม่พร้อมทำงาน ก่อให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกเบื่อหน่ายกับงานได้
อีกทั้งบางคนมีอาการเมื่อยล้าสะสม นอนยังไง พักผ่อนยังไงก็ไม่รู้สึกหายเพลีย ควรได้รับการเข้าตรวจสุขภาพกับแพทย์ เพราะอาการลักษณะนี้บางทีรักษาเองไม่หาย หนำซ้ำบางคนอาจมีอาการของโรคซึมเศร้าโดยไม่รู้ตัวด้วย ดังนั้นเรื่องของสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
และนี่ก็คือ 5 เคล็ดลับสำหรับใช้รับมือกับอาการหมดไฟในการทำงานที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ในวัยทำงานทุกคน โดยเฉพาะคนที่เพิ่งได้งานใหม่ ประสบการณ์ในชีวิตการทำงานยังน้อย หมดไฟในการทำงานได้ง่าย เมื่อได้ทราบแล้วหากเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กัน รับรองว่ามันจะช่วยทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น และกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง