สำหรับนักฟุตบอลทุกคนการย้ายมาเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งขึ้นชื่อได้ว่า เป็นลีกที่แข็งแกร่ง และโหดที่สุดลำดับต้นๆของโลกนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่พวกเขาจะโชว์ฟอร์มเก่งได้ทันทีตั้งแต่ฤดูกาลแรกไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นชื่อดังแค่ไหนก็ตาม
5 แข้งบิ๊กเนมเหล่านี้ แสดงให้เห็นแล้วว่า ปีแรกในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีมันยากลำบากเพียงใด แต่พวกเขาก็ตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการระเบิดผลงานน่าประทับใจในซีซั่นต่อมาหลังจากปรับตัวได้เรียบร้อยแล้ว
1. ปาทริซ เอฟร่า (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
เอฟร่า กลายเป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างไม่ต้องสงสัย หลังย้ายมาจาก โมนาโก ในเดือนมกราคมปี 2006 ด้วยค่าตัวเพียง 5.5 ล้านปอนด์ แต่เขาก็ต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะแจ้งเกิดกับ “ปีศาจแดง” สำเร็จ
ในช่วงแรก อดีตแบ็คเฟรนช์แมน มีปัญหาการปรับตัวในเมืองผู้ดีอย่างมาก โดยในเกมที่เขาประเดิมสนามให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น ทีมก็แพ้ แมสเชสเตอร์ ซิตี้ คู่อริร่วมเมือง 1-3 ซึ่ง เอฟร่า ก็โดนวิจารณ์ฟอร์มกาเล่นอย่างหนักจนถึงขนาด เฟอร์กูสัน ต้องดร็อปเขาออกจากทีมตัวจริงในเกมต่อมาที่พบกับ ลิเวอร์พูล
ซีซั่นถัดมาหลังจากทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เอฟร่า เรียกฟอร์มเก่งกลับมาอีกครั้ง เขายึดตำแหน่งแบ็คซ้ายตัวจริง แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นการถาวรเหนือเพื่อนร่วมทีมอย่าง จอห์น โอเช, กาเบรียล ไฮน์เซ่ และ มิคาเอล ซิลแวสตร์ โดยเจ้าตัวอยู่กับ “ปีศาจแดง” นานถึง 8 ปี และพาทีมประสบความสำเร็จมากมายก่อนย้ายไป ยูเวนตุส
2. ไมเคิล เอสเซียง (เชลซี)
มิดฟิลด์ทีมชาติกาน่ากลายเป็นการเซ็นสัญญาแพงที่สุดเป็นสถิติสโมสรของ เชลซี หลังย้ายมาจาก โอลิมปิก ลียง ด้วยค่าตัว 24.4 ล้านปอนด์ในซัมเมอร์ปี 2005 แต่ 12 เดือนแรกในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เขาโชว์ฟอร์มได้ไม่คุ้มค่าตัวเลย
ในปีต่อมา โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตโค้ช เชลซี จัดการดึง มิขาเอล บัลลัค จอมทัพชาวเยอรมันเข้ามาเสริมทัพอีกเพื่อผนึกกำลังร่วมกับ แฟรงค์ แลมพาร์ด และ โคล้ด มาเกเลเล่ ในแดนกลาง ซึ่งหลายคนมองว่า เอสเซียง คงจะหมดอนาคตแล้ว
เอสเซียง ก้มหน้าก้มตาฝึกซ้อม และพิสูจน์ตัวเองให้ มูรินโญ่ ได้เห็น จนเบียด บัลลัค กลายไปเป็นตัวสำรอง ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญในแผงกลางของ “สิงโตน้ำเงินคราม” นานถึง 7 ปี แต่น่าเสียดายที่ในช่วงหลังเขาได้รับบากเจ็บบ่อยครั้งก่อนจะถูกปล่อยไปเล่นกับ เรอัล มาดริด และ เอซี มิลาน
3. ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ (เวสต์แฮม / ลิเวอร์พูล)
เวสต์แฮม มีสถิติสุดย่ำแย่ด้วยการพ่ายไปถึง 8 เสมอ 1 จาก 9 เกมในพรีเมียร์ลีกหลังจากได้ตัว มาสเคราโน่ มาเสริมทัพในซัมเมอร์ปี 2006 โดยช่วงเวลาของห้องเครื่องอาร์เจนไตน์ที่ “ขุนค้อน” มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากมากๆเนื่องจากต้องตกเป็นตัวสำรองของ ไนเจล รีโอ-โคเกอร์ และ เฮย์เดน มัลลินส์
มาสเคราโน่ มีโอกาสลงเล่นให้ เวสต์แฮม ไปเพียง 7 เกมเท่านั้น แต่ ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตกุนซือ ลิเวอร์พูล ยังเห็นความสามารถของเขาเลยจอยืมตัวมาเล่นในถิ่น แอนฟิลด์ ในเดือนมกราคมปี 2007 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของกองกลาง “ฟ้าขาว” เลยก็ว่าได้
หลังได้มาเล่นในทีม ลิเวอร์พูล ร่วมกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ ชาบี อลอนโซ่ นั้น มาสเคราโน่ เรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ และกลายเป็นกำลังสำคัญในแดนกลาง “หงส์แดง” นาน 4 ปี ก่อนจะย้ายไป บาร์เซโลน่า และประสบความสำเร็จกับ “เจ้าบุญทุ่ม” มากมาย
4. โรแบร์ ปิแรส (อาร์เซน่อล)
ในฐานะตัวแทนของ มาร์ก โอเวอมาร์ส ตำนานปีกชาวดัตช์ของ อาร์เซน่อล ปิแรส หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะเจอกับความกดดันมหาศาลหลังจากที่เขาย้ายจาก โอลิมปิก มาร์กเซย มาเล่นกับ “ไอ้ปืนใหญ่” เมื่อปี 2000 ด้วยค่าตัว 5.3 ล้านปอนด์
ปีแรกของตัวรุกชาวฝรั่งเศสกับในอังกฤษนั้น มันยากลำบากมากๆ และแม้บางเกมจะทำผลงานได้โดดเด่น แต่เขาก็โชว์ฟอร์มได้ไม่สม่ำเสมอนักจนกลายคนมองว่า ปิแรส ไม่น่าจะใช่ตัวแทนที่เหมาะสมของ โอเวอมาร์ส
อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาล 2001-2002 อดีตปีก “ตราไก่” ระเบิดฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ เขาผนึกกำลังร่วมกับเพื่อนร่วมทีมชาวฝรั่งเศสอย่าง ปาทริค วิเอร่า และ เธียร์รี อองรี พา “ไอ้ปืนใหญ่” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสำเร็จ
5. เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง (ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ /พอร์ทสมัธ)
ชื่อของ บัวเต็ง อาจไม่ได้อยู่ในความทรงจำของแฟนบอล สเปอร์ส มากนักหลังย้ายมาจาก แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ในปี 2007 ด้วยค่าตัวราว 5 ล้านปอนด์ ทั้งที่ในเวลานั้น เขาได้รับการยกย่องว่า เป็นมิดฟิลด์ดาวรุ่งฝีเท้าดีลำดับต้นๆของวงการฟุตบอลยุโรป
มิดฟิลด์ชาวกาน่า มีโอกาสลงเล่นให้ สเปอร์ส ไปรวมทุกรายการเพียง 21 เกม และยิงไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว ก่อนจะถูกปล่อยให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยืมตัวไปใช้งาน 1 ปี และก็เป็น พอร์ทสมัธ ที่เข้ามารับช่วงต่อในปี 2009
บัวเต็ง เหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้งกับ พอร์ทสมัธ เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับโดยลงสนามไปมากถึง 27 เกม ซัดไป 5 ประตู จากนั้น ก็พเนจรย้ายไปเล่นกับหลายสโมสรอาทิ มิลาน, ชาลเก้, ลาส พลามัส, ซาสซูโอโล่ และ บาร์เซโลน่า
ภาพประกอบ : skysports.com