5 ความคิดผิดพลาดก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ ที่ต้องรู้ไว้ถ้าไม่อยากล้มเหลว - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
5 ความคิดผิดพลาดก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ ที่ต้องรู้ไว้ถ้าไม่อยากล้มเหลว

ผู้คนไม่น้อยมีความฝันว่าจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จย่อมเป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคม สามารถสร้างรายได้เพิ่มไม่จำกัด ต่อยอดธุรกิจออกไปได้เรื่อยๆ  มีอิสรเสรีในการใช้ชีวิต และการทำงาน ทำให้เราสามารถกำหนดชะตาชีวิตตัวเองได้อย่างสมบูรณ์

สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นพาสชั่นให้ใครหลายๆ คนอยากเริ่มต้นทำธุรกิจ แต่ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำ ลองถามตัวเองก่อนว่าคุณพร้อมแค่ไหน เพราะการทำธุรกิจนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิด และหากคุณมีพาสชั่นผิดๆ ดัง 5 ข้อที่เรากำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ ควรหยุดความคิดที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจไว้ก่อน เพราะคุณมีโอกาสที่จะไม่ประสบความสำเร็จสูง

เบื่องานประจำ

อารมณ์ของการทำงานประจำในวันแรกๆ นั้น ทุกคนคงจะตื่นเต้นดีใจไม่น้อย ที่จะได้เริ่มทำงานใหม่ มีเพื่อนใหม่ มีรายได้เป็นของตัวเองซักที แต่นานวันเข้าก็เริ่มรู้สึกเบื่อกับความซ้ำซากจำเจ และอีกหลายปัจจัย อย่างไรก็ตามคุณไม่ควรใช้เพียงความ “เบื่อ” นี้เป็นพาสชั่นในการผันตัวออกมาทำธุรกิจเลย โดยเฉพาะคนที่ยังมีเงินออมไม่มาก และมีรายจ่ายประจำ (Fix Cost) ในแต่ละเดือนค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่างวดบ้าน/รถ เป็นต้น

การทำธุรกิจส่วนตัวนั้นรายได้ไม่ค่อยแน่นอน โดยเฉพาะช่วงเริ่มต้นนั้นเรียกได้ว่า “ลูกผีลูกคน” ไม่มั่นคงมากๆ หากเดือนไหนรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ย่อมทำให้คุณติดลบ และสร้างความเดือดร้อนแก่ตัวเองและคนรอบข้างได้

สำหรับคนทำงานประจำที่สนใจอยากทำธุรกิจจริงๆ เราอยากแนะนำให้คุณเริ่มต้นลองทำธุรกิจที่สนใจควบคู่กับงานประจำไปก่อน โดยอาศัยช่วงเวลาหลังเลิกงาน รวมถึงวันหยุดต่างๆ จนกระทั่งมั่นใจว่าธุรกิจที่คุณทำมีรายได้ที่มั่นคง มีฐานลูกค้าที่แน่นอนแล้ว จึงค่อยๆ สลัดตัวเองออกมาจากงานประจำทีละนิด จนกระทั่งสามารถเข้ามาลุยธุรกิจแบบเต็มตัวได้

คิดว่าง่าย อะไรก็ได้

คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่า การทำธุรกิจส่วนตัว เป็นงานที่สบาย จะตื่นกี่โมงก็ได้ ไม่ต้องตอกบัตรเข้าทำงาน ไม่ต้องมีเจ้านายมาคอยกดดัน ซึ่งนั่นไม่เป็นความจริงเลย แม้ว่าการทำธุรกิจจะสามารถตัดเรื่องที่น่ารำคาญเหล่านั้นออกไปได้ แต่ก็มีเรื่องที่ต้องกังวลอื่นๆ เข้ามาแทนที่จนทำให้เราต้องปวดหัวกว่าเดิมซะอีก

ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างภายในกิจการของเรา จำเป็นต้องอยู่ในสายตาเราทุกเรื่อง ต้องรอบคอบ จะคลาดสายตาไม่ได้เลย โดยเฉพาะเรื่อง รายรับ-รายจ่าย  การรั่วไหลของวัตถุดิบ ประสิทธิภาพในการทำงาน การทำแบรนด์ การให้บริการลูกค้า (ที่จะต้องพร้อมตลอดเวลา)  การวิเคราะห์กลยุทธ์ และการตลาด เป็นต้น  

อยากมีหน้ามีตาในสังคม

อย่างที่ได้บอกไปในช่วงกล่าวนำว่า นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ย่อมเป็นผู้มีหน้ามีตา ได้รับการยอมรับในสังคม หลายคนจึงมีพาสชั่นเพียงว่า “อยากโก้” “อยากเท่” “อยากได้รับการยอมรับ” จึงกระโดดเข้ามาทำธุรกิจโดยไม่ศึกษาให้รอบคอบเสียก่อน

การมีพาสชั่นเพียงแค่ อยากได้รับการยอมรับ แล้วทำให้คุณผันตัวเข้ามาเป็นเจ้าของกิจการนั้นอาจไม่เพียงพอ เพราะกิจการที่คุณกำลังทำอยู่อาจไม่ใช่สิ่งที่คุณทำแล้วมีความสุข สนุกกับมันอย่างแท้จริง ซึ่งแน่นอนว่าการทำธุรกิจนั้นไม่ราบรื่น ไม่นานเมื่อคุณได้เจอปัญหา อุปสรรคต่างๆ ถาโถมเข้ามา พาสชั่นอันน้อยนิดนี้ อาจทำให้คุณท้อ และถอดใจได้ในที่สุด

ดังนั้น “Hard work” และ “Passion” จึงเป็นคุณสมบัติที่เหมาะสมกว่าในการจะทำธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ซึ่งมันจะเกิดขึ้นได้เมื่อคุณเกิดความรักกับธุรกิจที่คุณทำอย่างแท้จริง  

มี “รายได้” เป็นที่ตั้ง

นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกับว่า เคล็ดลับการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ควรเอา “รายได้” เป็นที่ตั้ง แต่ใช้ “คุณค่า” ของกิจการเราเป็นที่ตั้งต่างหากล่ะ

ก่อนที่คุณจะก้าวเข้ามาทำธุรกิจ คุณควรตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่ากิจการของคุณสามารถส่งมอบสิ่งดีๆ อะไรให้กับสังคมได้บ้าง มันสามารถช่วยแก้ปัญหา ตอบโจทย์ให้กับผู้คนในสังคมได้อย่างไรบ้าง?  

หากกิจการของคุณสามารถทำให้สังคมเห็นคุณค่าได้ มีอัตราค่าบริการ และสินค้าในราคาที่เป็นธรรม ทุกคนย่อมยินดีจ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการจากคุณ ตรงกันข้าม หากคุณใช้ “รายได้” เป็นที่ตั้ง หวังแต่ได้กำไรมากๆ มอบสินค้าและบริการที่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค กิจการของคุณย่อมอยู่ได้ไม่นาน

เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง

ปิดท้ายกันที่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนส่วนมากที่เริ่มต้นทำธุรกิจแล้วล้มเหลวก็คือ ไม่ยอมศึกษาตลาด “เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง” ชอบอะไรก็ทำเลย  มันก็จริงอยู่ที่หลายคนมีสินค้าหรือบริการในฝันที่อยากทำ เพราะตัวเองชื่นชอบและอินกับมันมาก แต่ก็ใช่ว่าความชอบส่วนตัวจะสามารถกำหนดความสำเร็จให้กับกิจการได้เสมอไป 

“รักอย่างเดียวคงยังไม่พอ แต่มันต้องตอบโจทย์ความต้องการของสังคมด้วย” ดังนั้นในความเป็นจริง ก่อนที่คุณจะเริ่มสร้างสินค้าหรือบริการอะไรสักอย่างขึ้นมาต้องถามตัวเองก่อนว่า “ลูกค้าของเราคือใคร?” และ “สินค้าเราจะไปแก้ pain point และตอบโจทย์ความต้องการพวกเขาได้อย่างไร?” แล้วจึงค่อยเริ่มทำ และหากมันเป็นสิ่งที่เรารักด้วย นั่นแหละ Perfect เลย

และเพื่อความมั่นใจ ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ คุณควรสำรวจความต้องการในตลาดก่อน ซึ่งทำได้หลายอย่าง เช่น หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต, ทำการสำรวจ สัมภาษณ์ หรือเข้าไปคุยกับกลุ่มเป้าหมายเราโดยตรง จากนั้นก็นำข้อมูลที่ได้มากออกแบบสินค้าที่มีศักยภาพที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ดีกว่าการทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าโดยยึดความต้องการของตัวเราเพียงคนเดียวเป็นหลัก

และนี่ก็คือ 5 ความผิดพลาดที่เราอยากจะมาบอกให้เพื่อนๆ ที่กำลังสนใจอยากเริ่มต้นทำธุรกิจให้ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน เมื่อได้ทราบแล้วก็อย่าลืมนำไปสำรวจตัวเองให้รอบคอบว่า Passion ของคุณในตอนนี้มีมากสำหรับการเริ่มต้นทำธุรกิจแล้วรึยัง หากยัง ก็อย่าเพิ่งรีบร้อน เพราะเดี๋ยวจะพลาดพลั้งได้

Sujate Wanchat

What one man calls God, another calls the laws of physics.

วิศวกร นักท่องเที่ยว บล็อกเกอร์ นักเขียนบทความ ชอบติดตามโลกเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าล้ำสมัย เรื่องราวการท่องเที่ยวผจญภัย มนุษย์ต่างดาว และสาวๆ เซ็กซี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save