5 แข้งยุโรปที่ดีที่สุดตลอดกาล - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
5 แข้งยุโรปที่ดีที่สุดตลอดกาล

ในวงการฟุตบอลต่างประเทศตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น มีผู้เล่นระดับโลกมากมายหลายคนที่ได้โชว์ฝีเท้าให้แฟนบอลได้เห็นในสนาม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปยุโรปที่มีนักเตะระดับตำนานของสโมสร และชาติบ้านเกิดของพวกเขา

         สุดยอดนักฟุตบอลทั้ง 5 คนต่อไปนี้ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า พวกเขาเป็นแข้งที่ดีที่สุดในวงการลูกหนังยุโรป ซึ่งดูจากสถิติ และความสำเร็จต่างๆคงไม่มีใครกล้าปฏิเสธความยอดเยี่ยมของบรรดาผู้เล่นเหล่านี้อย่างแน่นอน

5. เฟเรนซ์ ปุสกัส

(Source – sportskeeda)

        สุดยอดตำนานดาวยิงทีมชาติฮังการีผู้ลงรับใช้พลพรรค “แม็กยาร์ส์” ไปมากถึง 84 เกม และพกสถิติน่าทึ่งด้วยการระเบิดสกอร์ไปมากถึง 85 ประตู พร้อมกับพาบ้านเกิดคว้าเหรียญทองโอลิมปิกปี 1952, แชมป์ฟุตบอลยูโรปี 1953 พ่วงตำแหน่งรองแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1954

         ชณะเดียวกันผลงานในระดับสโมสรกับ เรอัล มาดริด นั้น ปุสกัส ยังสร้างความยอดเยี่ยมหลังพาพลพรรค “ราชันชุดขาว” กวาดแชมป์ลาลีกา 5 สมัยติดต่อกันในระหว่างปี 1960-1965 และคว้าแชมป์ยูเปี้ยนคัพ อีก 3 สมัยในปี 1959, 1960 และ 1966 รวมถึงซัดประตูไป 156 ประตู จาก 180 เกม ตลอด 8 ปีในถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาบิว

         ยอดหัวหอกชาวฮังกาเรียนยังคว้ารางวัลบัลลงก์ดอร์ได้ 1 สมัยในปี 1960 โดยหลังจากแขวนสตั๊ดในปี 1966 นั้น ปุสกัส ก็เข้าสู่เส้นทางกุนซือ และได้คุมหลายสโมสรอาทิ อลาเลส, พานาธิไนกอส, เรอัล มูร์เซีย รวมถึงทีมชาติฮังการีอีกด้วย

4. ยูเซบิโอ้

(Source – Guardian)

        ยอดดาวเตะเจ้าของฉายา “เสือดำแห่งโมซัมบิก” และหนึ่งในตำนานของ เบนฟิก้า ยูเซบิโอ้ สร้างปรากฏการณ์ด้วยการพาพลพรรค “เหยี่ยวลิสบอน” กวาดแชมป์ลีกสูงสุดแดนฝอยทองถึง 11 สมัย พร้อมกับแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 1 สมัย ตลอด 15 ปีกับสโมสรในช่วงปี 1960-1975

         ขณะเดียวกัน ยูเซบิโอ้ ยังสร้างสถิติสุดน่าทึ่งด้วยการระเบิดตาต่ายให้กับ เบนฟิก้า ไปมากถึง 473 ประตู จาก 440 เกมรวมทุกรายการ นอกจากนี้ ผลงานกับทีมชาติโปรตุเกสของเจ้าตัวนั้น ก็ยังยอดเยี่ยมหลังพาทีมคว้าอันดับ 3 ในศึกฟุตบอลโลกปี 1966 และซัดให้ “ฝอยทอง” ไป 41 ประตู จาก 64 เกม

         ความสุดยอดของ ยูเซบิโอ้ ในช่วงปี 60 นั้น ส่งผลให้เขาคว้ารางวัลบัลลงก์ดอร์ไปครองได้สำเร็จในปี 1965

3. ซีเนดีน ซีดาน

(Source – cloudfront)

        หนึ่งในตำนานของวงการลูกหนังยุโรปที่ยังมีลมหายใจ และหนึ่งในสุดยอดนักเตะแห่งยุค 90 ซีดาน เริ่มเล่นฟุตบอลกับ กานส์ ในปี 1989 ก่อนจะย้ายไป บอร์กโดซ์ ในปี 1992 จากนั้น เขาก็ย้ายไปสร้างชื่อกับ ยูเวสนตุส ในระหว่างปี 1996-2001 ด้วยการพา “เจ้าม้าลาย” คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 2 สมัย

         หลังทำผลงานกับ ยูเวนตุส ได้อย่างยอดเยี่ยม จอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส ก็ถูก เรอัล มาดริด คว้าตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติโลกในปี 2001 ในราคา 46.6 ล้านปอนด์ จากนั้น ซีดาน ก็พา “ราชันชุดขาว” คว้าแชมป์ลาลีกา และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างละ 1 สมัย ตลอด 5 ปีกับทีม

นอกจากผลงานระดับสโมสรจะยอดเยี่ยมแล้ว ซีดาน ยังพาขุนพล “ตราไก่” คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1998 มาแล้ว พร้อมกับคว้ารางวัลบัลลงก์ดอร์ในปี 1997 ด้วย ซึ่งหลังจากแขวนสตั๊ดเขาก็มีโอกาสกลับมาคุม มาดริด พร้อมกับสร้างปรากฏการณ์พา “ราชันชุดขาว” คว้าแชมป์ลีก 2 สมัย และแชมป์ยุโรป 3 สมัยติดต่อกัน ก่อนจะถูกปลดไปเมื่อปี 2021

2. โยฮัน ครัฟฟ์

(Source – 365dm)

คงไม่ใช่เรื่องเกินเลยที่จะบอกว่า ครัฟฟ์ นักฟุตบอลที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลฮอลแลนด์ และในช่วงปี 70 ที่เขากำลังค้าแข้งให้กับ 2 สโมสรอย่าง อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และ บาร์เซโลน่า นั้น เจ้าตัวเป็นผู้ครองโลกลูกหนังอย่างแท้จริง   

ตำกองกลางของพลพรรค “กังหันสีส้ม” พาต้นสังกัดอย่าง อาแจ็กซ์ และ บาร์เซโลน่า กวาดแชมป์ฟุตบอลในประเทศ และแชมป์ยุโรปอย่างนับไม่ถ้วน ซึ่งหลังประสบความสำเร็จมากมาย ครัฟฟ์ ก็ตัดสินใจหวนกลับแขวนสตั๊ดในบ้านเกิดกับ เฟเยนูร์ด ในปี 1984

         หลังอำลาสนาม มิดฟิลด์เจ้าของฉายา “นักเตะเทวดา” ก็ได้เข้าสู่เส้นทางอาชีพเทรนเนอร์ และเขาก็เป็นคนสร้างจุดเริ่มต้นทำให้ บาร์เซโลน่า ยิ่งใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้

1. คริสเตียโน่ โรนัลโด้

(Source – 365dm)

การตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของ โรนัลโด้ เกิดขึ้นเมื่อปี 2003 หลังย้ายจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในบ้านเกิดมาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ ซึ่งมันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดของโลก ณ ยุคปัจจุบัน

         ภายใต้การทำงานร่วมกับยอดกุนซืออย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น ดาวเตะโปรตุกีส พัฒนาตัวเองอย่างมาก เขามุ่งมั่นกับการเล่นฟุตบอล เทคนิคดี หาช่วงว่างเก่ง และยังมีการจบสกอร์ที่คมกริบจนกลายเป็นต้นแบบของนักเตะยุคนี้หลายต่อหลายคน

         โรนัลโด้ ประสบความสำเร็จในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่างมาก ก่อนจะย้ายไปกอบโกยถ้วยแชมป์มากมายกับ เรอัล มาดริด ในระหว่างปี 2009-2018 รวมถึงยังพาบ้านเกิด โปรตุเกส คว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2016 มาแล้วด้วย

         ปัจจุบันในวัย 36 ปี โรนัลโด้ ซึ่งเป็นเจ้าวของรางวัลบัลลงก์ดอร์ 5 สมัย ยังคงเล่นฟุตบอลในระดับสูงกับ ยูเวนตุส และไม่มีทีท่าว่าจะอำลาวงการแต่อย่างใด

ภาพประกอบ : sportskeeda.com, theguardian.com, football365.com, skysports.com

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save