ในปีนี้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมในด้านในแฟชั่นมากขึ้นและแน่นอนว่าเรื่องทรงผมก็เป็นกระแสนิยมเช่นกันซึ่งบังผมทรงผมรับแรงบัลลังใจมาจากคนดังดารานายแบบและที่เห็น ได้เห็นได้เป็นพวกนักออกกำลังกายที่เป็นผู้นำเทรนด์ด้านทรงผมและง่ายสำหรับเทรนด์ของชายหนุ่ม แต่การเคลื่อนไหวที่ยาวจะให้ออกมาดูดีเหมือนสมัยนั้นอาจเป็นเรื่องยากก็รูปทรงต่างๆ บน ใบหน้าคนเรามันต่างกันจะให้เหมือนกันได้ยังไง แต่ไม่ผิดที่เราจะเอาทรงผมคนดังเหล่านี้มาแบบ แต่ให้ออกมาหล่อได้แบบสไตล์ที่เป็นเรา

เรามาดูรูปแบบทรงผมแต่ละรูปลักษณ์กันบ้างดีกว่าซึ่งวันนี้เรามีมาให้ถึง 13 แฟชั่นจากเหล่าคนดังระดับสูงชื่อพิเศษที่มาพร้อมคำแนะนำในการตัดและสไตล์การจัดแต่งทรงผมและเพื่อการหวี ที่ถูกต้องกับช่างตัดผมของคุณควรมีการรวมรูปลักษณ์ที่น่าสนใจเหล่านี้ไม่ดูกันว่ามีทรงอะไรกันบ้าง

แบบทรงผม

1. กลับไปที่บล็อก

ได้รับแรงบีบใจมาจากนักแสดงควินซีบราวน์เรื่อง “Back on the block” เหมาะสำหรับผู้ชายที่มีรูปทรงมากที่สุดเพียงแค่ตัดด้านข้างลงไปน้อยความยาวของนิ้ว (ปกติประมาณ 1 นิ้ว แต่คุณ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ) ด้านบนของนโยบายควรทิ้งไว้นานกว่าด้านข้าง

สไตล์การเซ็ทผม : จริงๆทรงนี้ เวลาเซ็ทไม่ควรให้ผมแห้งจนเกินไป เพราะความชื้นจะช่วยล็อคลอนเส้นผมของคุณให้ดูมีวอลลุ่มได้ดีกว่า การใช้ไดร์เป่าแห้ง เพราะจะทำให้ผมของคุณแตกลอน และดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง และเป็นข้อได้เปรียบถ้าคุณเป็นคนผมบาง การตัดผมทรงนี้ และดัดลอนเบาๆด้านบน จะช่วยให้คุณดูผมหนาขึ้นได้

2. First Class

วิธีการตัด : แรงบันดาลใจจากนักบาสเกตบอล Gordon Hayward (กอร์ดอนเฮย์เวิร์ด) จาก Utah Jazz “first class” กับการออกแบบให้ใช้กรรไกรตัดรอบด้านบน สำหรับส่วนที่เห็นได้ชัดมากขึ้น คือการขอให้ช่างตัดผมของคุณโกนแนวผมด้านข้างออกเล็กน้อย ให้เห็นชัดในส่วนรอยแยก เพื่อแบ่งความชัดเจนของเเนวเส้นผม (ตามรูป) การตัดลักษณะนี้เป็นที่นิยมและทันสมัยกว่า

สไตล์การเซ็ทผม : ใช้น้ำมันมะกอกชนิดพิเศษจาก LayRite Superhold ขณะที่เส้นผมยังคงชื้นเล็กน้อย ใช้หวีฟันที่ดี และหวีออกจากส่วนบริเวณรอยแยกของเส้นผมเล็กน้อยไปด้านหลัง

เครา : เพิ่มความโดดเด่นของทรงผมนี้ ด้วยการควบคู่ไปกับเครางามๆ ซึ่งความยาวของเคราอาจแตกต่างกันไป จะสั้น จะยาวก็เอาที่ถนัด และเท่าที่ดีไม่มีขีดจำกัด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำให้เคราสะอาด และตัดแต่งอยู่เสมอ เพื่อให้คุณสามารถที่จะกินได้โดยไม่ต้องมีเคราเกะกะด้านข้าง

3. The Perfectly Separated

วิธีการตัด : “Perfectly separated” เป็นทรงที่มีการแบ่งแยกความสั้นและขาวของผมด้านบนและด้านล่างอย่างชัดเจน  ซึ่งด้านบนของผมนั้นจะปล่อยให้ความยาวตั้งแต่ระดับปานกลางไม่ตัดสั้นมาก ไล่ไปจนถึงด้านหลังของศรีษะ ในส่วนของด้านข้างนั้นก็จะไถให้สั้นทั้งสองด้าน สามารถจัดแต่งได้หลายทรงตามต้องการ

สไตล์การเซ็ทผม : เป่าผมแห้งสนิทในทิศทางของทรงผมของคุณ จากนั้นใช้ Pacinos Matte ในฝ่ามือของคุณเพียงเล็กน้อยแล้วนำไปปาดกับเส้นผมที่ด้านบน คุณสามารถใช้นิ้วมือสางเส้นผมเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น หรือใช้หวีเพื่อความเรียบที่เนี๊ยบขึ้น สำหรับออกงานสังคมก็ได้เช่นกัน

4. Pay Back

วิธีการตัด : แรงบันดาลใจจากนักบาสเกตบอล Klay Thompson จาก Golden State Warriors “Pay back” ไม่จำเป็นต้องสั้นมาก คุณสามารถเลือกความแตกต่างจาก 4 ถึง 2 ระดับและไล่ระดับความยาวเรื่อยลงไปถึงด้านข้าง และด้านหลังเพียงเพื่อให้มันป๊อปขึ้น สำหรับรูปลักษณ์ที่คมชัดของคุณ สามารถขอให้ช่างตัดผมออกแบบได้ตามลักษณะของเส้นผมของคุณ (lineup)

สไตล์การเซ็ทผม : ตัดทรงนี้ช่วยให้การบำรุงรักษาทรงผมที่ง่าย ซึ่งเป็นที่ดีสำหรับผู้ชายที่ต้องการเพียงแค่ลุกขึ้นจากที่นอนและมีเวลาจำกัดในตอนเช้า ในขณะที่กระบวนการจัดแต่งทรงผมมีตัวเลือกในการใช้น้ำมันใส่ผมที่มีไขมันน้อย (เช่นแบ็กซ์เตอร์ : Baxter of California’s soft water pomade) และใช้มือของคุณลูบจัดแต่งทรง หรือถ้าระดับความยาวผมมากหน่อย ใช้แปรงให้ผมตรง (ตามทิศทางเดียวกับเส้นผมของคุณ) ช่วยให้ผมอยู่ทรงได้ดีตลอดทั้งวัน

5. Pomp Up

วิธีการตัด : แรงบันดาลใจจากฝั่งอังกฤษแบบ David Gandy นักแสดงสุดหล่อ มาดเท่ กับ Pomp up หรือที่เรียกว่า pompadour คือการที่กวาดผมขึ้นจากใบหน้า และสูงกว่าหน้าผาก บางครั้งการเกล้าผมรอบด้าน อาจเป็นวิธีที่ล้าสมัย แต่ในปัจจุบันผู้คนจำนวนมากมีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่าเส้นผมที่ด้านหน้ามีความยาวมากกว่าด้านหลังศีรษะมาก

สไตล์การเซ็ทผม : สำหรับพัปเพอร์เมอร์คลาสสิกให้เป่าผมเพื่อยก และงอผมด้านหน้า เพื่อให้ได้ทรง จากนั้นใช้ Ruger Matte เซ็ทให้ได้รูปลักษณ์ที่ต้องการ

เครา : คุณสามารถเก็บเคราของคุณสำหรับรูปลักษณ์นี้ได้ และอาจสั้นหรือยาว ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดถ้าคุณมีเครา คุณอาจใช้น้ำมัน Ruger Beard Oil เพื่อให้เคราของคุณแข็งแรงและชุ่มชื่น

6. Crew Love

วิธีการตัด : เป็นการไล่ระดับทำให้ผมด้านต่างๆ ให้สั้นหรือจางหายไปเรื่อย ๆ ซึ่งด้านบนต้องไม่ยาวมาก และเพื่อให้รูปลักษณ์ที่ดี ช่างตัดผม / สไตลิสต้องใช้กรรไกร เพื่อแสดงความคมชัดของการตัดทรงนี้ เคล็ดลับในการตัดนี้ คือการจัดแต่งทรงผมให้เหมาะกับคุณ เช่นเดียวกับที่คุณไม่ได้พยายามอย่างหนักเพื่อแสดงความสมบูรณ์แบบที่คิดว่าทอม เบรดี้ (Tom Brady)

สไตล์การเซ็ทผม : เป่าผมให้แห้งสนิท เพื่อให้ได้ผลเต็มที่ ต้องใช้สเปรย์ เช่นสเปรย์เกลือ Schwarzkopf
ใช้นิ้วมือของคุณสางๆ ลูบๆ ไปรอบๆกับเส้นผมเพื่อให้ได้รูปลักษณ์ที่ไม่เรียบร้อยจนเกินไป

7. Sky High

วิธีการตัด : แรงบันดาลใจจากนักบาสเกตบอล Iman Shumpert จาก the Cleveland Cavaliers ซึ่ง “Sky high” เป็นที่รู้จักกันว่าด้านบนแบนสูง นี่เป็นยุคที่ได้รับความนิยมในยุค 50 แต่กลับมีแนวโน้มมากขึ้น ด้านบนของเส้นผมรูปลักษณ์นี้ดูดี เมื่อเส้นผมถูกตกแต่งไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้รูปลักษณ์สมบูรณ์ขึ้น

สไตล์การเซ็ทผม : ใช้สเปรย์ฉีดผมเช่นน้ำมัน Babyliss Pro Argan เพื่อเก็บเส้นผมไว้ด้วยกัน และหวีด้านบน เพื่อให้รูปร่างของมันดูดีขึ้น สำหรับรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันคุณสามารถถูเบา ๆ ด้วยฟองน้ำในรูปทรงกลมเล็กน้อย เพื่อทำให้ทรงหยิกโดดเด่น คุณยังสามารถใช้ Babyliss Pro Argan Oil Spray Treatment เพื่อความเงางามได้ทันที

8. Revenge

วิธีการตัด : ทรงนี้ มีความคล้าย กับทรง Pay Back แต่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Drake ซึ่ง “The revenge” โดยทั่วไปคือการตัดฉวัดเฉวียนที่สามารถทำได้โดยการใช้เครื่อง และตัดทั้งหมดในระดับเดียวกันทุกตำแหน่ง ตัวเลือกอื่น ๆ คือการที่ด้านข้างและด้านหลังต่ำกว่าด้านบน ผมของคุณสามารถปล่อยให้มันเป็นธรรมชาติในด้านหน้า และเรียวเพียงด้านหลัง เพื่อให้มันมองเป็นธรรมชาติที่สุด

อีกวิธีหนึ่งก็คือการไล่ระดับ และให้ตัดผมเป็นลวดลายต่างๆ ซึ่งช่างตัดผมของ Drake ยังทำให้เขามีพท้นที่บางส่วน ซึ่งเป็นการออกแบบลายเส้นสายเล็ก ๆ ที่มุมหนึ่งด้านหนึ่งของศีรษะ คุณสามารถขอช่างตัดผมของคุณเพื่อให้ทำลวดลายต่างๆ ตามที่คุณต้องการ

สไตล์การเซ็ทผม : การช่วยให้สามารถบำรุงรักษาได้ง่าย ในขณะที่คุณยังคงได้รับการตัดผมของคุณทุกสองถึงสามสัปดาห์ นอกจากนี้คุณยังมีตัวเลือกในการไว้เคราของคุณเรียงรายขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือคุณสามารถออกแบบตามธรรมชาติสำหรับรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน เพื่อความเป็นตัวคุณเอง

9. Goodfellas

วิธีการตัด : แรงบันดาลใจจาก Robert De Niro (โรเบิร์ต เดอ นีโร) ในฐานะ Jimmy Conway (จิมมี่ คอนเวย์ )ใน Goodfellas นี่เป็นคลาสสิกของนักเลงชาวอิตาลีที่มีความลื่นไหลย้อนยุค “การตัด” สำหรับผมยาว คือให้มันสูงอยู่ด้านหน้าเหมือนความเอิกเกริก และ slicked ตลอดทางไปด้านหลัง และด้านข้าง เพื่อให้มีความทันสมัยมากขึ้นให้ช่างตัดผมของคุณปัดบางส่วนของผมลงมาเล็กน้อยตามภาพ

สไตล์การเซ็ทผม : เป่าผมแห้งขึ้น ไปด้านหลังในตำแหน่งที่ต่ำ โดยใช้สเปรย์ Layrite เพื่อพักตัว จากนั้นใช้น้ำมันที่แข็งแกร่งเพื่อเซ็ทผมให้อยู่ทรง อย่างเช่น Layrite Superhold ทาลงบนเส้นผมจากด้านหน้าไปด้านหลัง
ใช้หวีเพื่อยก และกวาดผมไปข้างหลัง

10. Leftover

วิธีการตัด : แรงบันดาลใจจาก Justin Bieber ส่วนที่เหลือเป็นรูปลักษณ์ที่ดูเป็นชั้น ๆ ยาว ๆ ที่ด้านหน้า ด้านข้างตัดสั้นลง แต่ไม่ต้องสั้นมากขนาด Undercut หรือเหมือนกับการตัดอื่น ๆ กุญแจสำคัญของทรงนี้ คือความยาวและเนื้อสัมผัสช่วยให้เส้นผมไหลไปด้านข้าง ทำให้ดูมีชีวิตชีวา และทรงผมนี้ยังเหมาะสำหรับการทำสี เช่นสีบลอนด์ เพื่อให้มีความเป็นป๊อปสตาร์เพิ่มขึ้น

วิธีการสไตล์ : ใช้จำนวนเล็กน้อยของน้ำมันใส่ผม เช่น ADHD แห้ง และปริมาณบางๆ กวาดผมไปข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งสามารถนั่งได้โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ

11. Bruv

วิธีการตัด : การตัดนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับไล่ระดับความยาวให้ค่อยๆจางหายลงจากด้านบนศรีษะ การปล่อยที่ด้านบนให้รูปทรงเพรียวบาง ทรงนี่เราตัดด้านหน้าเพื่อให้ทุกอย่างสแควร์ ในขณะที่เล็มด้านหน้าเป็นหน้าม้า เป็นอีกทรงที่วัยรุ่นฮิตหนักมาก

สไตล์การเซ็ทผม : เป่าผมให้แห้ง จากนั้นใช้ Ruger Sea Salt Mist และ Ruger Matte บางส่วนเพื่อช่วยให้ผมของคุณอยู่ในรูปทรง จากนั้นคุณจะมีตัวเลือกในการสางด้วยมือ หรือหวีเพื่อให้มีพื้นที่ที่ดีระหว่างนี้

12. Messi

วิธีการตัด : แรงบันดาลใจจากดาวฟุตบอล Lionel Messi รูปแบบนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับพื้นผิวและผลิตภัณฑ์ เก็บด้านบนยาว และด้านล่างที่ตัดสั้นเล็กน้อย เพียงพอเพื่อให้การเคลื่อนไหว

สไตล์การเซ็ทผม : ใช้ Men Thickening Tonic เพื่อให้เส้นผมของคุณบางส่วน และจากนั้นบางคนใช้ Sculpting Pomade ขึ้นอยู่กับสไตล์ผมของคุณ (ผมขอแนะนำผลิตภัณฑ์เคลือบผิวแห้ง / ด้าน) เป่าผมแห้งให้ตั้งขึ้น ขณะที่ใช้นิ้วเพื่อแยกเส้นผมไม่ให้จับตัวเป็นก้อน

13. Preppy

วิธีการตัด : ทรงผมสั้น แต่แอบเสริมความเฉียบในตัว และยังง่ายในการจัดการ ไม่ต้องใช้ทักษะมากมาย นี่เป็นสุภาพบุรุษที่ดีระดับกลาง ที่ดูเป็นธรรมชาติ และเหมาะสำหรับสัปดาห์ของการทำงาน

สไตล์การเซ็ทผม : ทำงานในปริมาณเล็กน้อยของน้ำมันที่ละลายน้ำได้เช่น Baxter Clay Powade ลงในเส้นผมที่แห้ง ใช้นิ้วมือปัดไปด้านหน้า และด้านหลังเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ

วิธีถามหาเทรนด์ใหม่

แต่สิ่งแรกก่อนที่คุณ และช่างตัดผมของคุณ จะตัดสินว่าแนวโน้มใดเหมาะสมสำหรับคุณ คุณจำเป็นต้องรู้วิธีเพื่อมองหาสิ่งที่คุณต้องการ จากประสบการณ์ของตัวเอง และการสื่อสารกับช่างตัดผมคนอื่น ๆ โดยส่วนใหญ่แล้วพบว่าลูกค้ามักถามคำถามเดียวกันเมื่อนั่งลงที่เก้าอี้ นั่นก็คือ รูปแบบทรงผมที่เหมาะกับตนเอง และเทรนด์แฟชั่นที่ได้รับความนิยมในขณะนี้?

ช่างทำผมมืออาชีพส่วนใหญ่ เมื่อพิจารณารูปทรงใหม่สำหรับลูกค้า สิ่งสำคัญต่อมาคือต้องคำนึงถึงบางสิ่งต่อไปนี้:

• ลูกค้ารู้สึกมั่นใจกับรูปลักษณ์ใหม่
• สไตล์จะต้องปรับให้เหมาะกับใบหน้าและศีรษะของลูกค้า
• ลูกค้าต้องมีเนื้อผมที่เหมาะสมสำหรับการตัดที่ต้องการ
• ลูกค้าต้องตระหนักถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการตัด รวมไปถึงการจัดแต่งทรงผมที่เหมาะกับเส้นผมของลูฏค้าแต่ละคน

เมื่อคุณพร้อมที่จะเปลี่ยนทรงผมคุณ จำเป็นต้องอธิบายรูปทรงที่คุณต้องการ ให้ช่างตัดผมของคุณ ก่อนที่ช่างจะหยิบอุปกรณ์ตัดผมเสมอ คือคุยรายละเอียดกันให้แน่ชัดก่อน อธิบายรายละเอียดในคำอธิบายของคุณ เพื่อให้คุณและช่างตัดผมสามารถสื่อสารได้ว่ารูปแบบใหม่นี้ สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับคุณได้อย่างไร

วิธีที่ดีในการอธิบายสิ่งที่คุณต้องการได้ดีที่สุดก็คือ การแสดงภาพประกอบ หรือทรงผมที่คุณพบบนเว็บ แต่อย่าลืมว่าทุกคนมีลักษณะเส้นผม และรูปร่างศีรษะ หรือใบหน้า ที่แตกต่างกัน ขอโทษที่ได้บอกคุณเรื่องนี้ว่าคุณไม่ใช่ David Beckham … ดังนั้นโปรดหยุดแสดงภาพของพวกเขา และหยุดคาดหวังว่าเมื่อคุณเดินออกจากเก้าอี้ จะรู้สึกราวกับว่าคุณเป็น David Beckham ซึ่งมันไม่ใช่!! เอาแบบที่หล่อแบบเป็นสไตล์ตัวเองแหละมันดีที่สุด