“เฮ้อ…วาเลนไทน์อีกแล้วหรอวะ”  เสียงคนโสดแอบบ่น ในขณะที่คู่รักป็อปปี้เลิฟคงจะกระชุ่มกระชวยเตรียมแผนเซอร์ไพรส์กัน แต่สำหรับคู่รักที่คบหาดูใจกันมานาน พ่อบ้านใจกล้าอย่างพวกเราอาจจะเริ่มเบื่อกับเทศกาลฟรุ้งฟริ้งนี่กันเต็มทน “ปีนี้จะซื้ออะไรดีวะ” “ปีที่แล้วก็ให้อันนี้ไปแล้วนี่หว่า” หรือในบางคู่ วันวาเลนไทน์มันอาจจะกลายเป็นวันธรรมดาไปแล้ว จนบางคนเริ่มเอะใจว่า จริง ๆ แล้ว ที่มันรู้สึกว่า วาเลนไทน์น่าเบื่อ ธรรมดาไม่เห็นพิเศษเลย มันเป็นเพราะรักมันจืดลง หรือเพราะอะไรกันแน่ แล้วจะทำอย่างไรดี มาหาคำตอบกัน

• ก็รักอยู่ทุกวัน ทำไมต้องแสดงออกวันนี้ •

“ที่รัก…ปีนี้ไม่ว่าง ติดงาน” “ไม่สบายป่วยกระทันหัน” พูดออกไปมีหวังหัวจะหลุดออกจากบ่า ต้องเตรียมเครียล์งานจัดพรีวาเลนไทน์มั่ง ย้อนหลังมั่ง ทำไมนะ ทำไมมันต้องอะไรขนาดนั้นนะ ก็รักเขาอยู่ทุกวัน พอวันวาเลนไทน์วนมาทีไรจะต้องเครียดทุกที จนเริ่มจะเบื่อ จริงๆแล้ว เราไม่ได้รักเขาน้อยลงหรอก แต่มันอาจจะมาจากสาเหตุที่ว่า มนุษย์โลกอย่างพวกเราถูกครอบงำด้วยวัฒนธรรมนี้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 แล้วก็ได้

เจ้าวันวาเลนไทน์ได้กลายร่างตัวเองจากวันทางศาสนาคริสต์เป็นวัฒนธรรมสากลที่คนทั้งโลกเขาเฉลิมฉลองกัน มันทำให้วันวาเลนไทน์กลายเป็นวัฒนธรรมที่ดูเคร่งครัดสำหรับคนมีคู่ไปแล้ว ลองนึกถึงว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมาคนทั่วโลกออกมาแสดงออกทางความรักผ่านวันสำคัญวันนี้ แล้วถ้าเกิดคุณแค่ไม่ได้ออกมาแสดง (ให้มากกว่าเดิม) ให้โลกรู้วันนั้นพอดี (ทั้งที่คุณก็ทำอยู่ทุกวัน) คงมีเรื่องแน่นอน ม่ว่าจะคนรักหรอคนรอบข้างก็อาจจะต้องสงสัยและคอยจับผิดคุณเป็นธรรมดา เพราะลึก ๆ แล้วมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ความแตกต่างเป็นอีกหนึ่งที่ทำให้ถูกกดดันจากสังคมได้ง่าย

ถึงแม้วาเลนไทน์จะมาจากฝรั่งชาติตะวันตก ในปัจจุบันวันวาเลนไทน์ก็สำคัญทางความรู้สึกมากหรือเทียบเท่ากับวันสงกรานต์หรือปีใหม่ของคนไทยไม่แพ้กัน แต่ทำไมนะ? ทั้ง ๆ ที่วันนี้มันก็สำคัญแต่มันดันไม่มีวันหยุดให้ซะอย่างนั้น จะหยุดงาน ลางานก็ไม่ได้ จะเอาเวลาไหนไปเตรียมตัวซื้อของทำเซอร์ไพรส์ (วันเกิดตัวเองยังแทบจะลืม พูดไปแล้วก็เศร้า) ไหนจะเป็นเรื่องของความรู้สึกที่ต้องทำนะวันนี้! ต้องซื้อนะวันนี้! ต้องเซอร์ไพรส์คนรักนะว้อยวันนี้! (เกรี้ยวกราดทำไม?) นั้น มันก็ให้อึดอัดอยู่ไม่น้อยจนอาจจะทำให้เริ่มเบื่อวันนี้! การแบกรับความรู้สึกแบบนี้ในทุก ๆ ปี จึงอาจจะทำให้คนส่วนใหญ่เริ่มเบื่อวันวาเลนไทน์มากขึ้น ไม่ใช่ว่าไม่รักกันอย่าไปเหมารวม แนะนำให้พูดคุยกันอย่างเปิดใจ รับฟังซึ่งกันและกัน และแสดงความรักต่อกันอย่างสม่ำเสมอก็สามารถช่วยได้

• ดอกไม้อีกแล้ว น่าเบื่อจัง •

นอกจากช่วงเวลาที่จำกัดเพราะฉลองแค่วันที่ 14 กุมภาฯวันเดียว ของที่คู่รักมักให้กัน ก็ทำให้วาเลนไทน์เป็นวันน่าเบื่อได้ ลองนึกดูเล่น ๆ ว่าวันวาเลนไทน์คนส่วนใหญ่ให้อะไรกัน “ดอกไม้” ใช่เจ้าดอกไม้เหี่ยวง่ายช้ำง่ายที่คนให้ก็เริ่มเบื่อ คนรับก็เริ่มเบื่อ ไม่ต้องแปลกใจไปถ้าจะรู้สึกเบื่อกับอะไรแบบนั้น มันไม่ได้เป็นเพราะกำลังหมดรักกันหรอกนะ

จากงานผลสำรวจในอเมริกาพบว่า กว่า 80% ของคู่รักวางแผนเพื่อฉลองวาเลนไทน์ และในจำนวนนั้นมากกว่า 50%  มักจะซื้อดอกไม้เหมือนเดิมทุกปี และไม่เพียงแค่ดอกไม้  คู่รักเหล่านี้ยังทำกิจกรรมเดิม ๆ เช่น จองโต๊ะไปกินอาหารที่ร้านเดิม ไปเดตกันสถานที่เดิม ๆ การทำกิจกรรมเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกปี เรื่องเหล่านี้ทำให้คู่รักส่วนหนึ่งออกมายอมรับว่า วาเลนไทน์นั้นเป็นวันที่น่าเบื่อ

และหากลองไปถามฝั่งสาว ๆ ดูนั้น ผลสำรวจของงานวิจัยได้บอกว่า สิ่งที่พวกเธอคิดเกี่ยวกับ ช่อดอกไม้ ช็อคโกแลต การ์ดคำพูดแสนหวาน หรือ ของขวัญวาเลนไทน์สุดเซอร์ไพรส์ที่หนุ่ม ๆ เลือกมาให้ นั่นก็คือ ส่วนใหญ่มักดีใจที่ได้รับของเหล่านั้น เพราะได้เอาไปถ่ายรูปอวดคนอื่น ๆ ลงโซเชียล แต่สิ่งเหล่านั้นมันเป็นความสุขระยะสั้น ไม่นานดอกไม้ก็เหี่ยว ช็อกโกแลตกินไปก็อ้วน การ์ดก็ไม่รู้จะไปเก็บไว้ไหน ส่วนเครื่องประดับ สำหรับสาว ๆ แต่ละคนนั้นก็มีสไตล์ไม่เหมือนกันอีก มีไม่น้อยเลยที่เลือกมาแล้วไม่ถูกใจผู้รับ แต่ต้องเก็บอาการเอาไว้เพราะกลัวคนรักจะเสียน้ำใจ ซึ่งพาลทำให้บรรยากาศแห่งความรักกร่อยลงไปอย่างรวดเร็ว

สำหรับปัญหานี้เราแนะนำให้เปลี่ยนจากของเซอร์ไพรส์แบบเดิม เป็นอะไรที่จะทำให้เธอสุขใจไปได้นาน ๆ เช่น การพาเธอไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่ ๆ ซื้อตั๋วคอนเสิร์ตดูด้วยกัน จองทริปไปเที่ยวที่ ๆ ยังไม่เคยไป ซื้อคอร์สทำอาหาร/ทำขนม คอร์สทำสปานวดหน้า หรือคอร์สเล่นโยคะ/ไปออกกำลังกายด้วยกัน เป็นประโยชน์แถมได้ความสุขในระยะยาวอีกด้วย

• จ่ายอีกแล้ว จ่าย ×2 •

เบื่อๆๆๆ วันว่างไม่ตรงกับวาเลนไทน์ แถมของที่ให้ก็เดิม ๆ ถ้าคุณคิดว่าวาเลนไทน์นี้น่าเบื่อแล้ว ยังไม่พอคุณลองคิดถึงค่าใช้จ่ายที่ตามมาสิ อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนเบื่อวันวาเลนไทน์ก็เพราะว่า วันแห่งความรักแบบนี้ก็นำมาซึ่งการเฉลิมฉลองความรักที่มีให้กัน และนั่นตามมาด้วยการต้องมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่าเดิมในวันปกติ และยิ่งไปกว่านั้นข้าวของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ดอกไม้ ตุ๊กตา ช็อคโกแลต ก็ต่างเตรียมขึ้นราคาเพิ่มเป็นสองเท่า สาเหตุนี้เองจึงทำให้เกิดการใช้จ่ายที่มากเกินความจำเป็น ทำให้หลายคนเลือกที่จะส่ายหน้าให้กับเทศกาลแห่งความรักเพราะอยากจะเซฟเงินเอาไว้ใช้จ่ายในวันเวลาที่จำเป็น

แล้วแบบนี้จะทำไงดี ถ้าไม่ทำอะไรเลยมีหวังโดนโกรธแน่ ๆ เราแนะนำทางออกแสนง่าย ๆ ไม่เปลืองตังค์แต่อาจจะเปลืองแรงคุณนิดหน่อย นั่นก็คือ “ทำงานบ้าน” ใช่แล้วล่ะ ทำงานบ้านแทนแฟนไปเลย ตื่นแต่เช้า กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ซักผ้า เลือกมาเถอะทำซักอย่างสองอย่างก็ได้ ไม่ต้องออกไปทำอะไรให้วุ่นวายเปลืองเงินข้างนอกเลย (พ่อบ้านหลายคนที่ทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว ไม่ต้องน้อยใจไปนะ) ทำให้ปิ๊ง สะอาดเอี่ยมวิบวับ เพราะมีงานวิจัยบอกว่า ถ้าหากคุณพ่อบ้านทำงานบ้านแทนสาว ๆ แล้วล่ะก็…เรื่องบนเตียงของพวกคุณทั้งคู่จะดีขึ้นมาก

เพราะสาว ๆ ก็จะไม่เหนื่อยและไม่ต้องมาหงุดหงิดกับการทำความสะอาดบ้าน มีเวลาให้คุณเต็มที่และที่สำคัญ จากผลสำรวจของเว็บ KINDARA (เว็บที่มีพนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและมีผู้ใช้งานเป็นผู้หญิงทั่วโลก) กล่าว่า  สาว ๆ กว่า 34% ของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นสัดส่วนใหญ่นั้น อยากได้ “เซ็กซ์ดี ๆ จากคนรักเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์” เท่ากับว่าวิธีนี้ประหยัดและอาจจะเวิร์คสุดก็เป็นได้นั่นแหละนะ

หวังว่าพอได้อ่านกันแล้วจะมีไอเดียปิ๊ง ๆ ไปปรับความเข้าใจ หาอะไรทำกับคนรักในวันสีชมพูแบบนี้นะ เพราะสุดท้ายแล้วเรื่องของความรักก็มีแต่คุณทั้งสองคนนั่นแหละที่รู้ดีที่สุด ขอให้มีความสุขกับวันวาเลนไทน์ปีนี้กันนะจ๊ะทุกคน ♡

Text – Little Gwa