สิ่งที่ มาเซลโล่ บิเอลซ่า จะนำมาสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้า - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
สิ่งที่ มาเซลโล่ บิเอลซ่า จะนำมาสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้า

เมื่อ มาร์เซโล บิเอลซ่า เข้ามากุมบังเหียน ลีดส์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรกในซัมเมอร์ปี 2018 เขาจัดการปฏิวัติทีมทันทีทั้งภายใน และภายนอกสโมสร พร้อมกับนำสไตล์การทำงานที่เป็นเอกลักษณ์เข้ามาสู่ทัพ “ยูงทอง” ทันที

กุนซือมากประสบการณ์ชาวอาร์เจนไตน์ ใช้เวลา 2 ปี ในการพา ลีดส์ กลับมาเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้ง หลังจากพวกเขาตกชั้นไปตั้งแต่ปี 2004 และในซีซั่นหน้า บิเอลซ่า จะได้โอกาสโชว์ฝีมือให้แฟนบอลลีกสุงสุดเมืองผู้ดีได้เห็นกันเต็มๆตา

โค้ชเจ้าของฉายา “El Loco” หรือ คนบ้า พร้อมแล้วที่นำความแปลกใหม่ และสร้างปรากฏการณ์ต่างๆให้บรรดาทีมในศึกพรีเมียร์ลีกได้สั่นสะเทือนอย่างแน่นอน

1.ได้เผชิญหน้ากับโจทก์เก่า แฟรงค์ แลมพาร์ด

Source : telegraph

ย้อนกลับไปในเดือนมกราคมปี 2019 สาวกลูกหนังเมืองผู้ดีทุกคนรู้ดีถึงเรื่องเหตุการณ์ Spygate ที่ บิเอลซ่า ส่งสายลับไปสอดแนมการฝึกซ้อมของ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ภายใต้การคุมทัพของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ก่อนเกมนัดสำคัญที่ ลีดส์ จะเปิดรังเอลแลนโร้ด รับมือ “แกะเขาเหล็ก”

แลมพาร์ด ฉุนขาดเพราะคิดว่า การกระทำของ บิเอลซ่า เป็นเรื่องไม่เหมาะสม และละเมิดสิทธิมากจนเกินไป แต่เทรนเนอร์อาร์เจนไตน์ อ้างว่า ตามมุมมองของเขามันเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ และไม่มีสิ่งใดบ่งบอกว่า มันผิดกฏิกา

ซัมเมอร์ปี 2019 แลมพาร์ด อำลา ดาร์บี้ มาคุมอดีตต้นสังกัดเก่าอย่าง เชลซี ในขณะที่ บิเอลซ่า ใช้เวลาอีก 1 ปี พา ลีดส์ กลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ และในฤดูกาลหน้า ทั้ง แลมพาร์ด และ บิเอลซ่า จะได้ประจันหน้ากันอีกครั้ง

2. ทำสถิติคุมทีมชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 100 เปอร์เซ็นต์

Source : footballleagueworld

ในปี 2012 แมนฯยูไนเต็ด ตกรอบจากศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และต้องลงไปเล่นในศึกยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีม สุดท้ายพบกับ แอธเลติก บิลเบา ภายใต้การกุมบังเหียนของ บิเอลซ่า ซึ่งในตอนนั้น บิลเบา มีนักเตะดังอย่าง เฟร์นานโด ยอเรนเต้, ฆาบี มาร์ติเนซ และอันเดร์ เอร์เรร่า นำทัพ

บิเอลซ่า ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการพา บิลเบา บุกไปเอาชนะ แมนฯยูไนเต็ด ได้ถึงถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด 3-2 ในเกมเลกแรก ก่อนจะกลับมาเปิดบ้านย้ำแค้นในเลกที่ 2 ด้วยสกอร์ 2-1 พร้อมกับพา บิลเบา เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

        หลังจบเกมทั้ง 2 นัด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนฯยูไนเต็ด ในเวลานั้นถึงกับยอมรับว่า บิลเบา ภายใต้การนำของ บิเอลซ่า เป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยเผชิญหน้าด้วย

3. ได้ประชันฝีมือกับลูกศิษย์อย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

Source : epimg

ในช่วงที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นผู้จัดการทีม บาร์เซโลน่า นั้น เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกตกใจในระดับรายละเอียดของทัพ “เจ้าบุญทุ่ม” ที่ บิเอลซ่า เคยเตรียมเอาไว้ในการพูดคุยกัน และถึงขนาดบอกว่า เทรนเนอร์อาร์เจนไตน์ รู้ข้อมูลทั้งหมดดีกว่าเขาเสียอีก

กวาร์ดิโอล่า เคยกล่าวว่า “เราในฐานะผู้จัดการทีมได้รับการตัดสินความสำเร็จจากจำนวนถ้วยแชมป์ทั้งหมด แต่นั่นมันน้อยกว่าที่ บิเอลซ่า มีอิทธิพลต่อวงการฟุตบอล และลูกทีมของเขา นั่นคือเหตุผลสำหรับผมที่จะบอกว่า เขาเป็นโค้ชที่ดีที่สุดในโลก”

กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคารพ บิเอลซ่า เป็นดั่งอาจารย์ และมักจะไปขอคำแนะนำอยู่เสมอ โดยในศึกพรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้า เราจะได้ดูการประชันฝืมือระหว่างปรมจารย์ด้านฟุตบอลกับศิษย์เอกกันอย่างสนุก

4. ระบบการเล่น 3-3-1-3

Source : rasset

บิเอลซ่า ถือเป็นต้นฉบับของการเล่นในระบบ 3-3-1-3 เลยก็ว่าได้ เขาเป็นคนทำให้ระบบดังกล่าวดูมีเสน่ห์ และกลายเป็นระบบที่โด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ โดยกุนซือบางคนก็อย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ อดีตโค้ช เชลซี ก็เอาแนวคิดของเขาไปปรับใช้เป็นระบบ 3-4-3 ที่พา “สิงโตน้ำเงินคราม” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2016-2017 มาแล้ว

 ถึงแม้ ลีดส์ ภายใต้การนำของ บิเอลซ่า จะใช้ระบบ 3-3-1-3 เป็นหลัก แต่ในบางเกมพวกเขาก็สามารถปรับไปเล่นระบบ 4-1-4-1 ได้ตามความเหมาะสมเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่า พลพรรค “ยูงทอง” เป็นทีมที่มีความสมดุลอยู่มากทีเดียว

ขณะเดียวกัน บรรดานักเตะในทีม ลีดส์ ชุดปัจจุบันอย่าง พาทริค แบมฟอร์ด, ปาโปล เอร์นานเดซ และ คาลวิน ฟิลลิปส์ ต่างก็พร้อมจะสร้างความประหลาดใจให้กับทีมยักษ์ใหญ่ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้อยู่เสมอ

5.ทำให้ ลีดส์ เป็นทีมหนีตกชั้นที่มีสไตล์แตกต่างออกไป

Source : mirror

ทีมหนีตกชั้นในพรีเมียร์ลีกส่วนใหญ่มักจะมีสไตล์การเล่นที่คล้ายคลึงกันด้วยการเน้นเกมรับต่ำหน้าปากประตูตัวเองอย่างอดทน พร้อมกับการใช้บอลยาวโจมตีฉาบฉวยเมื่อมีโอกาส และมักจะไม่ครองบอลไว้กับตัวเองนาน

อย่างไรก็ตาม สำหรับ บิเอลซ่า เขาไม่ให้ ลีดส์ ทำแบบนั้นอย่างแน่นอน โดยโค้ชจอมเก๋าวัย 65 ปี พร้อมสั่งให้ลูกทีมดันแนวรับขึ้นสูง และอาศัยการโจมตีที่ดุดันจากแนวรุกริมเส้น ซึ่งจะว่าไปการเล่นของ “ยูงทอง” นั้น คล้ายคลึงกับ ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ ในยุคที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ คุมทีมอยู่มากทีเดียว 

แน่นอนว่า ปีแรกในพรีเมียร์ลีก บอร์ดบริหารของ ลีดส์ คงหวังเพียงแค่การอยู่รอดปลอดภัยเท่านั้น แต่ด้วยฝีมือ และประสบการณ์ของ บิเอลซ่า มันก็อาจทำให้พวกเขาจบในอันดับกลางตารางได้อย่างไม่ยาก

ภาพประกอบ : telegraph.co.uk, footballleagueworld.co.uk, en.as.com, rte.ie, mirror.co.uk

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save