Warner Bro. ประกาศฉายภาพยนตร์ทุกเรื่องของตัวเองผ่านระบบสตรีมมิ่ง HBO max พร้อมกับฉายในโรงพร้อมกันในปี 2021เนื่องจากประเด็นเรื่องการระบาดของ COVID-19 ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงเมื่อไหร่
ซึ่งลิสภาพยนตร์ของ Warner Bro. ที่มีกำหนดฉายในปีหน้านั้นมีตั้งแต่ Dune ,Space Jam A new legacy, The Suicide Squad 2, The Little thing, Tom&Jerry The movie, Godzilla vs Kong
โดยหลังจาก Warner Bro. ประกาศข่าวนี้ออกมาทำให้หุ้นของ AMC และ CNK ที่เป็นเครือโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่หุ้นตกลงมาทันที 15%
จากการระบาดของ COVID-19 ในปี 2020 ทำให้ธุรกิจโรงภาพยนตร์เป็นธุรกิจหนึ่งที่ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก เพราะผู้ชมไม่สามารถมานั่งดูภาพยนตร์ร่วมกันได้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ส่งผลให้สตูดิโอผู้ผลิตภาพยนตร์ทั้งหลายก็ได้รับผลกระทบเป็นโดมิโน่ไปด้วย จนต้องเก็บภาพยนตร์หลายๆ เรื่องที่คาดว่าจะทำเงินเมื่อเข้าฉายต้องเลื่อนเวลาการฉายออกไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แม้ว่าในประเทศไทยสถานการณ์จะดีขึ้นมากจนคนสามารถออกไปดูภาพยนตร์ในโรงหนังได้เกือบจะเป็นปกติแล้ว แต่ในอีกหลายๆ ประเทศนั้นสถานการณ์การระบาดยังไม่ดีขึ้นมากนัก เช่น อเมริกาเอง เป็นต้น
สำหรับ Warner Bro. นั้นเคยได้มีการทดลองฉายภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ของค่าย อย่างเรื่อง “TENET” โดยฉายในโรงภาพยนตร์เท่านั้นในประเทศที่สามารถฉายได้ ผลของรายได้นั้นยังไม่เข้าเป้าเท่าที่ควรแม้จะเป็นตัวความหวังของทั้งค่ายหนัง และโรงภาพยนตร์เองก็ตาม
โดยปลายปีนี้จะมีภาพยนตร์เรื่องแรกที่เป็นตัวทดลองโมเดลการฉายควบคู่ทั้งในโรงภาพยนตร์ และระบบสตรีมมิ่งของ HBO max ได้แก่ภาพยนตร์เรื่อง “Wonder women 1984″ นั่นเอง
ซึ่งก่อนหน้านี้เองสตูดิโออย่าง Disney ก็ตัดสินใจฉายภาพยนตร์เรื่อง “Mulan” ผ่านระบบสตรีมมิ่ง Disney+ ของตัวเอง พร้อมกับฉายในโรงภาพยนตร์ในประเทศที่สามารถฉายได้
แต่รูปแบบในการปล่อยผ่านระบบสตรีมมิ่งของ Warner Bro. นั้นจะต่างกับ Disney ที่ทำกับเรื่อง Mulan ใน Disney+ คือ Warner Bro. เองจะไม่ได้ขายหรือปล่อยให้เช่าเป็นเรื่องๆ แต่จะให้ผู้ที่ตอบรับเป็นสมาชิก HBO max ดูได้เลยไม่มีการเก็บเงินเพิ่มจากค่าสมาชิกที่จ่ายตามปกติ
จึงต้องบอกว่านี่น่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของธุรกิจภาพยนตร์ที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2021 แน่ หลายสตูดิโอสร้างอาจจะต้องปรับตัวแบบสองสตูดิโอใหญ่แห่งวงการแล้ว
ที่มา – Warner Bro.