"โรคขี้แมวขึ้นสมอง" ภัยเงียบที่ทาสแมวควรรู้ เป็นแล้วส่งผลต่อสุขภาพจิตอย่างมหันต์ - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
“โรคขี้แมวขึ้นสมอง” ภัยเงียบที่ทาสแมวควรรู้ เป็นแล้วส่งผลต่อสุขภาพจิตอย่างมหันต์

แมวคือสัตว์เลี้ยงน่ารักที่อยู่คู่กับมนุษย์มาอย่างช้านาน ด้วยเสียงร้องแสนออดอ้อน ตาใสๆ บ้องแบ๊ว ที่มาพร้อมกับขนปุย และพุงนุ่มๆ ของมันทำให้เจ้ามนุษย์หลายคนยอมตกเป็น “ทาสแมว”

ที่ผ่านมาเราคงเคยได้ได้ยินได้ฟังประโยชน์ต่างๆ ของการเลี้ยงแมวมาแล้วมากมาย เช่น การเลี้ยงแมวทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น ป้องกันโรคซึมเศร้า ไปจนกระทั่งผลวิเคราะห์ที่บ่งชี้ว่าคนรักแมวมักจะมีไอคิวสูงกว่าคนทั่วไป ซึ่งนั่นก็เป็นเพียงด้านดีของการเลี้ยงแมว อย่างไรก็ตามการเลี้ยงแมวก็มีข้อพึงระวังเช่นกัน นอกจากเรื่องขนของมันที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับคนเป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืดเท่าไรแล้ว การศึกษาวิจัยล่าสุดยังพบว่าแมวทุกตัวมีโอกาสที่จะเป็นพาหนะนำเชื้อปรสิตบางอย่างเข้าสู่ร่างกายจนทำให้ผู้เลี้ยงเป็น “โรคขี้แมวขึ้นสมอง” ที่แม้ว่าโรคนี้จะไม่เป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต แต่มันส่งผลต่อสุขภาพจิต และการตัดสินใจของเราไม่น้อย ดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงโรคนี้กัน รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ตามมาดูกันเลย

เชื้อโรคก่อให้เกิดโรคขี้แมวขึ้นสมอง

สำหรับ โรคขี้แมวขึ้นสมอง นั้น มันเป็นโรคที่มีชื่อเฉพาะในทางการแพทย์ว่า “โรคท็อกโซพลาสโมซิส” (Toxoplasmosis) เกิดจากเชื้อโปรโตซัว ท็อกโซพลาสมากอนดี (Toxoplasma Gondii) ซึ่งเป็นปรสิตชนิดหนึ่งที่พบบ่อยในโลกของเรา ซึ่งปรสิตชนิดนี้พบได้เป็นประจำในอุจจาระของสัตว์นักล่าที่ชอบกินเนื้อดิบเป็นประจำ รวมถึงน้องแมวของเราด้วย

ถ้าแมวของเราได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี ไม่ปล่อยให้ออกไปล่า จับนกจับหนูก็คงสบายใจได้ว่าอุจจาระแมวของเราจะไม่มีเชื้อปรสิตชนิดนี้ แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เจ้าของแมวต้องพึงระวัง เพราะเชื้อ ท็อกโซพลาสมากอนดี มันจะเติบโตและขยายพันธุ์ในระบบทางเดินอาหารแมวจากนั้นก็จะถูกขับออกมาทางอุจจาระ โดยเชื้อตัวนี้จะผ่านเข้าสู่ร่างกายของเราผ่านการสัมผัส โดยเฉพาะคนที่ชอบเล่นกับแมว หอมแมว เอาหน้าไปซุกกับพุงและขนแมว ย่อมมีโอกาสที่จะได้รับอุจจาระแมวผ่านเข้าปากไม่มากก็น้อยเป็นการเปิดทางนำเชื้อปรสิตชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายได้

จากการศึกษาอิทธิพลของเชื้อ ท็อกโซพลาสมากอนดี เมื่อเข้าสู่ร่างกายของเหยื่อผ่านการทดลองพบว่า หนูที่กินอุจจาระแมวที่มีเชื้อ  เชื้อปรสิตชนิดนี้จะวิ่งเข้าไปทำปฏิกิริยากับสมองเพื่อสั่งการให้หนูวิ่งไปหาแมวให้แมวกิน แทนที่จะวิ่งหนีแมวตามปกติ

วิธีการสังเกตว่าแมวเราเป็นพาหะนำโรคขี้แมวขึ้นสมองหรือไม่?

วิธีการสังเกตนั้นไม่ยากเลย โดยในแมวที่มีเชื้อ ท็อกโซพลาสกอนดี เป็นอยู่เป็นจำนวนมากจะมีอาการรุนแรงถึงขั้นเกรง ชัก เหมือนเป็นบ้าในบางครั้ง จากนั้นก็จะหายกลับเป็นปกติ ส่วนแมวที่มีเชื้อปรสิตชนิดนี้ไม่มากก็จะมีอาการเปลี่ยนไป คือไม่ค่อยอยู่นิ่งเหมือนแต่ก่อน อยากล่า เดินไปเดินมา เป็นแมวไฮเปอร์ และก้าวร้าวขึ้น ไม่ยอมให้จับ หรือเล่นด้วยง่ายๆ เหมือนแต่ก่อน

อาการของโรคขี้แมวขึ้นสมองในคน

นักวิชาการไทยที่ศึกษาด้านเชื้อโรคได้ออกมาเตือนว่าในช่วงหน้าหนาวนี้ เชื้อปรสิตที่ทำให้เป็นโรคขี้แมวขึ้นสมองจะแพร่กระจายได้เร็วเป็นพิเศษ หลังจากที่ได้พบว่ามีชายหนุ่มทาสแมววัย 30 ปี มีร่องรอยของโรคขี้แมวขึ้นสมองที่บริเวณตาข้างขวาขนาด 5 มิลลิเมตร และตาข้างซ้าย 1 มิลลิเมตร อย่างไรเชื้อนี้จะส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายของมนุษย์ไม่มาก อย่างมากก็แค่มีไข้ หนาวสั่น ตัวร้อนเหมือนอาการเป็นไข้ทั่วไป แต่หากบุคคลที่ได้รับเชื้อมีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาการก็จะรุนแรงกว่าคนทั่วไป

ที่น่าสนใจมากกว่าสำหรับคนที่ได้รับเชื้อขี้แมวขึ้นสมองก็คืออาการทางด้านจิตใจ ซึ่งนักวิจัยพบว่ามันได้เข้าไปส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ และพฤติกรรมส่วนตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ ผลวิจัยชี้ว่าคนที่เป็นโรคขี้แมวขึ้นสมองจะเป็นคนที่ “กล้ามาก” กล้าที่จะทำอะไรเสี่ยงๆ มากขึ้น กล้าได้กล้าเสีย ตัดสินใจเร็วอย่างขาดความยั้งคิด

ผลการเก็บข้อมูลที่สนับสนุนผลลัพธ์ความ “กล้ามาก” ของคนเป็นโรคขี้แมวนี้ก็คืองานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารของราชสมาคมกรุงลอนดอน (Proceedings of the Royal Society B ) ชิ้นหนึ่งที่เผยว่า นักธุรกิจที่ได้รับเชื้อขี้แมวขึ้นสมองเข้าสู่ร่างการมีเปอร์เซ็นต์ที่จะตัดสินใจลงทุนในกิจการใหม่ๆ หรือตัดสินใจสำคัญได้มากกว่าคนที่ไม่มีเชื้อนี้ในร่างกาย

ไม่เพียงเท่านั้น งานวิจัยนี้ยังบ่งชี้ให้เห็นว่า คนที่มีเชื้อขี้แมวขึ้นสมอง จะเป็นคนที่หงุดหงิดง่าย มีอารมณ์หุนหันพลันแล่น อารมณ์มาก่อนเหตุผล และมีแนวโน้มที่จะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์บนท้องถนนมากกว่าคนที่ไม่มีเชื้อ 3-4 เท่า อีกทั้งยังก่อให้เกิดอาการทางจิตนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาการเอาแต่ใจ ตัวเองเป็นใหญ่อยู่คนเดียว, ไบโพลาร์, สมาธิสั้น ไปจนถึงโรคซึมเศร้า

และนี่ก็คือ โรคขี้แมวขึ้นสมองที่เราอยากเตือนให้หนุ่มสาวชาว The Macho ได้ทราบกันในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่รักแมวกันทุกคน เมื่อได้ทราบแล้วก็พึงระวัง เพราะโรคนี้เป็นแล้วรักษายาก แต่สามารถป้องกันได้ง่ายๆ คือ “อย่ากินขี้แมว” ดังนั้นเล่นแมวทุกครั้งต้องล้างมือก่อนที่จะหยิบอะไรเข้าปาก รวมถึงอย่าเอาหน้าไปซุกพุงแมว หรือขนแมวหากเราไม่มั่นใจในความสะอาดของพวกมัน เพียงเท่านี้คุณก็จะปลอดภัยจากโรคขี้แมวขึ้นสมองแล้ว

Sujate Wanchat

What one man calls God, another calls the laws of physics.

วิศวกร นักท่องเที่ยว บล็อกเกอร์ นักเขียนบทความ ชอบติดตามโลกเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าล้ำสมัย เรื่องราวการท่องเที่ยวผจญภัย มนุษย์ต่างดาว และสาวๆ เซ็กซี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save