หากพูดถึงสโมสรระดับต้นๆของวงการลูกหนังคงปฏิเสธไม่ได้ว่า บาร์เซโลน่า คือหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน โดยจากอดีตถึงปัจจุบันพวกเขาเดินหน้ากวาดแชมป์มากมาย และมีนักเตะระดับซุเปอร์สตาร์ส่งต่อรุ่นสู่รุ่นอย่างไม่ขาดสาย

        ขณะเดียวกัน ฉายา “เจ้าบุญทุ่ม” นั้น ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า บาร์ซ่า เป็นทีมที่พร้อมจะลุงทุนคว้านักเตะคุณภาพมาเสริมทัพอยู่เสมอไม่ว่าจะราคาเท่าไหร่ก็ตาม ซึ่งแข้งเหล่านี้ได้รับบันทึกสถิติว่า เป็นผู้เล่นค่าตัวแพงที่สุด 10 อันดับแรกแห่งถิ่นคัมป์ นู

10. ดาวิด บีย่า (ค่าตัว 40 ล้านยูโร)

       อดีตหัวหอกทีมชาติสเปน ย้ายจาก บาเลนเซีย มาเล่นกับ บาร์เซโลน่า ในซัมเมอร์ปี 2010 ยุคที่ เปป กวาร์ดิโอล่า กุมบังเหียน “เจ้าบุญทุ่ม” และ บียา ก็โชว์ผลงานได้อย่างคุ้มค่าตัวด้วยการซัดไปถึง 48 ประตู จาด 119 เกมรวมทุกรายการตลอด 3 ปีกับสโมสร

        ในปี 2013 บีย่า ถูกขายให้กับ แอตเลติโก มาดริด ด้วยค่าตัวเพียง 5 ล้านยูโร โดยหลังอำลาถิ่นคัมป์ นู อดีตดาวยิงทัพ “กระทิงดุ” ฝากผลงานพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัย, โคปา เดย์ เลย์ 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ 1 สมัย และแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย

9. มัลคอม (ค่าตัว 41 ล้านยูโร)

       ย้อนกลับไปในซัมเมอร์ปี 2018บาร์เซโลน่า จัดการตัดหน้า โรม่า คว้าตัว มัลคอม จาก บอร์กโดซ์ ไปร่วมทีมได้แบบสุดเซอร์ไพรส์ ถึงแม้ว่า ปีกชาวบราซิล เกือบจะย้ายไปเล่นกับพลพรรค “หมาป่าเหลืองแดง” เต็มทีแล้วก็ตาม

        แต่น่าเสียดายที่ ตัวรุกวัย 23 ปี ไม่ประสบความสำเร็จกับ บาร์เซโลน่า อย่างที่หลายคนหวังเอาไว้ เขาอยู่กับทีมได้เพียงปีเดียว และยิงไปเพียง 4 ประตู จาก 24 เกมรวมทุกรายการ จากนั้น ในซัมเมอร์ 2019 มัลคอม ก็โดนขายให้กับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโร

8. มิราเล็ม ปานิช (ค่าตัว 60 ล้านยูโร)  

       แฟนบอล บาร์เซโลน่า หลายคนประหลาดใจที่สโมสรคว้าตัว ปานิช มาจาก ยูเวนตุส และปล่อย อาร์ตูร์ มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล สลับไปให้กับ “เจ้าม้าลาย” ซึ่งคนส่วนใหญ่มองว่า “เจ้าบุญทุ่ม” ทำการตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่

        ขระเดียวกัน ดูเหมือนว่า กองกลางทีมชาติบอสเนีย และเฮอร์เซโกวีน่า จะไม่เป็นที่ชื่นชอบนักของ โรนัลด์ คูมัน กุนซือคนใหม่ของ บาร์เซโลน่า โดยฤดูกาลนี้ ปานิช เพิ่งลงเล่นไปเพียง 5 เกมรวมทุกรายการ และยังยิงไม่ได้เลย

       ในช่วงซัมเมอร์หน้า เชื่อได้ว่า ปานิช อาจต้องพิจารณาอนาคตของตัวเองในถิ่นคัมป์ นู อีกครั้ง เนื่องจากในวัย 29 ปี เขาก็เข้าสู่ช่วงท้ายๆอาชีพแล้ว

7. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (ค่าตัว 70 ล้านยูโร)

       ยอดกองหน้าชาวสวีเดน ถูกดึงมาในยุคกุนซือ เปป กวาร์ดิโอล่า โดยสาวก “อาซูลกราน่า” หลายรายต่างตื่นเต้นที่ได้ตัว อิบราฮิโมวิช มาล่าตาข่าย พร้อมกับหวังว่า เขาจะผนึกกำลังร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ ตัวรุกชาวอาร์เจนไตน์ ได้อย่างเข้าขาลงตัว

        อย่างไรก็ตาม อิบราฮิโมวิช กลับมีสไตล์การเล่นไม่เข้าระบบของ กวาร์ดิโอล่า และที่สำคัญเขาต้องกลายเป็นตัวสำรองของ เมสซี่ ในตำแหน่ง False9 นอกจากนี้ เจ้าตัวยังมีเรื่องทะเลาะกับ กวาร์ดิโอล่า จนถึงขั้นไม่มองหน้ากันเลยทีเดียว

       ในที่สุด อิบราฮิโมวิช ก็ต้องเป็นฝ่ายที่เดินออกจากถิ่นคัมป์ นู หลังย้ายมาเล่นกับ บาร์เซโลน่า ได้เพียงปีเดียวเท่านั้น

6. แฟรงค์กี้ เดอ ยอง (ค่าตัว 75 ล้านยูโร)

        หนึ่งในดาวรุ่งมากพรสวรรค์ของวงการลูกหนังฮอลแลนด์ เดอ ยอง เป็นเด็กลูกหม้อของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ก่อนจะโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา จนทำให้ บาร์เซโลน่า รีบเซ็นสัญญากับเจ้าตัวทันที

        ดาวเตะวัย 23 ปี เป็นกองกลางที่สมบูรณ์แบบอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็นการครองบอล, ไหวพริบ, เทคนิค, ทักษะ และวิสัยทัศน์ในสนามตามแบบฉบับที่ บาร์เซโลน่า ต้องการ และไม่น่าแปลกใจเลยที่ เดอ ยอง จะยึดตัวจริงในแดนกลางของ  “เจ้าบุญทุ่ม” เรียบร้อยแล้ว

5. หลุยส์ ซัวเรซ (ค่าตัว 82 ล้านยูโร)

       กองหน้าชาวอุรุกวัย เป็นหนี่งในการทำธุรกิจที่คุ้มค่าที่สุดของ บาร์เซโลน่า เลยก็ว่าได้หลังคว้าตัวมาจาก ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2014 โดยตลอด 6 ปี ในถิ่นคัมป์ นู ซัวเรซ ระเบิดสกอร์ไปถึง 198 ประตู จาก 283 เกมรวมทุกรายการ

        ในช่วงที่ค้าแข้งกับ บาร์ซ่า นั้น ซัวเรซ ผนึกกำลังร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ ตัวรุกชาวอาร์เจนไตน์ และ เนย์มาร์ ยอดหัวหอกชาวบราซิล ได้อย่างสุดยอดพร้อมกับพาพลพรรค “เจ้าบุญทุ่ม” กวาดแชมป์อย่างนับไม่ถ้วน

อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลใหม่นี้ ดาวยิงวัย 33 ปี ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ โรนัลด์ คูมัน กุนซือคนใหม่ บาร์เซโลน่า และเขาก็ถูกขายให้กับ แอตเลติโก มาดริด ด้วยค่าตัวเพียง 6 ล้านยูโร ท่ามกลางความเสียใจของเจ้าตัวที่ไม่อยากย้ายสโมสร

4. เนย์มาร์ (ค่าตัว 88 ล้านยูโร)

       หลังย้ายมาจาก ซานโตส เมื่อปี 2013 เนย์มาร์ ก็กลายเป็นตัวหลักในแนวรุกของ บาร์เซโลน่า และกลายเป็นขวัญใจของสาวก “อาซูลกราน่า” ทันที และ ดาวยิงแซมบ้า ก็สร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับสโมสรเช่นกันหลังย้ายไปร่วมทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในปี 2017

       ตลอด 5 ปี ในถิ่นคัมป์ นู นั้น เนย์มาร์ สร้างสีสันให้กับ บาร์เซโลน่า อย่างมาก เขาเล่นกับ หลุยส์ ซัวเรซ และ ลิโอเนล เมสซี่ ได้อย่างเข้าขารู้ใจจนกลายเป็น 3 ประสาน “MSN” สร้างชื่อกระหึ่มไปทั่วยุโรป พร้อมกับพาทีมประสบความสำเร็จมากมาย

3. อองตวน กรีซมันน์ (ค่าตัว 120 ล้านยูโร)

       หลัง เนย์มาร์ ย้ายออกไปเมื่อปี 2017 บาร์เซโลน่า ก็ตามหาตัวแทนดาวยิงชาวบราซิลมาอย่างยาวนานจนในช่วงซัมเมอร์ 2019 พวกเขายอมทุ่มเงิน 120 ล้านยูโร คว้าตัว กรีซมันน์ ตัวรุกทีมชาติฝรั่งเศส มาจาก แอตเลติโก มาดริด

        กองหน้าเฟรนช์แมน เข้ามาเป็นตัวหลักของ บาร์เซโลน่า ทันที โดยในฤดูกาลแรกกับ บาร์เซโลน่า นั้น เขาได้ลงสนามไปมากถึง 48 เกม ซัดไป 15 ประตู และในฤดูกาลนี้ กรีซมันน์ ยังคงเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกของทีมร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ ในการพาสโมสรไล่ล่าความสำเร็จ

2. อุสมาน เดมเบเล่ (ค่าตัว 138 ล้านยูโร)

       เดมเบเล่ ถือเป็นการทำธุรกิจที่น่าผิดหวังที่สุดของ บาร์เซโลน่า เลยก็ว่าได้ หลังยอมทุ่มเงินถึง 138 ล้านยูโร คว้าตัวมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อปี 2017 โดยปีกชาวฝรั่งเศสไม่สามารถปรับตัวกับทีมได้ และยังได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง รวมทั้งมีปัญหาเรื่องวินัยอีกด้วย

        ในวัยเพียง 23 ปี เดมเบเล่ ดูเหมือนจะมีอนาคตที่สดใสรออยู่ แต่แล้วเขาก็ไม่ได้เป็นอย่างที่หลายๆคนคาดหวัง โดยตลอด 3 ปี กับสโมสรนั้น เจ้าตัวลงเล่นไปเพียง 80 เกม ยิงไป 21 ประตู และมีข่าวย้ายทีมแทบทุกซัมเมอร์เลยก็ว่าได้

1. เฟลิเป้ คูคินโญ่ (ค่าตัว 145 ล้านยูโร)

        การย้ายทีมของ คูตินโญ่ จาก ลิเวอร์พูล มายัง บาร์เซโลน่า ยืดเยื้อยาวนานจนกินเวลาหลายเดือนเลยทีเดียว ก่อนที่จะบรรลุผลสำเร็จในตลาดนักเตะเดือนมกราคมปี 2018 หลัง “หงส์แดง” ยอมปล่อยตัวเขาออกมากจากถิ่นแอนฟิลด์

        ในช่วงแรกจอมทัพแซมบ้าดูเหมือนจะปรับตัวเข้ากับแท็คติคของ บาร์เซโลน่า ได้อย่างไม่มีปัญหา แต่แล้ว คูตินโญ่ ก็ค่อยๆฟอร์มตกลงไปอย่างน่าใจหายจนในปี 2019 เขาถูกปล่อยให้ บาเยิร์น มิวนิค ยืมตัวไปใช้งานเป็นเวลา 1 ปี

       อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลนี้ ดาวเตะวัย 28 ปี ถูก  โรนัลด์ คูมัน กุนซือคนใหม่ บาร์เซโลน่า เรียกตัวกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง และ คูคินโญ่ ก็ยังต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไปว่า เขามีดีพอจะเป็นตัวหลักในถิ่นคัมป์ นู

Photo : 90min.co, fifa.com, en.as.com, givemesport.com, talksport.com