10 อันดับนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของ ลิเวอร์พูล - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
10 อันดับนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของ ลิเวอร์พูล

       ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สโมสรขวัญใจมหาชนอย่าง ลิเวอร์พูล ลงทุนคว้านักเตะใหม่มาเสริมทีมแทบทุกตลาดนักเตะเลยก็ว่าได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของ 2 กุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส และ เจอร์เก้น คลอปป์ นั้น “หงส์แดง” ทำลายสถิตินักเตะค่าตัวแพงของพวกเขาเองอยู่หลายครั้งทีเดียว

        มีผู้เล่นมากมากมายที่ถูกดึงมายังถิ่นแอนฟิลด์ บางคนประสบความสำเร็จ และยังเป็นกำลังหลักมาจนถึง ณ เวลานี้ ในขณะที่บางคนล้มเหลวจนต้องถูกปล่อยตัวออกไป โดยบรรดาแข้งต่อไปนี้ ติดอยู่ในชาร์ต 10 อันดับผู้เล่นค่าตัวแพงที่สุดของ “หงส์แดง”

10. คริสติยอง เบนเตเก้ (ค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์)

       เบนเตเก้ ถูกคว้าตัวเข้ามาในยุคของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เมื่อซัมเมอร์ปี 2015 แต่ศูนย์หน้าทีมชาติเบลเยียม ดูเหมือนมีสไตล์การเล่นที่ไม่เข้ากับ ลิเวอร์พูล มากนัก จนมาถึงยุค เยอร์เก้น คล็อปป์ เขาก็โดนขายให้กับ คริสตัล พาเลซ ในปี 2016 ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์

        ตลอด 1 ปี กับ ลิเวอร์พูล เบนเตเก้ ฟอร์มฝืดอย่างหนักโดยยิงไปเพียง 10 ประตู จากการลงสนามรวมทุกรายการ 42 เกม และจากผลงานดังกล่าวจึงไม่น่าแปลกใจที่เขาอยู่กับ “หงส์แดง” ได้ไม่นาน

9. ซาดิโอ มาเน่ (ค่าตัว 34 ล้านปอนด์)

       ยอดตัวรุกทีมชาติเซเนกัล ถูก เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล คว้าตัวมาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ในราคา 34 ล้านปอนด์ และจนถึงเวลานี้ มาเน่ ก็ยังเป็นคีย์แมนคนสำคัญในแนวรุกที่พลพรรค “หงส์แดง” จะขาดไปไม่ได้เสียแล้ว

        มาเน่ พัฒนาตัวเองจนขึ้นมาเป็นตัวรุกระดับโลกอย่างเต็มตัวทั้งความเร็ว, สปีดต้น, เทคนิค, การจบสกอร์, การหาพื้นที่ และทีมเวิร์คนั้น ดาวเตะวัย 28 ปี มีครบถ้วนทุกอย่าง โดยสถิติของเขากับ ลิเวอร์พูล น่าประทับใจด้วยการซัดไปถึง 85 ประตู จาก 177 เกมที่ลงเล่นรวมทุกรายการ

8. แอนดี้ คาร์โรลล์ (ค่าตัว 35 ล้านปอนด์)

       หัวหอกชาวอังกฤษ ถูกคว้าตัวจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มายังถิ่นแอนฟิลด์เมื่อเดือนมกราคมปี 2011 ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ ในยุค เคนนี่ ดัลกลิช อดีตกุนซือชาวสก็อตแลนด์คุมทัพ ลิเวอร์พูล แต่น่าเสียดายที่ผลงานของ คาร์โรลล์ กับ “หงส์แดง” นั้น ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

        คาร์โรลล์ ถูกวางไว้เป็นตัวแทนของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงทีมชาติสเปน ที่ย้ายไปยัง เชลซี แต่เขาฟอร์มฝืดอย่างหนักบวกกับปัญหาอาการบาดเจ็บรบวนส่งผลให้ในปีแรกกับ ลิเวอร์พูล นั้น เจ้าตัวซัดไปเพียง 2 ประตู จากการลงเล่นเพียง 9 เกม

        ในฤดูกาล 2012-2013 ลิเวอร์พูล ตัดสินใจปล่อย คาร์โรลล์ ให้เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ยืมตัวไปใช้งานก่อนจะขายแบบขาดทุนให้กับ “ขุนค้อน” ในซัมเมอร์ต่อมาด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ และปัจจุบันในวัย 31 ปี เจ้าตัวย้ายกลับไปเล่นให้กับ นิวคาสเซิ่ล อีกครั้ง

7. โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ (ค่าตัว 35 ล้านปอนด์)

       เชื่อได้ว่า ไม่มีแฟนบอล ลิเวอร์พูล คนใดที่คิดว่า ซาล่าห์ จะประสบความสำเร็จได้ถึงเพียงนี้ หลังจากที่เขาเคยย้ายจาก เอฟซี บาเซิ่ล มาเล่นในอังกฤษกับ เชลซี เมื่อปี 2013 แต่ก็เจอกับความยากลำบากจนต้องตระเวนย้ายไปเล่นในอิตาลีกับ ฟิออเรนติน่า และ โรม่า

       เยอร์เก้น คล็อปป์เป็นคนคว้าตัว ซาล่าห์ มายังแอนฟิลด์ในซัมเมอร์ปี 2017 หลังจากนั้น ปีกทีมชาติอิยิปต์ ก็กลายเป็นตัวหลักในแนวรุกของ “หงส์แดง” ทันที พร้อมกับระเบิดฟอร์มถล่มประตูเป็นเวลาเล่นด้วยผลงานซัดไป 100 ประตู จาก 161 เกมรวมทุกรายการ

        ซาล่าห์ พัฒนาตัวเองจากปีกธรรมชาติที่เน้นความเร็วในการโจมตีคู่แข่งจนกลายมาเป็นตัวจบสกอร์ชั้นยอด และการที่เขาได้เล่นร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ ก็ยิ่งทำให้ ดาวเตะวัย 28 ปี โดดเด่นมากขึ้นไปอีก

6. อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (ค่าตัว 35 ล้านปอนด์)

       กองกลางชาวอังกฤษ ถูกคว้าตัวมายัง ลิเวอร์พูล ในซัมเมอร์ปี 2017 เพื่อเพิ่มพลังงาน และมิติใหม่ในแดนกลางให้กับ “หงส์แดง” โดยดาวเตะวัย 27 ปี มีทั้งลูกยิงไกลที่ทรงพลัง, การบู๊, และความกระตือรือร้น ตามแบบฉบับที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการ

        อย่างไรก็ตาม อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เป็นนักเตะที่โชคร้ายได้รับบาดเจ็บยาวอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล มากเท่าที่ควร และหลังหายเจ็บกลับมา เจ้าตัวยังคงต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไปเพื่ออนาคตในถิ่นแอนฟิลด์

5. ดิโอโก้ โชตา (ค่าตัว 41 ล้านปอนด์)

       หนึ่งในดีลที่เซอร์ไพรส์แฟนบอล ลิเวอร์พูล ได้มากที่สุด โชต้า ถูกคว้าตัวมาจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ด้วยค่าตัว 41 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา พร้อมเงื่อนไขจ่ายเพิ่มอีกรวมเป็น 45 ล้านปอนด์ในอนาคตหากทำผลงานได้ตามเป้าหมาย

        ปีกทีมชาติโปรตุเกส ได้รับการคาดหมายว่า จะเข้ามาแบ่งเขาภาระของบรรดาแนวรุก ลิเวอร์พูล อย่าง ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ ซึ่งหากมองผลงานล่าสุดของ โชต้า ที่เริ่มปรับตัวเข้ากับทีมได้ และซัดไปแล้ว 2 ลูกนั้น “หงส์แดง” ดูท่าว่าจะคุ้มค่า

        ในวัยเพียง 23 ปี ฝีเท้าของ โชต้า ยังสามารถพัฒนาได้อีกไกล และการทำงานร่วมกับยอดกุนซืออย่าง  เยอร์เก้น คล็อปป์ นั้น จะทำให้เข้ากลายเป็นนักเตะระดับท็อปได้ไม่ยาก

4. ฟาบินโญ่ (ค่าตัว 43.7 ล้านปอนด์)

       ในช่วงแรกที่ย้ายจาก โมนาโก มายัง ลิเวอร์พูล ในซัมเมอร์ปี 2018 นั้น ฟาบินโญ่ ต้องปรับตัวกับการเล่นในเมืองผู้ดีอย่างหนัก และแทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากนัก แต่หลังจากปรับตัวได้ มิดฟิลด์ชาวบราซิล ก็กลายเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของ ลิเวอร์พูล ทันที

        ฟาบินโญ่ ปักหลักในแผงกองกลางของ ลิเวอร์พูล ได้อย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ห้องเครื่องวัย 27 ปี ยังเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ที่สามารถขยับไปเล่นในตำแหน่งฟูลแบ็ค และเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แถมยังมีทีเด็ดจากการยิงไกลอีกด้วย

3. นาบี เกอิต้า (ค่าตัว 48 ล้านปอนด์)

เกอิต้า ถูกคาดหมายว่า จะเข้ามาสานต่อเสื้อเบอร์ 8 ของ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ได้ โดยกองกลางชาวกินี ได้รับการยกย่องว่า เป็นมิดฟิลด์ที่ครบเครื่องทั้งบู๊ และบุ๋น จึงทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ เร่งคว้าตัวมาจาก ไลป์ซิก

อย่างไรก็ตาม เกอิต้า ยังไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งให้กับ ลิเวอร์พูล ได้เหมือนตอนอยู่กับ ไลป์ซิก และเจ้าตัวมีปัญหาสภาพร่างกายโดนอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้งจนทำให้สาวก “เดอะ ค็อป” เริ่มสงสัยแล้วว่า เขาเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหรือไม่

 ปัจจุบัน เกอิต้า อายุเพียง 25 ปี และดูเหมือนว่า คล็อปป์ น่าจะให้เขาพิสูจน์ตัวเองในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล ต่อไป

2. อลิสซอน เบ็คเกอร์ (ค่าตัว 66.8 ล้านปอนด์)

       ยอดนายทวารทีมชาติบราซิล เป็นการซื้อตัวที่ถูกจุดของ ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริง อลิสซอน เข้ามาแก้ปัญหาในตำแหน่งผู้รักษาประตูที่สะสมมาตลอดหลายปีของ “หงส์แดง” ได้อย่างยอดเยี่ยม และเขาก็ทำให้เพื่อนร่วมทีม รวมถึงแฟนบอลอุ่นใจได้เสมอเมื่อลงเฝ้าเสา

        อลิสซอน มีคุณสมบัติของโกล์สมัยใหม่อย่างแท้จริงทั้งปฏิกิริยาที่รวดเร็ว, การใช้เท้าที่คล่องแคล่ว, การเปิดบอลสั้น-ยาวอย่างแม่นยำ และความมั่นใจในการเล่นตลอดทั้ง 90 นาที โดยในวัย 28 ปี เจ้าตัวยังสามารถพัฒนาได้มากกว่านี้อีก

1. เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (ค่าตัว 75 ล้านปอนด์)

ฟาน ไดจ์ค ถูกคว้าตัวเข้ามายังถิ่นแอนฟิลด์ในเดือนมกราคมปี 2018 ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 75 ล้านปอนด์ แต่เงินที่ “หงส์แดง” จ่ายให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน นั้น ได้รับการตอบแทนคืนทุกบาททุกสตางค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ปราการหลังทีมชาติฮอลแลนด์ เข้ามายกระดับเกมรับของ ลิเวอร์พูล ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เขาทำให้คนรอบข้างพัฒนาฟอร์มขึ้นตามไปด้วย และ ฟาน ไดจ์ค ถือเป็นผู้บัญชาการแนวรับของพลพรรค “หงส์แดง”  อย่างแท้จริง

แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ กองหลังวัย 29 ปี ได้รับบาดเจ็บยาว และหมดสิทธิกลับมาลงสนามให้กับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้เป็นที่แน่นอนแล้ว ซึ่งมันเป็นปัญหาที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องหาทางแก้ไขต่อไป

Photo – skysports.com

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save