สำหรับศึกพรีเมียร์ลีกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเกือบทุกสโมสรต่างก็มีนายทวารฝีไม้ลายมือดีหลายต่อหลายคนต่างแวะเวียนกันเข้ามาโชว์ฟอร์มเซฟประตูกันอย่างไม่ขาดสาย และพวกเขาบางคนทำหน้าที่ได้อย่างเหนียวแน่นจนกลายมาเป็นที่จดจำของคอบอล

        ขณะเดียวกัน โกล์หลายคนย้ายเข้ามายังแดนผู้ดีด้วยมูลค่ามหาศาล โดยบางดีลนั้นค่าตัวของพวกเขาโหดกว่านักเตะในตำแหน่งอื่นเสียอีก และนี่คือ 10 อันดับมือกาวที่มีราคาแพงที่สุดในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จนถึง ณ เวลานี้

10. เคลาดิโอ บราโว่ (ค่าตัว 17 ล้านปอนด์)

       นายทวารจอมเก๋าชาวชิลี ย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาเฝ้าเสากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำทัพของ เปป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ชาวสเปน เมื่อปี 2016 ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ พร้อมกับยึดตำแหน่งมือ 1 ของ “เรือใบสีฟ้า” ทันที

        อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลต่อมา กวาร์ดิโอล่า ตัดสินใจคว้าตัว เอแดร์สัน โกล์ชาวบราซิล มาจาก เบนฟิกา ซึ่งทำให้ บราโว่ ถูกลดบทบาทไปเป็นมือ 2 มาตลอด 3 ปีหลังสุดก่อนจะถูกปล่อยให้กับ เรอัล เบติส เมื่อซัมเมอร์ปี 2020

        ตลอด 4 ปีในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม มือกาววัย 37 ปี ลงเล่นให้กับ แมนฯ ซิตี้ ไป 61 เกม พร้อมกับคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย และลีก คัพ 2 สมัย

9. รุย ปาตริซิโอ (ค่าตัว 18 ล้านปอนด์)

       ปาตริซิโอ ถูก นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต กุนซือ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส คว้าตัวมาจาก สปอร์ติง ลิสบอน ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ ในซัมเมอร์ปี 2018 จากนั้น โกล์ทีมชาติโปรตุเกส ก็ยึดตำแหน่งมือ 1 ของพลพรรค “หมาป่า” จนถึงปัจจุบัน

        ปาตริซิโอ ทำผลงานให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ได้อย่างยอดเยี่ยมโดยตลอด 3 ฤดูกาลกับสโมสรเขาลงเล่นไปแล้วถึง 97 เกม และพาทีมจนฤดูกาลด้วยอันดับ 7 ในพรีเมียร์ลีก 2 ปีติดต่อกัน พร้อมคว้าตั๋วไปเล่นในศึกยูโรป้า ลีก อีกด้วย

8. อารอน แรมส์เดล (ค่าตัว 18.45 ล้านปอนด์)

       หลังต้องเสีย ดีน เฮนเดอร์สัน นายทวารฝีมือดีที่หมดสัญญายืมตัว และต้องกลับไปร่วมทีมต้นสังกัดอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้น คริส ไวล์เดอร์ ผู้จัดการทีม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็จัดการคว้าตัว แรมส์เดล มาจาก บอร์นมัธ ทันที

        แรมส์เดล เคยเป็นเด็กปั้นของ เชฟฟิลด์ เมื่อปี 2016 แต่ในเวลานั้น โกล์วัย 22 ปี ยังไม่สามารถแจ้งเกิดได้จนต้องย้ายไปเล่นกับ บอร์นมัธ เป็นเวลา 4 ปี และโชว์ผลงานยอดเยี่ยมก่อนจะได้กลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในทัพ “ดาบคู่”

7. ดาบิด เด เคอา (ค่าตัว 18.9 ล้านปอนด์)

       หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เด เคอา ย้ายจากสโมสรที่ปลุกปั้นเขามาอย่าง แอตเลติโก มาดริด มาเฝ้าเสาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อปี 2011 จากนั้น เขายึดตำแหน่งมือ 1 “ปีศาจแดง” ได้จนถึง ณ เวลานี้

        ตลอด 10 ปี กับ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น นายทวารทีมชาติสเปน ลงเฝ้าเสาไปมากถึง 412 เกม พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 1 สมัย และยูโรป้า ลีก 1 สมัย

6. แบรนด์ เลโน่ (ค่าตัว 22 ล้านปอนด์)

       มือกาวชาวเยอรมัน ย้ายจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาเฝ้าเสากับ อาร์เซน่อล ในยุคของ อูไน เอเมรี่ อดีตเทรนเนอร์ชาวสเปน พร้อมกับเบียด ปีเตอร์ เช็ก อดีตโกล์จอมเก๋าชาวสาธารณรัฐเช็กของ “ไอ้ปืนใหญ่” ไปเป็นตัวสำรอง

       หลัง เอเมรี่ โดนไล่ออก และ มิเคล อาร์เตต้า เข้ามาคุม อาร์เซน่อล แทนนั้น เลโน่ ก็ยังคงยึดมือ 1 ของทีมมาอย่างต่อเนื่อง และในวัย 28 ปี เขากำลังเข้าสู่ช่วงพีคของตำแหน่งผู้รักษาประตู

5. เอดูอาร์ด เมนดี้ (ค่าตัว 22 ล้านปอนด์)

       เมนดี้ มีเส้นทางอาชีพที่น่าเหลือเชื่อทีเดียว โดยก่อนหน้านี้เขาเป็นผู้รักษาประตูในลีกระดับล่างของฝรั่งเศส ซึ่งไม่มีใครแทบจะรู้จักเลย แต่เจ้าตัวใช้ความอดทนค่อยๆพัฒนาตัวเองจนกลายมาเป็นมือ 1 ของ แรนส์ เมื่อปีที่ผ่านมา และโชว์ผลงานได้อย่างเหนียวแน่น

        ความยอดเยี่ยมของนายทวารทีมชาติเซเนกัล นั้น ทำให้ เชลซี ลงทุนจ่ายเงิน 22 ล้านปอนด์ คว้าตัวมาเฝ้าเสายังถิ่นแตมฟอร์ด บริดจ์ พร้อมกับมอบตำแหน่งมือ 1 ให้เขาแทนที่ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า โกล์ชาวสเปนที่ฟอร์มตกลงไป

        เมนดี้ ไม่ทำให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี ผิดหวัง หลังโชว์ฟอร์มเก็บคลีนชีตได้ 5 เกมติดต่อกันที่ลงเฝ้าเสา และมีสิทธิจะทำสถิติต่อไปเรื่อยๆ

4. จอร์แดน พิคฟอร์ด (ค่าตัว 30 ล้านปอนด์)

       พิคฟอร์ด ขึ้นแท่นเป็นผู้รักษาประตูชาวอังกฤษที่มีค่าตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์หลังย้ายจาก ซันเดอร์แลนด์ มาเฝ้าเสากับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อปี 2017 และจนถึงเวลานี้ โกล์วัย 26 ปี เฝ้าเสาในสีเสื้อ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ไปแล้วถึง 136 เกมรวมทุกรายการ

        แม้จะยึดตำแหน่งมือ 1 ของ เอฟเวอร์ตัน ถาวร แต่กับทีมชาติอังกฤษ พิคฟอร์ด ยังคงต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป หลังจากที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ “สิงโตคำราม” มักเลือกใช้ นิค โป๊ป และ ดัน เฮนเดอร์สัน สลับกันไป

3. เอแดร์สัน (ค่าตัว 34 ล้านปอนด์)

       เอแดร์สัน เป็นโกล์ในสไตล์ที่ เปป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามหามานานแล้ว จึงทำให้ยอมทุ่มเงินถึง 34 ล้านปอนด์ คว้าตัวมาจาก เบนฟิก้า พร้อมกับมอบตำแหน่งมือ 1 “เรือใบสีฟ้า” ให้ทันที

        นายด่านแซมบ้า พา แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย และลีก คัพ 3 สมัย โดยลงเฝ้าเสาไปรวมทุกรายการมากถึง 149 เกม

2. อลิสซอน เบ็คเกอร์ (ค่าตัว 66.8 ล้านปอนด์)

       อลิสซอน ได้รับการบันทึกสถิติว่า เป็นผู้รักษาประตูค่าตัวแพงที่สุดอันดับ 2 ของโลก และพรีเมียร์ลีก หลังย้ายจาก “หมาป่าเหลืองแดง” โรม่า มาเฝ้าเสากับ ลิเวอร์พูล ภายใต้การทำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ชาวเยอรมัน เมื่อปี 2018

        มือกาวทีมชาติบราซิล ถือเป็นหนึ่งในการทำธุรกิจที่ยอดเยี่ยมของ ลิเวอร์พูล และช่วยแก้ปัญหาเรื้อรังในตำแหน่งผู้รักษาประตูได้อย่างหมดจด โดยตลอด 2 ปีกับ “หงส์แดง” เขาพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซุเปอร์คัพ และแชมป์สโมสรโลก

1. เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (ค่าตัว 71 ล้านปอนด์)

       อาร์ริซาบาลาก้า ย้ายจาก แอธเลติก บิลเบา มาเฝ้าเสากับ เชลซี ในปี 2018 พร้อมกับความคาดหวังอย่างมหาศาลในการเข้ามารับบทบทผู้รักษาประตูมือ 1 ของพลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม”

       อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า นายด่านชาวสเปน ไม่สามารถปรับตัวกับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกได้ เขาโชว์ฟอร์มได้ไม่สม่ำเสมอเท่าที่ควร และมักจะมีจังหวะผิดพลาดจนนำไปสู่กายเสียประตูอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งโดนวิจารณ์เรื่องการเล่นอย่างหนัก

        ในเวลานี้ อาร์ริซาบาลาก้า ต้องตกเป็นตัวสำรองของ เอดูอาร์ด เมนดี้ โกล์ชาวเซเนกัล เรียบร้อยแล้ว และเขาต้องใช้เวลาเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่า เหมาะสมกับตำแหน่งมือ 1 ของ เชลซี

Photo: skysports.com