ในยุคโควิดที่ผู้คนทั่วโลกหันมาให้เวลากับโลกโซเชียลมากขึ้น ส่งผลให้การใช้บริการต่างๆ บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเติบโตขึ้นเป็นเงาตามตัว

ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง เฟซบุ๊ค อินสตาแกรม และยูทูป เป็นต้น แล้วเพื่อนๆ ทราบหรือไม่ว่าตอนนี้กำลังมีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอยู่หนึ่งตัวที่เติบโตแบบเงียบๆ แต่อยู่ๆ ก็มาแรงแบบแซงทางโค้งน่าจับตามองมากที่สุดในปีนี้ ซึ่งนั่นก็คือ TikTok สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นก็อาจจะไม่ทราบว่า TikTok คืออะไร จึงจะขออธิบายสั้นๆ โดยสรุปดังนี้

TikTok คือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการที่เป็นสมาชิก (สมัครฟรี) ได้มีโอกาสแชร์คลิปวิดีโอสั้นๆ ของตัวเอง แต่ละคลิปจะมีความยาวประมาณ 1 นาที จะเป็นคลิปอะไรก็ได้ ทำให้ส่วนมากแล้วคลิปที่ถูกแชร์ลงบน TikTok จะเป็นคลิปเพื่อความบันเทิงเสียเป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่ง ณ ตอนนี้ TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มนี้ก็ดังเปรี้ยงปร้างแบบฉุดไม่อยู่ แถมยังผู้ใช้ TikTok หลายรายสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากแพลตฟอร์มนี้

ด้วยเหตุนี้นักการตลาดระดับกูรูทั้งหลายจึงได้พากันเข้ามาวิเคราะห์ว่า แพลตฟอร์ม TikTok มีดีอย่างไร เพื่อจะได้เสนอแนะแนวทางให้ผู้สนใจได้ทราบว่าจะสามารถใช้ TikTok เป็นช่องทางสร้างโอกาสทางธุรกิจต่อไปได้อย่างไรบ้าง

TikTok เป็นเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลังมากในมุมมองของนักการตลาด

จากการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด พวกเขาได้พบว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลัง เพราะมันเปิดโอกาสให้ทุกคนเป็นคนดังได้โดยใช้เวลาไม่นาน  

แพลตฟอร์มนี้ได้เปิดตัวในประเทศจีนเป็นที่แรกตั้งแต่ปี 2016 แล้วคนไทยก็เริ่มได้ใช้มันในช่วงปี 2017 การใช้งานของแพลตฟอร์มนี้ก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน นั่นก็คือทุกคนสามารถแชร์คลิปสั้นๆ ของตัวเองที่มีความยาวสุดไม่เกิน 1 นาทีโดยประมาณ ทำให้ในช่วงแรกที่เปิดให้บริการนั้น คลิปส่วนใหญ่บน TikTok จะเป็นคลิปจะเป็นคลิปเพื่อความบันเทิง เช่น การร้อง การเต้น การโชว์ และการแสดงตลกต่างๆ ซึ่งเปิดโอกาสให้คนธรรมดาที่ไม่มีชื่อเสียงมาก่อนสามารถเป็นคนดังได้ในชั่วข้ามคืน

เพราะความยาวคลิปที่ไม่เกิน 1 นาทีนั้นถือว่าสั้นมากๆ จนสามารถทำให้ผู้ชมจดจ่อดูตั้งแต่ต้นจนจบได้ไม่ยาก และหากผู้ชมประทับใจก็จะกดไลค์และแชร์ต่อจนสามารถกลายเป็นไวรัลได้  นอกจากนี้ TikTok ยังดึงเอาจุดเด่นของแต่ละแพลตฟอร์มมารวมไว้ เช่น สามารถใส่ข้อความ ติด Hashtag ลงคลิปบนสั้นๆ นั้นได้ด้วย เพื่อช่วยให้คลิปที่น่าสนใจสามารถกลายเป็นไวรัลได้ง่ายขึ้นไปอีก

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้เพื่อนๆ คงพอจะเห็นได้แล้วว่า TikTok มันคือแพลตฟอร์มที่ใช้ “ปั้นดินให้เป็นดาว” ดีๆ นี่เอง เพราะใครๆ ก็สามารถสร้างความโดดเด่นให้ตัวเองได้ผ่านแพลตฟอร์มนี้ แล้วในเมื่อปุถุชนทั่วไปสามารถสร้างแบรนด์ให้กับตัวเองได้ผ่าน TikTok แล้วทำไมสินค้า ธุรกิจ กิจการ และองค์กรต่างๆ จะทำบ้างไม่ได้ล่ะ?  

ด้วยเหตุนี้ในระยะหลังๆ เราคงได้เห็นแล้วว่าบนแพลตฟอร์ม TikTok นั้นไม่ได้มีเพียงคลิปความบันเทิง แต่ได้เพิ่มเติมคอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้า ธุรกิจ และองค์กรต่างๆ ผ่านคลิปสั้นๆ กระชับ ได้ใจความ ความยาวไมเกิน 1 นาทีด้วย

ข้อดีของ TikTok ในประเทศไทยเมื่อเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ

ตามหลักการด้านจิตวิทยาที่เรียกว่า “Spotlight Effect” หรือที่กลายเป็นคำศัพท์ยอดฮิตในตอนนี้อย่างคำว่า “หิวแสง” คือสิ่งที่บ่งบอกว่า มนุษย์เราทุกคนต้องการจะเป็นที่สนใจของคนอื่นๆ เพราะมนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม ยิ่งได้รับความยอมรับเป็นที่รู้จักของสังคมมากเท่าไหร่ ย่อมทำให้มนุษย์เรารู้สึกอุ่นใจ มั่นคงในสังคมนั้นมากขึ้น

ตั้งแต่ที่คนไทยเริ่มเล่น TikTok มาตั้งแต่ปี 2017 มาจนถึงปัจจุบันก็ครบ 3 ปีเต็มแล้ว ดูเหมือนว่าความนิยมของแพลตฟอร์มนี้ในสังคมไทยมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น จากการสำรวจพบว่า TikTok ได้รับความนิยมในไทยติด 1 ใน 3 ของอาเซียน สาเหตุ TikTok เป็นที่นิยมในไทย และใครๆ ก็หันมาใช้ เพราะคนไทยเป็นชนชาติที่ขึ้นชื่อในเรื่องการแสวงหาความบันเทิง ยิ้มเก่ง หัวเราะเก่ง และดราม่าเก่ง แถมคนไทยยังใจร้อน ไม่ชอบเสพคอนเทนต์อะไรยาวๆ ทำให้ TikTok เป็นอะไรที่ถูกจริตคนไทยยิ่งนัก

นอกจากนี้ยังมีเหตุผลสำคัญดังที่ได้เกริ่นไปก่อนหน้าว่า คนเราทุกคนต้องการเป็นที่รู้จัก หรือพูดในทางการตลาดก็คือต้องการสร้างแบรนด์ให้ตัวเอง แล้วจะมีแพลตฟอร์มไหนที่เหมาะแก่การสร้างแบรนด์ในตัวเองเท่ากับ TikTok เล่า?

เราคงเห็นกันแล้วว่าแพลตฟอร์มโซเชียลอย่าง Facebook, IG, และ Line มีประโยชน์มากเมื่อใช้ขายของออนไลน์ โดยเฉพาะ Facebook ที่สามารถไลฟ์สดขายของได้ ส่วนการจะสร้างแบรนด์ให้ตัวเองผ่านแพลตฟอร์มเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็จะทำได้ดีกับเฉพาะคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก่อนแล้ว

หลักการใช้แพลตฟอร์ม TikTok ในการทำการตลาด

อธิบายมาซะยืดยาว ก็คงจะทำให้เพื่อนๆ รู้จัก TikTok กันมากขึ้นแล้วนะครับ และแล้วเราก็จะมาที่หัวข้อสุดท้ายซึ่งจะเป็นการเข้าประเด็นซักทีว่า TikTok สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจได้อย่างไร? ซึ่งเราสามารถแนะนำได้ดังต่อไปนี้

อย่างแรกเลยคือการใช้ทำคอนเทนต์บน TikTok เพื่อสร้างแบรนด์ให้กับสินค้า และธุรกิจของเรา เพราะอย่างที่บอกไปว่า TikTok นั้นมีลักษณะเป็นคอนเทนต์ที่เป็นคลิปสั้นๆ ไม่เกิน 1 นาที ดังนั้นไม่จึงไม่เหมาะที่เราจะมาทำคลิปปิดการขายผ่านแพลตฟอร์มนี้ แต่มันเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างแบรนด์ให้กับสินค่าและธุรกิจของเรา โดยในแต่ละคลิปในคุณควรจะเน้นให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณค่าที่สินค้าและบริการของคุณจะมอบให้ ส่วนรายละเอียดข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ ให้คุณแนะนำหรือลิงก์ผู้ชมไปที่แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ จงจำไว้ว่าให้ใช้ 1 นาทีนี้ให้เกิดคุณค่ากับแบรนด์มากที่สุด

ประการต่อมาก็คือ คอนเทนต์จะต้องมีความน่าสนใจ กระชับ ชัดถ้อยชัดคำ ใช้คำพูดที่เฉียบคม ไม่เยิ่นเย้อ เมื่อผู้คนได้ชมจบไปก็อยากที่จะดูซ้ำ หรือส่งต่อ หากคุณออกแบบคอนเทนต์โปรโมทสินค้าและธุรกิจของคุณได้ดี มันก็จะกลายเป็นไวรัลได้ไม่ยาก

และประการสุดท้ายก็คือต้องมีแหล่งข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ เพราะเมื่อคุณทำคลิปโปรโมทสร้างแบรนด์เพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าและบริการคุณจนทำเอาซะผู้ชมเคลิ้มแล้ว พวกเขาย่อมต้องการที่จะได้รับข้อมูลเพิ่มเติม หากคุณสามารถพาพวกเขาไปยังแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ของบริษัท วารสารวิชาการ รวมถึงสื่อโซเชียลอื่นๆ ที่สามารถให้ข้อมูลได้มากกว่านี้ ย่อมทำให้แบรนด์ได้รับความสนใจจากตลาดมากขึ้น ถือเป็นการใช้ TikTok เพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และมีโอกาสเพิ่มยอดขายให้กับกิจการของคุณได้ในอนาคต

และนี่ก็คือโอกาสทางธุรกิจที่สามารถสร้างได้ผ่าน TikTok ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ทุกคน หลังจากที่ได้อ่านจบไป หากใครสนใจแพลตฟอร์มนี้ก็เริ่มลองใช้กันได้เลย รับรองว่าคุณจะติดใจ ใช้แล้วแบรนด์ของคุณจะต้องปังขึ้นแน่ๆ และมันจะส่งผลให้ยอดขายของคุณเติบโตขึ้นในระยะยาวด้วย