ในโลกของมวยปล้ำฝั่งอเมริกาทุกคนคงรู้จัก ฮัลค์ โฮแกน (Hulk Hogan) แต่หากใครได้ดูมวยปล้ำในยุค 80-90 จะมีนักมวยปล้ำที่โดดเด่นที่สุด ทั้งรูปร่่างที่สวยงาม การปล้ำที่ร้อนแรง การแต่งตัวและทาสีที่หน้า แม้กระทั่งเพลงเปิดตัว นั่นคือ ดิ อัลติเมท วอร์ริเออร์ (The Ultimate Warrior)
ดิ อัลติเมท วอร์ริเออร์ (The Ultimate Warrior) มีชื่อจริงว่า เจมส์ บิเรียน เฮลล์วิก (James Brian Hellwig) เกิดวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 1959 โดยเขาเริ่มยกเวทตั้งแต่อายุ 11 ปีจนกระทั่งถูกชักชวนเข้าวงการในปี 1985 โดยเปิดตัวร่วมกับ สตีฟ เบอร์เดน หรือ สติง ในการปล้ำแบบแท็กทีมในชื่อ The Freedom Fighters โดยวอร์ริเออร์ใช้ชื่อว่า Justice และ สติงชื่อว่า Flash ในตอนนั้น เปิดตัวในสมาคม Continental Wrestling Association (CWA) และเปลี่ยนชื่อเป็น Blade Runners ลงปล้ำในสมาคม Universal Wrestling Federation (UWF) ในปี 1986 ก่อนแยกย้านกันไป
หลังจากนั้น วอร์ริเออร์เริ่มปล้ำเดี่ยวในสมาคม World Class Championship Wrestling (WCCW)ภายใต้ชื่อ Dingo Warrior ก่อนจะย้ายเข้าสู่ World Wrestling Federation (WWF)และเปลี่ยนชื่อเป็น The Ultimate Warrior
The Ultimate Warrior กลายเป็นขวัญใจของแฟนมวยปล้ำทั่วโลกในทันที ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวการทาสีหน้าสไตล์หน้ากาก กับรูปร่างนักเพาะกายระดับที่เคยได้แชมป์มา ประกอบกับการแต่งตัวด้วยสายรัดแขนที่ยิ่งเน้นกล้ามและดูเป็นนักรบตามชื่อ แถมด้วยฉากเปิดตัวที่สุดยอด เริ่มจากเพลงเปิดตัวจังหวะร็อค แล้ววอร์ริเออร์ก็วิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ขึ้นเวทีเขย่าเชือกสร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชมทั้งสนาม ส่วนการปล้ำก็เน้นความหนักหน่วงเน้นๆ แต่รวดเร็ว และท่าไม้ตาย “Ultimate Splash” ที่ใช้ร่ายกายทั้งตัวกระแทกไปบนคู่ต่อสู้ที่นอนแน่นิ่งอยู่ โดยก่อนใช้ท่าไม้ตายนี้จะต้องยกคู่ต่อสู้ขึ้นสุดแขนก่อนทิ้งลง (Gorilla Slam) แล้ววิ่งไปเด้งเชือก 2 รอบก่อนแล้วจะมากระโดดทับ ทำให้วอร์ริเออร์เป็นตัวแทนของนักมวยปล้ำทรงพลัง
วอร์ริเออร์คว้าแชมป์อินเตอร์ คอนติเนนทัล ด้วยการเอาชนะ ฮ็องกี้ ท็องค์ แมน (นักมวยปล้ำที่แต่งตัวเป็นเอลวิส) ด้วยเวลาเพียง 27 วินาทีในศึก Summmer Slam 1988 แต่แมตซ์ที่น่าจะจดจำที่สุดของ ดิ อัลติเมท วอร์ริเออร์ น่าจะเป็นการปะทะกับ ฮัลค์ โฮแกน ในศึก WrestleMania ครั้งที่ 6 ที่เป็นการนำซุปเปอร์สตาร์ฝ่ายธรรมะมาปะทะกันเองแบบแชมป์ชนแชมป์ และจบลงด้วยการเอาชนะ ฮัลค์ โฮแกน คว้าแชมป์โลก WWF ครั้งแรกและครั้งเดียว ร่วมกับ แชมป์อินเตอร์ คอนติเนนทัล เดิมก่อนสละไป
ทุกอย่างเหมือนจะสวยหรู แต่ วอร์ริเออร์ ดันไปมีปัญหาเบื้องหลังกับ วินซ์ แม็คแมน เมื่อเขาถูกตรวจพบว่าใช้สารกระตุ้นประเภทสเตียร์รอยด์ ทำให้โดนแบนทันทีในปี 1992 จากนั้น ดิ อัลติเมท วอร์ริเออร์ รีเทิร์นสู่ WWE อีกครั้งปี 1996 แล้วสักพักก็ทะเลาะกันอีก โดยคราวนี้ ป๋าวินซ์สั่งยกเลิกสัญญาเขาทันที หลังจากไม่ยอมโผล่หน้ามาปล้ำมันดื้อๆ หลายครั้ง โดยอ้างว่าต้องไปช่วยงานศพพ่อ แต่ภายหลัง วอร์ริเออร์ ก็เผยว่าจริงๆ แล้วเหตุผลที่ไม่ยอมปล้ำเป็นเพราะ WWE ไม่ยอมทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเขาเรื่องการแบ่งเปอร์เซ็นต์จากการขายสินค้าต่างหาก
วอร์ริเออร์ ย้ายไป WCW ในปี 1998 ถ้ายังจำกันได้คือจู่ๆ ไฟก็ดับ พร้อมมีควันปริศนาพวยพุ่งออกมามากมาย ดิ อัลติเมท ค่อยๆ เดินเปิดตัวออกมา อารมณ์เหมือนตอนที่ สติง มาเปิดตัวที่ WWE ครั้งแรกยังไงยังงั้น ก่อนไปขัดจังหวะโจทย์เก่า โฮแกน ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้นำของกลุ่ม NWO ทำเอาลุงฮัลค์หน้าซีดไปเลย แต่โดยรวมถือว่าค่อนข้างล้มเหลว เพราะเขาได้ปล้ำแค่ไม่กี่นัด และในที่สุดก็รีไทร์และเงียบหายไป
จนกระทั่งเขาได้รับเกียรติเข้าสู่หอเกียรติยศของ WWE (ชื่อปัจจุบันของ WWF เดิม) และได้ปรากฎตัวใน WrestleMania ครั้งที่ 30 วันที่ 6 เมษายน 2014 และได้ปรากฏใน RAW ในรอบ 18 ปีของเขา ก่อนที่จะมาเสียชีวิตไปอย่างกระทันหันด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลันเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2014 ในวัย 54 ปี
จนถึงทุกวันนี้สำหรับผม ดิ อัลติเมท วอร์ริเออร์ ยังคงเป็นน่าตื่นเต้นที่สุด แค่เสียงกลองนำมาก็มันส์แล้วครับ
ข้อมูลจาก wikipedia.org , WWE
