ช่วงนี้พรีเมียร์ลีกเตะกันถี่ยิบ เรียกว่าไม่เว้นวันเลยก็ว่าได้ โดยเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา ก็เกิดการซัดระเบิดระเบ้อ เหมายิง 4 ลูกของ “มิคาเอล อันโตนิโอ” ในเกมที่เวสต์แฮมบุกไปถล่มนอริช 4-0 ส่งผลให้ “เจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อน” ต้องบินกลับแชมป์เปียนชิพ หลังขึ้นมาได้แค่ซีซันเดียว
(Source : The Sun)
พอเห็นการยิงรัว 4 ประตู ที่ไม่ได้เกิดกันบ่อยๆ เลยต้องขอย้อนดูหน่อย ว่าพอเข้ายุคพรีเมียร์ลีกมาแล้ว มีสถิติแฮททริคอะไรบ้างที่น่าสนใจ ครั้งไหนน่าจดจำ ให้หวนไปคิดถึงการถล่มประตูแบบเป็นชุดแบบนี้กันบ้าง
เจ้าแห่งแฮททริค
พรีเมียร์ลีกมีดาวยิงชื่อดังมากมาย ที่เคยแวะเวียนมากระหน่ำประตูให้ตื่นตาตื่นใจ โดยมีนักเตะมากถึง 59 ราย ที่เคยยิงแฮททริคในพรีเมียร์ลีกมากกว่า 1 ครั้ง โดยเจ้าของการทำแฮททริคสูงสุด ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ “แซร์โจ้ อเกวโร่” นั่นเอง
(Source : talkSPORT)
“กุน” ขึ้นมาครองสถิติทำแฮททริคมากครั้งที่สุด แซงหน้า “อลัน เชียร์เรอร์” ในแมทช์ที่แมนฯ ซิตี้ บุกไปถล่มวิลล่า 6-1 เมื่อเดือน ม.ค. ปีนี้เอง ทำให้เขาทำไปแล้ว 12 แฮททริค แซงหน้าศูนย์หน้าตำนานของนิวคาสเซิล ที่ทำไว้ 11 ครั้ง
รองลงมายังมีศูนย์หน้าชื่อก้องอีกหลายราย ที่ระเบิดแฮททริคได้หลายหน “ร็อบบี้ ฟาวเลอร์” ทำไป 9 ครั้ง ส่วน “เธียร์รี อองรี”, “แฮร์รี เคน” และ “ไมเคิล โอเว่น” ทำไป 8 ครั้ง ส่วน “เวย์น รูนีย์” ซึ่งปัจจุบันยังค้าแข้งอยู่กับดาร์บี้ ทำไปแล้ว 7 แฮททริค
(Source : Twitter)
โดย “เบบี้โกล์” ไมเคิล โอเว่น ทำสถิติยิงแฮททริคได้ตอนอายุน้อยที่สุด ด้วยวัยเพียง 18 ปี กับ 62 วัน ในแมทช์ที่ลิเวอร์พูล เสมอเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ 3-3
ยิงจนเมื่อย 5 เม็ดในแมทช์เดียว
การยิง 4 ประตูในนัดเดียวของอันโตนิโอ ดูจะเกิดขึ้นได้ยากแล้ว แต่ยังมีการระเบิดประตูรวดเดียว 5 เม็ดในแมทช์เดียวเกิดขึ้นถึง 4 ครั้งในยุคของพรีเมียร์ลีก
(Source : The Sportsman)
ครั้งแรกที่มีเหตุการณ์ยิง 5 เม็ดในนัดเดียว เป็นของ “แอนดี้ โคล” หนึ่งในศูนย์หน้าที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดย “คิงโคล” ทำมันได้ในแมทช์ที่ “ปีศาจแดง” ถล่มอิปสวิช 9-0 ในปี 1995 โดยเป็น “เพอร์เฟ็ค แฮททริค” หรือยิงได้ทั้งเท้าซ้าย, เท้าขวา และลูกโหม่ง อีกต่างหาก
ถัดจากนั้น มหกรรมถล่มประตู 5 เม็ด ก็ทำได้โดย “อลัน เชียร์เรอร์” ในนัดที่นิวคาสเซิล ระเบิดบอมบ์ใส่เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ 8-0 ในปี 1999 และต้องรออีก 10 ปีให้หลัง กว่าจะมีคนทำได้อีก โดยเป็น “เจอร์เมน เดโฟ” สมัยค้าแข้งอยู่กับสเปอร์ ในนัดที่ “ไก่เดือยทอง” ถล่มวีแกน ยับเยิน 9-1
(Source : Evening Standard)
ยุคหลังปี 2000 มี 2 รายที่ทำ 5 เม็ดในแมทช์เดียว คนแรกคือ “ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ” กองหน้าเชิงสูงบัลแกเรีย ที่ยิงได้ในแมทช์แมนฯ ยู ถล่มแบล็คเบิร์น 7-1 ตอนปี 2010 และยอดดาวยิงในปัจจุบัน “แซร์โจ้ อเกวโร่” ในนัดแมนฯ ซิตี้ ชนะนิวคาสเซิล 6-1 เมื่อปี 2015
ยิงรัว 4 ลูกในแมทช์เดียว
ผลงานการถล่มประตูในนัดล่าสุดใส่นอริชของ “มิคาเอล อันโตนิโอ” ถือเป็นการยิง 4 ประตูในนัดเดียว ครั้งที่ 31 ของพรีเมียร์ลีก โดยนับตั้งแต่ “เอฟาน เอโกกู” เบิกร่องสมาคมคนยิง 4 ลูก ให้นอริชได้ตั้งแต่ปี 1993 นับจากนั้นมีการยิงกระหน่ำที่น่าสนใจมากมาย
(Source : Sports Mole)
ยกตัวอย่าง ก็มีการเหมายิงคนเดียวในชัยชนะของลีดส์ต่อลิเวอร์พูล 4-3 ของ “มาร์ค วิดูก้า” กองหน้าออสเตรเลีย, การยิงถึง 4 เม็ดของ “อังเดร อาชาวิน” ใส่ลิเวอรืพูลอีกแล้ว แต่สกอร์จบเสมอ 4-4 หรือ การยิงใส่นอริช 4 ลูก ของ “จอร์จินิโอ้ ไวจ์นาดุม” ห้องเครื่องดัทช์ ตั้งแต่สมัยเล่นให้นิวคาสเซิล
ในบรรดาการยิงนัดเดียว 4 ลูก มีนักเตะหลายคนที่สามารถทำมันได้มากกว่า 1 ครั้ง พวกที่อยู่ในลิสต์ได้แก่ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, ไมเคิล โอเว่น, โอเล่ กุนนาร์ โซลชา, ยาคูบู, แฟรงค์ แลมพาร์ด, แซร์โจ้ อเกวโร่
(Source : Premier League)
โดยนอกจากกุนซือคนปัจจุบันของ “ปีศาจแดง” อย่าง “โอเล่ กุนนาร์ โซลชา” จะยิงรัวเป็นชุด 4 เม็ดได้ 2 หนแล้ว หนนึงยังเป็นประวัติศาสตร์ เมื่อเขาลุกขึ้นมาจากม้านั่งสำรองนาทีที่ 72 และยิงทั้งหมด 4 ลูก ด้วยระยะเวลาห่างเพียง 12 นาทีท้ายเกม โดยเกมวันนั้น ยูไนเต็ดถล่มน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ยับเยิน 8-1
เรื่องน่าจดจำของแฮททริค
ถึงการยิง 3 ลูกในนัดเดียวกัน จะไม่สามารถเอามาพูดได้ไหว เพราะมีจำนวนมากมายเหลือเกิน ตลอดเวลาเกือบ 30 ปี ที่ลีกสูงสุดเปลี่ยนชื่อ และระบบมาเป็น “พรีเมียร์ลีก” แต่ก็มีแฮททริคหลายครั้งที่โดดเด่น น่าจดจำ
(Source : Leeds Live)
แฮททริคแรกในยุคของพรีเมียร์ลีก ยิงได้โดย “เอริค คันโตน่า” ตั้งแต่สมัยค้าแข้งให้ลีดส์ ในนัดถล่มสเปอร์ 5-0 ส่วน “เพอร์เฟ็ค แฮททริค” หรือยิงครบด้วยเท้า 2 ข้าง และลูกโหม่ง ครั้งแรก เป็นของ “มาร์ค โรบินส์” ศูนย์หน้าของนอริช ในปีเดียวกัน 1992
ยิงแฮททริคได้ แต่ทีมกลับต้องพ่ายแพ้ ก็มีให้เห็นกันถึง 5 หน และที่ดันเกิดขึ้นกับ “แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์” พ่อมดลูกหนังของเซาธ์แธมป์ตัน ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ในแมทช์ที่ “นักบุญ” พ่ายโอลด์แฮม 3-4 ในปี 1993 และพ่ายฟอเรสต์ด้วยสกอร์เดียวกัน ในปี 1995
(Source : The Guardian)
แฮททริคที่ลุกมาจากม้านั่งสำรอง ก็มีนอกเหนือจากโซลชา ก็มีให้ได้เห็นกันหลายครั้ง อย่างเช่น “โรเมลู ลูกากู” สมัยที่ถูกยืมตัวไปอยู่เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในนัดส่งท้ายการคุมทีมของ “เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” ซึ่งสกอร์จบมโหฬาร 5-5 โดย 3 ประตูที่ “บิ๊กรอม” ทำในวันนั้น เป็นเพอร์เฟ็ค แฮททริคเสียด้วย
ส่วนแฮททริคที่รวดเร็วที่สุด เป็นของ “ซาดิโอ มาเน่” ในปี 2015 สมัยยังอยู่กับเซาธ์แธมป์ตัน โดยดาวเตะชาวเซเนกัล ใช้เวลายิง 3 เม็ดใส่วิลล่า ด้วยระยะเวลาเพียงแค่ 2 นาที 56 วินาที เท่านั้น
(Source : Southern Daily Echo)
สัญชาติจอมถล่มประตู
ถ้านับกันเป็นทวีป “ชินจิ คากาวะ” สร้างสถิติเป็นนักเตะเอเชียคนแรกที่ยิงแฮททริคในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่แมนฯ ยู ชนะนอริช 4-0 ส่วนนักเตะแอฟริกันคนแรก ก็คือ “เอฟาน อีโกกู” กองหน้าไนจีเรีย ที่เป็นคนยิง 4 ลูกในเกมเดียว ได้เป็นคนแรกของพรีเมียร์ลีกนั่นแหละ
(Source : Who Ate all the Pies)
ส่วนสัญชาติที่ยิงแฮททริคมากที่สุด หากไม่นับอังกฤษที่มาอันดับ 1 ชัวร์อยู่แล้ว อันดับ 2 ตีคู่กันมามี 2 ชาติ อาร์เจนติน่าและฮอลแลนด์ ที่ต่างทำได้ทั้งสิ้น 18 ครั้ง
“แซร์โจ้ อเกวโร่” รับเหมาคนเดียว 12 หน โดยมี “คาร์ลอส เตเบซ” มาช่วย 4 ครั้ง และอีก 2 ครั้งเป็นของ “แม็กซี่ โรดริเกซ” ที่ยิงแฮททริคให้ลิเวอร์พูล ติดต่อกัน 2 เดือน เม.ย.-พ.ค. ปี 2011
(Source : Sky Sports)
ฝั่งดัทช์ ยิงแฮททริคได้ทั้งหมด 7 ราย นำมาโดย “รุด ฟาน นิสเตลรอย” และ “โรบิน ฟาน เพอร์ซี” คนละ 5 หน และ “จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์” 4 หน ส่วนคนละหนมีชื่อของ เดนนิส เบิร์กแคมป์, มาร์ค โอเวอร์มาร์ส, เดิร์ค เคาท์ และจินี่ ไวจ์นาดุม
(Source : Pinterest)
เชื้อชาติรองลงมา ที่เด่นๆ ก็เป็นฝรั่งเศส (17 ครั้ง), สเปน (11 ครั้ง), นอร์เวย์ (9 ครั้ง) โดยในบรรดาลิสต์สัญชาติที่กระหน่ำแฮททริคได้ มีชาติแปลกๆ อย่างซิมบับเว, ดีอาร์ คองโก, เวเนซูเอล่า หรือคอสตาริก้า รวมอยู่ด้วย
Picture : Sports-nova, Daily Star, Reddit, The Sun, talkSPORT, Twitter, The Sportsman, Evening Standard, Sports Mole, Premier League, Leeds Live, The Guardian, Southern Daily Echo, Who Ate all the Pies, Sky Sports, Pinterest
