กองหน้า หรือตัวรุกต่างชาติที่จะมาแจ้งเกิดในการแข่งขันที่ขึ้นชื่อว่า ยาก และโหดสุดๆอย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มันไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน เพราะนอกจากต้องเจอเกมที่รวดเร็วจนแทบไม่ได้พักหายใจแล้ว พวกเขายังต้องเจอกับบรรดาแนวรับที่พร้อมเข้าเสียบถึงลูกถึงคนแทบตลอดทั้งเกม

        อย่างไรก็ตาม 10 สุดยอดผู้เล่นเหล่านี้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า สามารถรับมือกับการเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้อย่างสบาย แถมยังมีชื่อติดทำเนียบแข้งที่ทำประตูสูงสุดตลอดกาลอีกด้วย 

10. ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา

       อดีตดาวยิงทีมชาติไอโวรี่ โคสต์ เคยค้าแข้งกับ เชลซี ถึง 2 ครั้ง โดยช่วงแรกในระหว่างปี 2004-2012 และช่วงที่ 2 ในระหว่างปี 2014-2015 ซึ่ง ดร็อกบา ระเบิดตาข่ายให้กับพลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม” รวมถึง 104 ประตู จาก 254 เกมในลีก

        นอกจากนี้ ดร็อกบา ยังถือเป็นตำนานแห่งถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ที่สาวก “สิงห์บลู” ชื่นชอบอย่างมาก ทั้งจากสไตล์การเล่นที่สุดมันส์ของเจ้าตัว และการพาทีมประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, เอฟเอ คัพ 4 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย

9. ไรอัน กิ๊กส์

       หนึ่งในนักเตะคู่บุญของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และหนึ่งในวัน แมน คลับ แห่งวงการฟุตบอล กิ๊กส์ ค้าแข้งกับ “ปีศาจแดง” นานถึง 24 ฤดูกาล พร้อมกับฝากผลงานซัดไป 109 ประตู จาก 632 เกมในลีก

        นอกจากแฟนบอล แมนฯยูไนเต็ด แล้ว เชื่อได้ว่า คอบอลเมืองผู้ดีหลายคนยังคงจดจำลีลาพริ้วไหวในการทำเกมริมเส้นของ ปีกชาวเวลส์ ได้เป็นอย่างดี และหลังจากแขวนสตั๊ดไปเมื่อปี 2014 กิ๊กส์ยังเคยได้รับโอกาสสำคัญในชีวิตด้วยการเป็นกุนซือขัดตาทัพของ “ปีศาจแดง” อีกด้วย

        ปัจจุบัน กิ๊กส์ วัย 46 ปี กำลังทำหน้าที่ผู้จัดการทีมชาติเวลส์ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการพาทัพ “มังกรแดง” ไปเล่นในศึกยูโร 2020 รอบสุดท้ายได้สำเร็จ

8. โรเมลู ลูกากู

       ลูกากู เล่นในพรีเมียร์ลีกมานานแล้วหลังย้ายจาก อันเดอร์เลชท์ มาเล่นกับ เชลซี เมื่อปี 2011 แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ประสบความสำเร็จกับ “สิงโตน้ำเงินคราม”  จนถูกปล่อยให้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน และ เอฟเวอร์ตัน ยืมตัวไปใช้งาน

        ในปี 2014 กองหน้าทีมชาติเบลเยียม ย้ายไปเล่นกับ เอฟเวอร์ตัน ก่อนที่เขาจะแจ้งเกิดกับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ได้อย่างสุดยอด จากนั้น ในปี 2017 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุ่มเงินถึง 75 ล้านปอนด์ คว้าตัวเขาไปล่าตาข่าย

        ศูนย์หน้าวัย 27 ปี ไม่ประสบความสำเร็จนักกับ แมนฯยูไนเต็ด และโดนขายให้กับ อินเตอร์ มิลาน เมื่อซัมเมอร์ปี 2019 แต่ก่อนที่เขาจะโยกมาเล่นในอิตาลี ลูกากู ก็ฝากผลงานในเมืองผู้ดีไว้ด้วยการซัดไป 113 ประตู จาก 252 เกม

7. ดไวค์ ยอร์ค

       เครื่องจักรถล่มประตูชาวตรินิแดด และโตเบโก เป็นหนึ่งในกองหน้าอมตะของศึกพรีเมียร์ลีกเลยก็ว่าได้ เขาโด่งดังขึ้นมากับ แอสตัน วิลล่า ในปี 1990-1998 ก่อนจะย้ายมากวาดแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1998-2002

        หลังอำลาถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ยอร์ค ก็ย้ายไปเล่นกับ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส, เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ก่อนโยกไปเล่นกับ ซิดนีย์ เอฟซี ในออสเตรเลีย และย้ายกลับมาเล่นในอังกฤษอีกครั้งในช่วงปลายอาชีพกับ ซันเดอร์แลนด์

        ตลอดเส้นทางอาชีพของ ยอร์ค ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีนั้น เขาระเบิดตาข่ายไป 123 ประตู จาก 375 เกมที่ลงสนาม

6. นิโกล่าส์ อเนลก้า

       หนึ่งในนักเตะจอมพเนจรแห่งวงการฟุตบอล อเนลก้า แจ้งเกิดกับ อาร์เซน่อล ในปี 1997 ภายใต้การคุมทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานกุนซือ “ไอ้ปืนใหญ่” จากนั้น เจ้าตัวก็ย้ายไปเล่นกับ เรอัล มาดริด ในปี 1999 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ

       หัวหอกเฟรนช์แมน อำลา มาดริด กลับมาเล่นในอังกฤษอีกครั้งกับ ลิเวอร์พูล 2001 ต่อด้วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2002-2005 ก่อนย้ายไปเล่นกับ เฟร์เนห์บาร์เช่ 1 ปี และกลับมาเล่นเมืองผู้ดีกับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส และ เชลซี

       นอกจากนี้ อเนลก้า ยังเคยโยกไปเล่นในจีนมาแล้วกับ เซี้ยงไฮ้ เสิ่นหัว และกลับมาเล่นกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เป็นสโมสรสุดท้ายในอังกฤษพร้อมฝากสถิติซัดไป 125 ประตู จาก 364 เกม

5. ร็อบบี้ คีน

       คีน เป็นอีกหนึ่งดาวยิงที่อยู่คู่กับวงการฟุตบอลเมืองผู้ดีมาอย่างยาวนาน เขาแจ้งเกิดกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ก่อนจะย้ายไป โคเวนทรี จากนั้น ข้ามฝากปปเล่นในอิตาลีกับ อินเตอร์ มิลาน และกลับมาเล่นกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด, ท็อตแนม ฮอทสเปอร์, ลิเวอร์พูล และ สเปอร์ส อีกครั้ง

        หลังอำลา สเปอร์ส ในปี 2011 ไปเล่นกับ แอลเอ แกแล็คซี่ ในศึกเมเจอร์ลีกสหรัฐฯ อดีตกองหน้าทีมชาติไอร์แลนด์ หวนกลับมาเล่นในอังกฤษอีกครั้งด้วยสัญญายืมตัวระยะสั้นกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยตลอดอาชีพของ คีน นั้น ซัดไป 126 ประตู จาก 349 เกมในพรีเมียร์ลีก  

4. จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์

       สำหรับ ฮัสเซลเบงค์ เรียกได้ว่า เป็นยอดเพชฌฆาตของต้นสังกัดในอังกฤษที่เขาเล่นเลยก็ว่าได้ไล่ตั้งแต่ ลีดส์ ยูไนเต็ด, เชลซี, มิดเดิ้ลสโบรช์ และ ชาร์ลตัน แอธเลติก โดยหัวหอกดัตช์ ซัดไป 127 ลูก จาก 288 เกมในพรีเมียร์ลีก

        อดีตกองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ มีวิญญาณนักล่าตาข่ายโดยธรรมชาติ เขาหาพื้นที่ได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถยิงประตูได้ทุกจังหวะ และลูกยิงแต่ละลูกของเขานั้นหนักหน่วงจนนายทวารคู่แข่งแทบจะหมดสิทธิป้องกันเลยทีเดียว

3. โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์

       ฟาน เพอร์ซีย์ เล่นในพรีเมียร์ลีกให้กับ 2 สโมสร ก็คือ อาร์เซน่อล ที่ปลุกปั้นเขามา และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรที่ทำให้เขาได้สัมผัสกับแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 1 สมัย และเจ้าตัวก็ถือเป็นนักเตะที่ได้เล่นให้กับสุดยอด 2 กุนซือของโลกอย่าง อาร์แซน เวนเกอร์ กับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาแล้ว

       ดาวยิงชาวฮอลแลนด์ เป็นกองหน้าที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่งของวงการฟุตบอล เขามีครบทั้งเทคนิค, พรสวรรค์, ความเฉียบคม และยังมีทีเด็ดจากฟรีคิกอีกด้วย ซึ่งเชื่อได้ว่าทั้งแฟนบอลของ “ไอ้ปืนใหญ่” และ “ปีศาจแดง” ต่างจดจำฝีเท้าอันยอดเยี่ยมของ  ฟาน เพอร์ซีย์ ได้เป็นอย่างดี

2. เธียร์รี่ อองรี 

       ตำนานตลอดกาลของ อาร์เซน่อล อองรี ย้ายจาก ยูเวนตุส มาเล่นกับทัพ “เดอะ กันเนอร์ส” เมื่อปี 1999 ซึ่งในช่วงแรกเขาเล่นเป็นปีกซ้าย ก่อนที่ อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตโค้ช “ไอ้ปืนใหญ่” จะขยับเขาไปเล่นเป็นกองหน้า และระเบิดสกอร์อย่างถล่มทลาย

        ในช่วงพีคนั้น อองรี ถือเป็นดาวยิงที่ไม่มีกองหลังคนใดในพรีเมียร์ลีกอยากดวลด้วยอย่างแน่นอน เขาเป็นเหมือนนักมายากลที่สามารถสร้างทุกสิ่งทุกอย่างได้ด้วยตัวเองแถมยังมีลีลาการเล่นที่ยั่วโมโหอีกด้วย

อดีตดาวยิงทีมฝรั่งเศส ค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล เพียงสโมสรเดียวในพรีเมียร์ลีก แต่แบ่งเป็น 2 ห้วง ซึ่งผลรวมสกอร์ของ อองรี กับ “ไอ้ปืนใหญ่” นั้น อยู่ที่ 175 ประตู จาก 258 เกม 

1. เซอร์จิโอ อเกวโร่

       หากย้อนกลับไปในปี 2011 ที่ อเกวโร่ ย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด มาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้น คงไม่มีแฟนบอลพรีเมียร์ลีกคนใดจะเชื่อว่า เขาจำกลายมาเป็นนักเตะชาวต่างชาติที่ทำสถิติยิงประตูได้มากที่สุดในเมืองผู้ดี

        ปัจจุบัน หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์วัย 32 ปี ซึ่งซัดไปแล้ว 160 ประตู จาก 263 เกมในลีก ยังคงเป็นกำลังหลักในเกมรุกของ แมนฯ ซิตี้ ภายใต้การคุมทัพของ เปป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ชาวสเปน และความยอดเยี่ยมของ อเกวโร่ นั้น คงจะสร้างสถิติของตัวเองต่อไปเรื่อยๆ

Photo – skysports.com, planetfootball.com, goal.com,strettynews.com, football.london, sports.bwin.com, caughtoffside.com