ในอดีตจนถึงปัจจุบันศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีนักเตะมากหน้าหลายตาจากทั่วทุกมุมโลกแวะเวียนกันมาค้าแข้งอย่างไม่ขาดสาย โดยผู้เล่นบางคนมีค่าตัวแพงมหาศาลเป็นสถิติโลก และบางคนอาจมีค่าตัวเพียงน้อยนิดจนถูกมองข้ามไป  

อย่างไรก็ตาม หากมองจากผลงาน และความสำเร็จนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า 10 ผู้เล่นค่าตัวถูกเหล่านี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พวกเขาเป็นการเซ็นสัญญาที่คุ้มค้าที่สุดของต้นสังกัดตัวเอง และได้รับการยกย่องว่า เป็นการซื้อตัวที่ดีที่สุดตลอดกาลของลีกสูงสุดเมืองผู้ดี

10. โอเล่ กุนาร์ โซลชา (โมลด์ ย้ายมายัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

ผู้จัดการทีมคนปัจจุบันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งกำลังกุมบังเหียนในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เข้าสู่ปีที่ 2 ถูกคว้าตัวจาก โมลด์ มาร่วมทัพ “ปีศาจแดง” เมื่อปี 1996 ด้วยค่าตัวเพียง 1.5 ล้านปอนด์ โดยดาวยิงชาวนอร์เวย์ ได้พิสูจน์แล้วว่า เขาเป็นหนึ่งในศูนย์หน้าที่ดีที่สุดในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี

โซลชา ค้าแข้งกับ แมนฯยูไนเต็ด นานถึง 11 ฤดูกาล ซัดไป 126 ประตู จาก 366 เกมรวมทุกรายการ พร้อมกับคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย

9. ซามี่ ฮูเปีย (วิลเล่ม ทเว ย้ายมายัง ลิเวอร์พูล)

หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ เชราร์ อุลลิเยร์ อดีตกุนซือ ลิเวอร์พูล ผู้คว้าตัว ฮูเปีย มาจาก วิลเล่ม ทเว ด้วยค่าตัวเพียง 2.6 ล้านปอนด์ เมื่อปี 1999 หลังจากนั้น ปราการหลังชาวฟินแลนด์ ได้กลายเป็นหัวใจในแนวรับ “หงส์แดง” ทันที   

ฮูเปีย เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่เยือกเย็น อ่านเกมเด็ดขาด เล่นลูกโด่งได้ยอดเยี่ยม และมีความสม่ำเสมออย่างมาก ซึ่งเจ้าตัวยืนระยะเป็นผู้บัญชาการเกมรับของ ลิเวอร์พูล มานานถึง 10 ปีเต็ม พร้อมกับพา “หงส์แดง” คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า คัพ 1 สมัย และยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ 1 สมัย

8. เดเล่ อัลลี่ (มิลตัน คีย์น ดอนส์ มายัง ท็อตแนม ฮอทสเปอร์) 2015 (5m)

อัลลี่ ลงสนามให้กับ สเปอร์ส ไปรวมทุกรายการเกิน 200 เกม และซัดไปถึง 62 ประตู หลังย้ายจาก มิลตัน คีย์น ดอนส์ มาเมื่อปี 2015 ด้วยค่าตัวเพียง 5 ล้านปอนด์ มันเป็นสถิติที่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่งกับนักเตะในตำแหน่งมิดฟิลด์

ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ เล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก เขาสามารถพาตัวเองเข้าไปอยู่ในกรอบเขตโทษคู่แข่งเพื่อลุ้นประตูได้อยู่เสมอ และในวัย 24 ปี อัลลี่ ยังสามารถพัฒนาตัวเองได้มากกว่านี้อีกก่อนที่เขาจะเข้าสู่จุดพีคของอาชีพนักฟุตบอล

7. เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ (ฟูแล่ม ย้ายมายัง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด) 2005 (£ 2m)

ในปี 2001 ฟูแล่ม ที่กำลังเลื่อนชั้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีก สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับวงการฟุตบอลอังกฤษด้วยการคว้าตัว ฟาน เดอร์ ซาร์ ซึ่งในเวลานั้น ถือเป็นโกล์ระดับท็อปมาจาก ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ และอีก 4 ปีต่อมา แมนฯยูไนเต็ด ทำธุรกิจที่สุดคุ้มค่าด้วยการจ่ายเงิน 2 ล้านปอนด์ คว้าตัวนายทวารชาวดัตช์ มาเฝ้าเสาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด

ฟาน เดอร์ ซาร์ อุดช่องว่างในตำแหน่งผู้รักษาประตูของ แมนฯยูไนเต็ด ที่ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ทิ้งไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, ลีก คัพ 1 สมัย, และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย พร้อมกับมำสถิติไม่เสียประตูนานถึง 1,311 นาที ในฤดูกาล 2008/09

6. ปาทริค วิเอร่า (เอซี มิลาน ย้ายมายัง อาร์เซน่อล)

สายตาอันเฉียบแหลมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานกุนซือ อาร์เซน่อล ทำให้เขาจ่ายเงิน 3.5 ล้านปอนด์ คว้าตัว วิเอร่า ในวัย 20 ปี มาจาก มิลาน ในปี 1996 พร้อมกับปลุกปั้น กองกลางชาวฝรั่งเศส จนกลายเป็นแข้งระดับโลกในเวลาต่อมา

วิเอร่า มีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการในฐานะมิดฟิลด์ ไม่ว่าจะเป็น เกมรุก เกมรับ วิสัยทัศน์ เทคนิค ความแข็งแกร่ง และความเป็นผู้นำในสนาม โดยดาวเตะเฟรนช์แมน คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย และแชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย ก่อนจะย้ายไปยัง ยูเวนตุส ในปี 2005 ด้วยค่าตัว 13.5 ล้านปอนด์

5. นิโกลาส์ อเนลก้า (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ย้ายมายัง อาร์เซน่อล)

       อีกหนึ่งในสุดยอดการทำธุรกิจของ อาร์แซน เวนเกอร์ เงินค่าตัว 500,000 ปอนด์ ที่เขาซื้อ อเนลก้า มาจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในปี 1997 นั้น ถูกเปลี่ยนเป็นกำไรก้อนโต 22.3 ล้านปอนด์ ในอีก 2 ต่อมาด้วยการขาย หัวหอกชาวฝรั่งเศส ให้กับ เรอัล มาดริด

ช่วงเวลาของ อเนลก้า กับ อาร์เซน่อล นั้น น่าประทับใจอย่างยิ่ง เขาเข้ามาเป็นตัวแทนของ เอียน ไรท์ ตำนานดาวยิง “ไอ้ปืนใหญ่” ที่ย้ายออกไปได้อย่างไม่มีที่ติ พร้อมกับคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย และเอฟเอ คัพ 1 สมัย

4. ลูคัส ราเดเบ้ (ไกเซอร์ ชีฟส์ ย้ายมายัง ลีดส์ ยูไนเต็ด)

สุดยอดตำนานแห่งถิ่นแอลแลนด์ โรส ราเดเบ้ ย้ายจาก ไกเซอร์ ชีฟส์ มายัง ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวเพียง 50,000 ปอนด์ ในปี 1994 จากนั้น เขาสถาปนาตัวเองกลายเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับของพลพรรค “ยูงทอง” มาตลอดเวลา 11 ฤดูกาล

กองหลังชาวแอฟริกาใต้ ลงเล่นให้กับ ลีดส์ รวมทุกรายการไปมากถึง 256 ซัดไป 3 ประตู พร้อมกับโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งตลอดอาชีพของเขา

3. เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (ก็อง ย้ายมายัง เลสเตอร์ ซิตี้)

ไม่มีวี่แววเลยว่า ก็องเต้ จะกลายเป็นแข้งระดับโลกอย่างทุกวันนี้ หลังจากที่เขาย้ายจาก ก็อง มาร่วมทีม เลสเตอร์ ในปี 2015 ด้วยค่าตัว 5.6 ล้านปอนด์ พร้อมกับออกสตาร์ทในพรีเมียร์ลีกด้วยการเป็นตัวสำรองใน 3 เกมแรก

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง มิดฟิลด์ชางฝรั่งเศส กลายเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของ เลสเตอร์ ทันที และถือเป็นหนึ่งในขุนพลหลักที่พาพลพรรค “สุนัขจิ้งจอก” สร้างสิ่งมหัศจรรย์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จในซีซั่นดังกล่าว

2. โซล แคมป์เบลล์ (ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ ย้ายมายัง อาร์เซน่อล)

หนึ่งในการย้ายสังกัดที่ทำให้แฟนบอล สเปอร์ส โกรธแค้นมาจนถึงทุกวันนี้ แคมป์เบลล์ ย้ายจาก “ไก่เดือยทอง” ไปเล่นกับ อาร์เซน่อล คู่ปรับตลอดกาลในปี 2002 แบบไร้ค่าตัว พร้อมกับสถาปนาตัวเองกลายเป็นผู้บัญชาการแนวรับ “ไอ้ปืนใหญ่” ได้อย่างแข็งแกร่ง

แม้ว่า จะเป็นคนทรยศในสายตาของสาวก สเปอร์ส แต่สำหรับแฟนบอล อาร์เซน่อล นั้น แคมป์เบลล์ ถือเป็นนักเตะคนสำคัญที่พาทีมประสบความสำเร็จอย่างมากมาย โดยกองหลังชาวอังกฤษ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย และเอฟเอ คัพ 2 สมัย ร่วมกับ “เดอะ กันเนอร์ส”

1. เอริค คันโตน่า (ลีดส์ ยูไนเต็ด ย้ายมายัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) , 1992 (£ 1.2m)

สุดยอดนักเตะค่าตัวถูกที่ดีที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก คันโตน่า ถูกคว้าตัวจาก ลีดส์ มายัง แมนฯยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวเพียง 1.2 ล้านปอนด์ ในปี 1992 จากนั้น ดาวยิงชางฝรั่งเศส พา “ปีศาจแดง” ที่ไร้แชมป์ลีกมานานถึง 25 ปี กลับมาครองแชมป์ได้สำเร็จ

หัวหอกเฟรนช์แมน ถือเป็นปรากฏการณ์ของ แมนฯยูไนเต็ด เขามักจะยิงประตูสำคัญให้กับทีมอยู่มากมาย พร้อมกับสร้างสิ่งมหัศจรรย์อยู่เสมอ โดย “ก็องโต้” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย และเอฟเอ คัพ 2 สมัย ร่วมกับ “ปีศาจแดง”

ภาพจาก : dailyadvent.com, planetfootball.com, skysports.com, fourfourtwo.com,