ส่องความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีของประเทศชั้นนำต่างๆ ที่พร้อมแล้วสำหรับการมาของยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติ - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
ส่องความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีของประเทศชั้นนำต่างๆ ที่พร้อมแล้วสำหรับการมาของยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติ

ในช่วงวิกฤติการณ์โควิดนี้ก็ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นเสมอไป หากมองสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นนั้นก็ถือว่ามีมากมายไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ถูกออกแบบให้เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกสบาย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และหนึ่งในนั้นก็คือ “เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ” ที่แม้ว่าช่วงนี้กระแสจะดูเงียบๆ ไป แต่พัฒนาการของเทคโนโลยีด้านนี้ถือว่าก้าวกระโดดเลยทีเดียว

ดังเช่นเราจะมาสรุปให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันว่าผู้นำในเทคโนโลยีนี้มีประเทศใดบ้าง แล้วพวกเขาพัฒนากันอย่างไร และไปถึงไหนกันบ้างแล้ว ใครอยากรู้ก็ตามมาหาคำตอบกันในนี้เลย

ผลการวิจัยด้านความพร้อมสำหรับเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับในปี 2020

แน่นอนว่าเมื่อเราจะพูดถึงผลลัพธ์ของอะไรสักอย่าง ก็จำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัย พร้อมกับดัชนีชี้วัดที่น่าเชื่อถือ ในด้านความพร้อมสำหรับเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับก็เช่นกัน ดัชนีชี้วัดความพร้อมในด้านนี้ถูกเรียกว่า AVRI ที่เป็นตัวย่อมาจาก Autonomous Vehicles Readiness Index เป็นดัชนีที่ถูกคิดค้นขึ้นโดย เคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับในระดับสากลทั่วโลกโดยเฉพาะ โดยการศึกษานี้จะทำการประเมินความพร้อม และความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับของประเทศที่เป็นผู้นำในเทคโนโลยีนี้ 30 ประเทศในทวีปต่างๆ

โดยดัชนี AVRI จะมีการประเมินใน 28 หัวข้อภายใต้ 4 เรื่องหลัก คือ   นโยบายและกฎหมาย, เทคโนโลยีและนวัตกรรม,  โครงสร้างพื้นฐาน  และความยอมรับของประชาชน ซึ่งการประเมิน 2020 KPMG AVRI ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 แล้วเท่าที่เคยทำมา  ผลจะออกมาเป็นอย่างไร มาติดตามดูกันในหัวข้อถัดไป

สรุปความพร้อมของประเทศชั้นนำที่มีต่อเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับในปี 2020

สำหรับประเทศชั้นนำที่เป็นผู้นำเทคโนโลยีของโลก ที่มาพร้อมความความใส่ใจในคุณภาพชีวิตของประชาชนในอันดับต้นๆ ของโลกเช่นกัน ล้วนแล้วเร่งพัฒนาให้เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับมีความพร้อมใช้งามแบบก้าวกระโดด เพื่อตอบสนองความต้องการที่โลกกำลังเผชิญไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม โควิด และความปลอดภัย และในปีนี้ประเทศที่มีความพร้อมสำหรับเทคโนโลยีไร้คนขับที่สุดเมื่อวัดจากดัชนี AVRI ใน Top 5 ของโลกเรียงตามลำดับดังนี้

1. สิงคโปร์

2. เนเธอร์แลนด์

3. นอร์เวย์

4. สหรัฐอเมริกา

5. ฟินแลนด์

ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของประเทศสิงคโปร์ และความพร้อมของประเทศชั้นนำต่างๆ  

การก้าวผงาดขึ้นมาของสิงคโปร์ในครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ เพราะสามารถล้มเนเธอแลนด์ซึ่งเป็นแชมป์สองสมัยก่อนหน้าที่มีความพร้อมที่สุดในโลกในเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ และการที่สิงคโปร์ทำเช่นนั้นได้ย่อมหมายถึงการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทุกๆ ด้าน เห็นได้จากตอนนี้ที่ประเทศสิงคโปร์ได้มีมาตรการหลายด้านในการขับเคลื่อนการใช้ยานยนต์ไร้คนขับ เช่น มีการออกมาตรฐานระดับประเทศสำหรับการใช้รถยนต์ไร้คนขับ และยังอนุญาตให้มีการทดสอบการใช้ยานยนต์ไร้คนขับได้บนท้องถนนถึง 1 ใน 10 ของถนนสาธารณะทั้งหมดของประเทศ ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

แม้ว่าในปีนี้เนเธอแลนด์จะเสียแชมป์ไป แต่อย่างไรก็ตามทั้งประเทศสิงคโปร์และเนเธอแลนด์ต่างเป็นผู้นำการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าล้วน หรือ EVs ทั้งคู่ โดยในฝั่งของสิงคโปร์นั้นได้นำร่องโครงการยานยนต์ไร้คนขับด้วยการส่งเสริมให้ประชาชนใช้รถยนต์ไฟฟ้า EVs มานานแล้ว เห็นได้จากในปัจจุบันประเทศสิงคโปร์ซึ่งเป็นเพียงเกาะเล็กๆ แต่กลับมาสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้ามากถึง 1,600 สถานี โดยมีแผนการกระจายสถานีชาร์จให้เพิ่มเป็น 28,000 สถานีภายในปีพ.ศ. 2573 ส่วนประเทศเนเธอแลนด์นั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะในปัจจุบันเป็นประเทศที่มีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าต่อจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 1 ของโลกอยู่แล้ว

ส่วนประเทศในเขตสแกนดิเนเวีย มีทิศทางการพัฒนายานยนต์ไร้คนขับในลักษณะที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน คือสนับสนุนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องต้องการ และภาครัฐเองก็จริงจังที่จะสนองความต้องการให้เพื่อคุณภาพชีวิตของประชากรที่ดีขึ้น จะเห็นได้ว่าในปีนี้มีประเทศจากแถบสแกนดิเนเวียติดอันดับประเทศที่มีความพร้อมด้านยานยนต์ไร้คนขับมาถึงสองประเทศคือ นอร์เวย์ และฟินแลนด์ โดยในประเทศนอร์เวย์ในตอนนี้ได้มีการใช้งานยานยนต์ไร้คนขับกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น เห็นได้ชัดเจนจากการใช้รถบัสไร้คนขับบนเส้นทางรถบัส 3 สายในกรุงฮอสโลซึ่งเป็นเมืองหลวงของนอร์เวย์

ทางด้านสหรัฐอเมริกาเองก็ไม่น้อยหน้า เพราะปัจจุบันอเมริกาคือที่ตั้งของบริษัทน้อยใหญ่ที่พร้อมให้บริการเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับมากถึง 420 บริษัทเลยทีเดียว ซึ่งหากนับเฉพาะบริษัทที่ให้บริการในด้านนี้ทั่วโลกจะเห็นได้ว่ามากองอยู่ที่อเมริกาที่เดียวถึง 44 % แล้ว เช่น Waymo ของ Google และบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ไร้คนขับ เช่น General Motors และ Ford เป็นต้น

และนี่ก็คือความเคลื่อนไหวในเทคโนโลยียานยนต์อันล้ำสมัยที่เราอยากจะบอกเล่าให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันในครั้งนี้ เพราะเราเชื่อว่าโลกกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเริ่มจากการเปลี่ยนโลกจากยุคที่ยวดยานพาหนะต่างๆ ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นยานยนต์ไฟฟ้า และพลังงานสะอาด และสิ่งที่กำลังจะตามมาติดๆ ก็คือเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับที่จะมาพร้อมกับอินเตอร์เน็ต 5G นั่นเอง ซึ่งเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบ Smart City ที่มนุษยชาติได้วาดฝันไว้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่หนุ่มๆ รุ่นใหม่อย่างชาว The Macho จะต้องทราบไว้เพื่อจะได้ไม่ตกเทรนด์เทคโนโลยี

Sujate Wanchat

What one man calls God, another calls the laws of physics.

วิศวกร นักท่องเที่ยว บล็อกเกอร์ นักเขียนบทความ ชอบติดตามโลกเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าล้ำสมัย เรื่องราวการท่องเที่ยวผจญภัย มนุษย์ต่างดาว และสาวๆ เซ็กซี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save