Silly Fools เป็นวงดนตรีที่ต้องบอกเลยว่ามีเพลงที่ฮิตติดหูมากมายแล้วอีกหลายๆเสียงจากสาวก SF และคนใกล้ตัวพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าภาคดนตรีนั้นไม่เคยล้าสมัยเลยฟังทีไรก็ยังเพลิดเพลินและอินอยู่กับเพลงไม่น้อยและในบทความนี้มาเล่าสู่กันฟังกับเพลงพวกพี่ๆเขาตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงเพลงใหม่ล่าสุดในปัจจุบันมาแชร์กันว่าเพื่อนๆที่ฟังวงนี้อยู่ชอบเพลงไหนของอัลบั้มใดกันบ้าง
หลายๆคนในปัจจุบันถ้าเลข 3 ขึ้นไปเชื่อได้ว่าโตมาและได้สัมผัสเพลงวง Silly Fools กันมาอย่างแน่นอน ตั้งแต่อยู่ค่าย Bakery music จนมาถึงยุคของ ME Record ในยุคปัจจุบันนี้ เอาเป็นว่าบทความนี้จะมาแชร์ความรู้สึกต่างจากอัลบั้มต่างๆจากผู้เขียนเองให้ฟังแล้วกันครับ เผื่อว่าจะมีคนคิดถึงวงนี้เหมือนผมอยู่
หมายเหตุ : รายละเอียดอื่นๆของวงผมคงไม่ลงลึกนะครับเพราะว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆสามารถหาฟังหรือรับชมผ่านสื่อต่างๆได้อยู่แล้วนะครับผม
Silly Fools EP ปี พ.ศ. 2539

- ว่างเปล่า
- รอยยิ้ม (ภาคทฤษฎี)
- จิบเดียว…ก็ซึ้งแมน
- รอยยิ้ม (ภาคปฏิบัติ)
เรียกได้ว่าเป็น Rare Item สำหรับนักสะสมเลยก็ว่าได้ราคาดีดสูงมากในช่วงนั้นคนตามหากันอยู่เยอะมาก แต่บอกตรงๆย้อนไปช่วงนั้นผมไม่อินเลย(ตอนยังไม่เข้าวงการชาวร็อค) เพลงอะไรทำไมมันหนักขนาดนี้ฟังไม่รู้เรื่องเลย ซึ่งจากบทสัมภาษณ์หลายๆรายการทำให้รู้ว่า EP นี้ไม่ประสบความสำเร็จเลยเพราะมาผิดที่ผิดเวลานั่นเอง แต่ปัจจุบันนั้นอย่างที่บอกพอผมเข้าวงการชาวร็อคหลังจากฟัง Candy Man แล้วก็ตามหาเก็บชุดนี้ทันทีและบอกเลยชอบมาก
เพลงที่ชอบที่สุดในชุดนี้ : รอยยิ้ม (ภาคทฤษฎี)
I.Q. 180 ปี พ.ศ. 2541

- สู้ไม่ได้
- เมื่อรักฉันเกิด
- สายไป
- คิดไปทำไม
- เซ็ง
- เพ้อ
- ต่างกัน
- เวลา
- หรือเปล่า?
- พี่สาวครับอัดผมที
- ให้เธอ
หลังจากไม่ได้ไปต่อกับค่าย Bakery music ก็ถูกพี่ป้อม อัสนี ดึงมาอยู่ที่ More Music ซึ่งในช่วงชุดที่แล้วกับชุดนี้ตอนผมยังไม่เข้าวงการชาวร็อค ผมก็ยังให้ความเห็นว่า เออชุดนี้ดีฟังรู้เรื่องดีอย่างน้อยก็หนึ่งเพลงล่ะที่ดนตรีไม่หนักมากและเท่ด้วย เดากันออกใช่ไหมว่าเพลงอะไร แต่ก็นะส่วนเพลงอื่นๆเพลงอะไรก็ไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่องเลย “ฉันคงจะตามเธอไม่ทัน เธอ…!@#@$%$%” และอีกเพลงอะไรเนี่ยร้องว่า “มุ้งมิ๊งๆ” เนี่ยแหละ ทำให้อัลบั้มนี้ตอนแรกไม่สนใจที่จะซื้อเลยเพราะชอบเพลงเดียว และหลังจากนั้นช่วงที่ผมได้ฟังอัลบั้มใหม่อื่นๆแล้วผมก็ตามเก็บอัลบั้มนี้และบันเทิงกับซาวด์เหลือเกิน
เพลงที่ชอบที่สุดในชุดนี้ : สู้ไม่ได้ , เมื่อรักฉันเกิด , คิดไปทำไม , เซ็ง , ต่างกัน
Candy Man พ.ศ. 2542

- Intro
- ฝัน
- อย่าบอกว่ารัก
- ไหนว่าจะไม่หลอกกัน
- เพียงรัก
- ผู้ยิ่งใหญ่
- Hey
- แค่…คน
- นางฟ้า
- พ่อ-แม่-ลูก
- ใจมันหาย
เมื่อเวลาผ่านไปผมก็เริ่มฟังเพลงมากขึ้นและจำได้ดีว่าชุดนี้เป็นชุดที่ผมนั่งเกาะวิทยุรอฟัง Silly Fools เปิดอัลบั้มทาง 91.5 FM หรือ Hot Wave นั่นเองถ้าจำไม่ผิดตอน 1 ทุ่มนี่แหละ อยากจะรู้ว่าชุดนี้จะเป็นอย่างไรบ้างและเพียงแค่เปิด เพลง “ฝัน” ขึ้นมาเปิดงานเป็นเพลงแรก ในใจผมรู้ได้ทันทีว่าชุดนี้แหละที่จะไม่ลังเลที่จะซื้อโดยที่ไม่ต้องฟังเพลงอื่นๆเลย ภาพรวมซาวด์ดนตรีที่เท่ไม่หนักมาก (สำหรับผมในตอนนั้น) เนื้อหาที่ฟังง่ายขึ้น แทบกรี๊ด…พอรู้วันวางแผงรีบกำเงินที่ออมไว้ไปซื้อโดยทันทีครับ และชุดนี้ก็เป็นอีกชุดที่ชอบมากเช่นกัน
เพลงที่ชอบที่สุดในชุดนี้ : ฝัน , อย่าบอกว่ารัก ,ไหนว่าจะไม่หลอกกัน , เพียงรัก , Hey , Bonus track
Mint พ.ศ. 2543

- ไม่
- 150 c.c.
- คิดถึง
- เพลงนี้เกี่ยวกับความรัก
- ฟังดูง่ายง่าย
- จิ๊จ๊ะ
- เหนื่อย
- เจ็บ
- บั้นท้าย
- ปล่อย
เรียกได้ว่าเป็นวงที่ออกเพลงได้แบบปีต่อปี ด้วยพลังของ Candy Man ผมก็กลายเป็นสาวก SF เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในชุดนี้ถ้าจำไม่ผิดเปิดตัว MV ด้วยเพลงหน้า B อย่างจิ๊จ๊ะ โอ้ตายแล้วเพลงมันช่างเท่จัง ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองทุกห้องซ้อมดนตรีจำเป็นต้องมีเพลงนี้เป็นเพลงในรายชื่อที่ต้องเล่น รวมไปถึงเพลงอื่นๆที่ลูกเล่นในเพลงเท่ๆ ไลน์โซโล่สวยๆอีก ทำให้ไม่ต้องลังเลใจวางแผงปุ๊ปวิ่งไปร้านเทปปั๊ปเลยและเหมือนช่วงนั้นราคา CD ไม่แพงมากผมก็จัด CD มาด้วยพ่วง CD Candy Man มาด้วยอีกแผ่น
เพลงที่ชอบที่สุดในชุดนี้ : ไม่ , คิดถึง , เพลงนี้เกี่ยวกับความรัก , จิ๊จ๊ะ , เหนื่อย , เจ็บ
Juicy พ.ศ. 2545

- บ้าบอ
- หน้าไม่อาย
- ผิดที่ไว้ใจ
- ขี้หึง
- แกล้ง
- น้ำนิ่งไหลลึก
- วัดใจ
- เหงา
- พอแล้ว
- ปรักปรำ
ชุดนี้เปิดมาด้วยซาวด์เบสของพี่หรั่งในเพลง “บ้าบอ” เบสสายต่ำๆสะบัดกับเฟรทของเบส ชุดนี้ของดีอีกแล้ว หากฟังเปรียบเทียบกับชุดก่อนๆนั้นซาวด์องค์ประกอบในชุดนี้ต่างจากชุดก่อนๆพอสมควรและลูกเล่นของดนตรีนั้นก็มีความต่างไปด้วยเช่นกัน ภาพรวมของเพลงก็เต็มไปด้วยสเน่ห์ ทำให้ชุดนี้มีเอกลักษณ์ชัดเจนเป็นอย่างดีและในชุดนี้ก็มีเพลงหลายๆเพลงที่คนชอบเลือกร้องในห้องคาราโอะชนิดที่ว่าร้องกันคอแหบคอแห้งกันเลยทีเดียว เชื่อสิวัดใจเนี่ยแย่งท่อนกันร้องมั่วไปหมด
เพลงที่ชอบที่สุดในชุดนี้ : บ้าบอ , ผิดที่ไว้ใจ , แกล้ง , วัดใจ , ปรักปรำ
King Size พ.ศ. 2547

- แล้วแต่แป๊ะ
- น้ำลาย
- คนที่ฆ่าฉัน
- หนึ่งเดียวของฉัน
- ตูมตาม
- ไม่หวั่นแม้วันมามาก
- บอกลา
- มันแอบอยู่ข้างเครื่อง
- เพลงของเธอ
- เบื่อ
- แล้วแต่แป๊ะ ( Monster mix )
เป็นชุดที่ทางพี่ต้น Silly Fools เองบอกว่าเป็นชุดที่ประสบความสำเร็จที่สุดของทางวง แต่ส่วนตัวคิดว่าพวกพี่ๆเขาน่าจะเปรี้ยงตั้งแต่ Mint แล้วนะฮ่าๆ เอาจริงๆตอนแรกๆต้องบอกว่าเป็นชุดนี้ผมไม่ค่อยอินเท่าไรตอนซื้อมาฟังในครั้งแรกๆ เรียกว่าหยิบมาฟังนับครั้งได้เลย มีความรู้สึกว่ามันไม่ค่อยโดนใจทั้งเนื้อหา(บาง)เพลงและภาคดนตรีในความรู้สึกส่วนตัวไม่รู้ทำไมฟังแล้วยังไม่มีอาการ แต่พอเอาเข้าจริงๆมีอยู่ครั้งหนึงเคยลองนั่งฟังแบบตั้งใจ โอ้โห!! ภาคดนตรีอาจจะไม่เหมือนชุดก่อนๆแต่ดนตรีในแต่ละท่อนบอกเลยว่าสุดๆ
เพลงที่ชอบที่สุดในชุดนี้ : คนที่ฆ่าฉัน , หนึ่งเดียวของฉัน , ตูมตาม , เพลงของเธอ
EP Mini พ.ศ.2550

- Stay Away
- One Generation
- l’ve Gone Blind
- 21 Day
เป็นอีกอัลบั้มที่หายากอีกเช่นกันกับ Silly Fools ชุดนี้หาซื้อยากมาก หลังจากเปลี่ยนนักร้องนำมาเป็นพี่เบนและมาอยู่ค่ายสนามหลวง ตอนแรกผมยังนึกอยู่ว่าจะออกมาเป็นอย่างไรกับนักร้องคนใหม่นี้ด้วยความที่เป็นฝรั่งด้วยแต่พอได้ฟังผ่านยูทูปของทาง Sanamluang Music ร้องออกมาดังๆว่า เห*ด ไม่รู้จะบรรยายยังไงทั้ง เมโลดี้ ภาคดนตรี เจ๋งสุดๆแบบนี้ที่ผมรอคอยมันเต็มไปด้วยพลังยังไงไม่รู้และยิ่งเพลงช้ายิ่งดึงอารมณ์เข้าไปอีกแม้ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษก็ตามที บอกเลยว่าเป็นชุดที่เจ๋งอีกหนึ่งชุดเลย ซึ่งเทียบเพลงในระดับอินเตอร์ได้เลย (ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ)
เพลงที่ชอบที่สุดในชุดนี้ : Stay Away , l’ve Gone Blind
The One พ.ศ.2551

- สตรีหมายเลข 1 (Moving On)
- เราเป็นคนเลือกเอง (No Regrets)
- โง่ (Enough)
- พัก (The Long Road)
- ไม่พอเพียง (The Daily Grind)
- รั้งรอ (Nevermind)
- คุณกร่าง (Extra Extra)
- เหนื่อยแล้ว (Unhappy Ending)
- อีกครั้ง (Long Distance)
- ไกล (Take Me Home)
ชุดนี้ข้ามปีก็ย้ายมาฝั่งลาดพร้าวทำเป็นอัลบั้ม 2 ชุด ชุดนึงเป็นภาษาไทยและอีกชุดนึงเป็นภาษาอังกฤษที่ขอใส่เป็นวงเล็บไว้หลังชื่อเพลงภาษาไทยแล้วกันครับ พอได้ฟังชุดนี้บอกเลยว่าภาคดนตรีเข้มข้นลูกเล่นต่างๆนั้นจัดเต็มมากเหมือนชุด Mini ฟังแล้วมีความอินเตอร์ยิ่งในเวอร์ชั่น EN เสียงร้อง+ดนตรีแล้วมันช่างเฟี้ยวยิ่งนัก ส่วนอัลบั้มนี้กลิ่นมันคนละอย่างจาก Silly fools ชุดก่อนๆเท่คนละแบบมันลงตัวยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก
เพลงที่ชอบที่สุดในชุดนี้ : สตรีหมายเลข 1 (Moving On) , โง่ (Enough) , พัก (The Long Road) , ไม่พอเพียง (The Daily Grind) , เหนื่อยแล้ว (Unhappy Ending)
Single

- ทำร้าย พ.ศ. 2553 (RS)
- สูญญากาศ พ.ศ. 2555 ( อิสระ)
- Standing Tall พ.ศ. 2557 (Rock Rider)
ในช่วงที่ปล่อยเป็น single ต้องบอกเลยว่าผมไม่ได้ตามวงเลยเหมือนกับช่วงนั้น Silly Fools เงียบมาก ต่อมาก็รู้ข่าวว่ายกเลิกสัญญาจากฝั่งลาดพร้าวมาทำเพลงเองในปี 2555 แล้วก็หลังจากนั้นมีการเปลี่ยนตัวจากพี่ต่อนั้นเป็นพี่รัตน์และเพลงใหม่ของทางวงก็เงียบหายไป มีแต่การแสดงทัวร์กับ Rock Rider เรื่อยๆ ส่วนตัวผมนั้นก็เฝ้ารอเพลงใหม่มาตลอดจนกระทั่งมาเปลี่ยนตัวพี่เบนอีกเพราะบาดเจ็บจากกีฬา อ่าว! แล้วยังไงละทีนี้หลังจากนั้นไม่นานเหมือนฟ้ามีตาให้กับสาวกตาดำๆที่รอคอย ว่ามีข่าวดี Silly fools กลับมาอีกครั้บกับสังกัด ME Record

พร้อมเปิดตัวนักร้องใหม่คือริมนั่นเอง ด้วยการเปิด Single มากระแทกคนฟังด้วยภาคดนตรีที่คล้าย Silly Fools ยุค Juicy + King size ทำให้สาวกหลายๆคนยิ้มได้ว่า Silly Fools กลับมาแล้ว แต่การปล่อยเพลงนั้นต่างจากแต่ก่อนที่ 1 ปี 1 อัลบั้มแต่รอบนี้ 1 ปี 1 เพลง
Single
- แป๊ะอย่าร้อง พ.ศ. 2559 (ME Record)
- จงเรียกเธอว่านางพญา พ.ศ. 2560 (ME Record)
- 20 ตุลา พ.ศ. 2561 (ME Record)

และหลังจากนี้ไปเชื่อได้ว่าสาวก Silly Fools คงกำลังรอคอยเพลงใหม่จากพวกพี่ๆเป็นอย่างแน่นอน ทั้งหมดนี้ก็เป็นการเล่าสู่กันฟังหากมีผิดพลาดจุดไหนก็เสริมกันได้นะครับรวมไปถึงแบ่งปันเพลงที่ชอบของ Silly Fools กันได้ว่าใครชอบเพลงไหนกันบ้างมาพูดคุยกันนะครับ
Update เพลงหม่ 2563
“เมื่อคนที่รักได้จากไป สุดท้ายก็มีเเต่เเมว ที่อยู่เป็นเพื่อนใจ” แต่การขอคำปรึกษาเรื่องความรักของคนกับแมวจะเป็นยังไงต้องลองฟังจากเพลงนี้ “ORANGE“ เพลงช้าฟังสบายแต่อาจได้แอบยิ้มทั้งน้ำตา เริ่มขึ้นดนตรีโดย หรั่ง-เทวฤทธิ์ ศรีสุข มือเบสของวง และ ริม นักร้องนำ ได้รับไม้ต่อในการไปเขียนเนื้อร้องเอง ถือว่าเป็นเพลงแรกที่ริมแต่งเนื้อร้องให้กับ SILLY FOOLS และยังเอาประสบการณ์ชีวิตจริงของตัวเองมาเล่าในเพลงนี้ด้วย ตอนส่งเดโม่กลับมาให้สมาชิกวงฟังครั้งแรกถึงกับต้องสะดุดกับท่อนฮุคกวนๆ ที่ร้องแต่ “เหมียว เหมียว” แต่แล้วไอเดียนี้ก็ได้ไปต่อ โดยมี ฟองเบียร์ นักแต่งเพลงมือฉมัง มาช่วยตบเนื้อเพลงให้เข้าที่มากขึ้น พาร์ทดนตรียังคงกลิ่นอายความเป็น SILLY FOOLS ไว้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะเสียงกีต้าร์โซโล่บาดใจของ “ต้น จักริน” ที่แฟนๆโหยหามานาน น่าจะเป็นอีกเพลงที่สาวกได้รับความสุขจากการฟังเพลงนี้