“อำนาจ มักหวนกลับมาทำร้ายผู้มีอำนาจนั้นเสมอ” ประโยคแรกที่ผุดขึ้นมาในใจหลังชมซีรี่ส์ The Last Czars ซาร์องค์สุดท้าย จบลง มินิซีรี่ส์แนวประวัติศาสตร์กึ่งสารคดี มีทั้งหมด 6 ตอน ที่หาชมได้ทางสตรีมมิ่ง Netflix บอกเล่าเกี่ยวกับราชวงศ์โรมานอฟ ราชวงศ์อันยิ่งใหญ่ที่สุดที่ครั้งหนึ่งเคยถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์โลก
ซีรี่ส์ถูกเล่าผ่านตัวละครอิงประวัติศาสตร์ตัดสลับไปมากับนักวิชาการหลายท่านที่มาให้ข้อมูล เริ่มเรื่องจากจบและย้อนรอยไปยังวันแรกที่พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 หรือ นิคกี้ (พระนามที่ใช้เรียกกันในครอบครัว) เข้ามารับตำแหน่งสืบทอดราชสมบัติ ในปี 1894 วันชื่นคืนสุขที่ไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่า ภายในเวลาอีกไม่นานราชวงศ์ที่ปกครองรัสเซียมานานกว่า 300 ปี กำลังจะสิ้นสุดลง
ซีรี่ส์นำพาเราไปดูถึงสาเหตุที่แท้จริงของการล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟ ปัจจัยภายในที่เกิดจากการเข้ารับตำแหน่ง และกุมอำนาจนิยมเบ็ดเสร็จ (อัตตาธิปไตย) เอาไว้ การกุมอำนาจเด็ดขาดของคนทั้งประเทศอยู่ในมือแต่เพียงผู้เดียว และเลือกที่จะปฏิเสธแนวคิดการเมืองสมัยใหม่ เปรียบเสมือนกับระเบิดเวลาที่นับถอยหลังลงไปเรื่อย ๆ และระเบิดในท้ายที่สุด รวมไปถึงความเสียหายจากสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ที่สร้างบาดแผลให้กับประชาชนจนส่งผลให้ประชาชนลุกฮือขึ้นต่อต้านราชสำนัก ในขณะเดียวกันกับที่รัสปูติน ชายชาวไซบีเรียผู้ปราดเปรื่องที่เปรียบได้กับพ่อมดก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
การหลั่งไหลของประชาชนที่เข้ามาแสวงหาชีวิตที่ดีขึ้นในเมืองหลวงของประเทศที่กำลังเจริญก้าวหน้า ความหวังที่จะได้หาเงินเลี้ยงปากท้องในแต่ละวันของประชาชนช่างยากเหลือเกิน ซึ่งในขณะเดียวกันราชวงศ์โรมานอฟเลือกที่จะหันหลังให้กับประชาชนและหลบไปเสวยสุข ปล่อยให้รัสปูตินเข้ามามีอำนาจมากขึ้น และทำหารแก้ไขปัญหาด้วยความรุนแรงกับประชาชนที่ลุกขึ้นต่อต้านเพราะความอดอยากจากอำนาจเบ็ดเสร็จ นี่จึงเป็นอีกก้าวสำคัญในการทำให้สถานการณ์ของราชวงศ์ย่ำแย่ลงไปแบบที่พวกเขาไม่รู้ตัว
ซีรี่ส์สะท้อนให้เห็นภาพของผู้นำประเทศที่ขาดคุณสมบัติในการปกครองที่ดีต่อผู้อยู่ใต้ปกครอง ผ่านการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จและการตัดสินใจที่ผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง หากเทียบกับปัจจุบันคงเปรียบได้กับ สถานการณ์ #ผนงรจตกม ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในโซเชียลมีเดียในบ้านเราขณะนี้ การถูกชักจูงจากผู้หลงใหลในอำนาจ ศาสนา แม้กระทั่งภรรยาก็สามารถทำให้จังหวะชีวิตของผู้นำประเทศที่กุมอำนาจของประชาชนทั้งจักรวรรดิถึงคราวดับสูญเช่นกัน
ในขณะที่พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ภายในเรื่องที่เรียกได้ว่าถูกเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอย่างหนักหน่วง ความพ่ายแพ้ต่อการพยายามขยายอำนาจไปยังญี่ปุ่น บาดแผลจากสงครามโลกครั้งที่ 1 และการปกครองประชาชนอดอยากภายในจักรวรรดิของเขา ล้วนไม่อาจเป็นใจให้เขาได้มีความสุขอีกต่อไป ซึ่งไม่นานนักเขาก็เริ่มรับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของอำนาจเบ็ดเสร็จที่อยู่ในมือเขา และนำพาเขาและครอบครัวไปสู่จุดจบของสถานที่เรียกว่า “บ้านหลังสุดท้าย”
ในอีกแง่มุมหนึ่งของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ที่ซีรี่ส์ The Last Czars นำเสนอ เขารับบทเป็นสามีที่รักและเทิดทูลภรรยา และชายผู้เป็นพ่อของลูกที่พิการ การแบกรับปัญหาที่เกิดขึ้นรอบด้านนั้น ทำให้ผู้ชมอย่างเราเห็นอกเห็นใจเขาขึ้นมาในแง่มุมนี้เช่นกัน แต่กระนั้นผู้ชมก็ยังสามารถตระหนักได้ถึงบทเรียนจากการวิเคราะห์ราชวงศ์โรมานอฟที่เหล่านักวิชาการมอบให้ นั่นก็คือ “อำนาจนิยมเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มักหวนกลับมาทำร้ายผู้มีอำนาจนั้นเสมอ” ดังที่ได้กล่าวไปในตอนต้น
นอกจากนี้ซีรี่ส์ The Last Czars ยังมีดีที่ความอลังการของงานโปรดักส์ชั่น ตลอดจนเครื่องแต่งกาย และเสื้อผ้าหน้าผมภายในเรื่องนั้นเรียกได้ว่าทุ่มทุน เสมือนจริงราวกับว่าประวัติศาสตร์นั้นมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง สลับกับภาพฟุตเทจจากเหตุการณ์จริง และความคิดเห็นจากนักวิชาการที่มีต่อเหตุการณ์ ยิ่งทำให้ซีรี่ส์อิงประวัติศาสตร์เรื่องนี้โดดเด่นและน่าสนใจ ใครที่ชอบแนวนี้ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
สามารถรับชมได้ทางใน Netflix
Text – Little Gwa