ย้อนกลับไปในยุค 90 สมัยนั้นมีเพียงแค่ค่ายเกมยักษ์ใหญ่สองค่ายที่มุ่งหน้าสร้างสรรค์ทั้งเครื่องเล่นเกมและซอฟต์แวร์เกมอย่างดุเดือดเท่านั้นคือ SEGA และ Nintendo
ที่ล้วนเป็นบริษัทเก๋าเกมและเจนสนามกันทั้งคู่ก่อนที่ฝ่ายเจ้าเม่นสีน้ำเงินจะกลายเป็นผู้ปราชัยและลดบทบาทเป็นผู้พัฒนาเกมเพียงอย่างเดียวมาจนถึงทุกวันนี้ และดูท่าว่าจะมีความสัมพันธ์อันดีกับทาง Nintendo อดีตคู่แข่งมากเสียด้วย
สำหรับปีนี้ SEGA ก็ไม่พลาดที่จะร่วมสนุกกับโอกาสอันยิ่งใหญ่อีกครั้งในโครงการ SEGA GO ที่จัดทำขึ้นเพื่อฉลองการครบรอบ 60 ปีของการก่อตั้งบริษัทด้วย ซึ่งทางค่ายก็มีการประกาศข้อมูลและจัดกิจกรรมต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นการแจกเกมแนว Mash Up ระหว่างซีรีส์ในเครือฟรี หรือเผยภาพการออกแบบเกมเก่าๆ มาให้ชมเป็นต้น และล่าสุดกับคอร์สเรียนออนไลน์ ‘SEGA TEST’ ที่ Hiroyuki Miyazaki หนึ่งในผู้บริหารของ SEGA ได้นำเครื่องเล่นเกมรุ่น Prototype มาเปิดตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี
วิดีโอเริ่มต้นที่นาทีที่ 11:12
เครื่องเล่นนี้มีชื่อเรียกภายในว่า ‘Venus’ ซึ่งเป็น MegaDrive ในรุ่นพกพาที่มาพร้อมกับจอ LCD และวางขายในสหรัฐอเมริกาอยู่ช่วงหนึ่งโดยใช้ชื่อว่า Genesis NOMAD สำหรับเครื่องเล่นรุ่น Prototype จะมีสีขาวและพิมพ์โลโก้ของ SEGA เอาไว้ด้านล่าง นอกจากนี้ปุ่มทิศทางยังมีรูปทรงที่แตกต่างจากเดิมด้วย แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือมีการแปะโค้ดเนมเอาไว้ว่า Venus ทั้งนี้เขาบอกต่อว่าจะไม่มีการเปิดให้เห็นวิธีการใช้งานแต่อย่างใด
Genesis NOMAD รูปแบบขายจริงและตัว Prototype
ดูจากรูปทรงแล้วก็ต้องบอกเลยว่าสวยงามไม่แพ้กับเครื่องเล่นที่วางจำหน่ายจริงเลย อีกทั้งยังน่าแปลกด้วยที่เครื่อง Prototype ไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่อย่างที่เครื่องเล่นเกมอื่นเป็น และสำหรับใครที่กำลังสนใจร่วมกิจกรรมกับ SEGA GO ก็อย่าลืมติดตามข่าวสารกันทางหน้าเพจหรือเว็บไซต์ ThisIsGame Thailand ให้ดีเพราะพวกเราก็จะนำข้อมูลรายละเอียดใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาแบ่งปันกันที่นี่อีกเรื่อยๆ ครับผม
อีกด้านหนึ่ง Genesis NOMAD วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1995 โดยมาพร้อมกับความสามารถในการเล่นเกมของ MegaDrive ผ่านช่องอ่านตลับด้านบน และมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 3.25 นิ้ว ซึ่งความสามารถพิเศษก็คือการรองรับการเชื่อมต่อเข้าสู่หน้าจอที่ผ่านพอร์ต A/V แถมยังได้ชื่อว่าเป็นเครื่องเล่นเกมระดับ 16-bit แบบพกพาเครื่องแรกของโลกก่อนการมาถึงของ NEOGEO Pocket และ WonderSwan ในปี 1998 – 1999
