สไตล์มินิมอลแบบญี่ปุ่น (Japanese Minimal) เป็นสไตล์แฟชั่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และโดนใจคนรุ่นใหม่ไม่น้อย
เพราะความเรียบง่าย ดูเรียบหรู สบายตา ยิ่งมองยิ่งสบายใจ จนทำให้ใครๆ ก็ต่างหลงใหลอยากเป็นชาว Japanese Minimal กันไม่น้อย สะท้อนจากรสนิยมการแต่งบ้าน แฟชั่นการแต่งกาย และอาหารการกิน แล้วความเป็นมินิมอลแบบญี่ปุ่นนี้มันมีเสน่ห์น่าหลงใหลอย่างไร วันนี้เราจะพาทุกคนมาไขความลับนี้กัน ใครอยากรู้ ตามมาหาคำตอบกันเลย
ความหมายของ “มินิมอล”
ก่อนอื่นๆ เรามาทำความเข้าใจกับความหมายของคำว่า “มินิมอล” ซึ่งเป็นคำที่รุ่นใหม่คุ้นเคยกันก่อน คำว่า “มินิมอล” นี้จริงๆ แล้วมาจากคำว่า มินิมิล หรือ มินิมอลลิสม์ (Minimalism) ซึ่งหมายถึงศิลปะแห่งสุนทรียศาสตร์ว่าด้วยเรื่องความเรียบง่าย โดยศาสตร์นี้ได้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงยุค 50-60s ที่ผู้คนในยุคนั้นเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับศิลปะแนว Abstract ที่เต็มไปด้วยสีฉูดฉาดดูยุ่งเหยิงชวนให้หงุดหงิด เพราะมันดูรกหูรกตาไปหมด จนทำให้ศิลปินกลุ่มหนึ่งเริ่มนำเสนอศิลปะแนวที่เป็นขั้วตรงข้าม ที่เน้นความน้อย แต่มีสาระ มองแล้วสบายตา เป็นธรรมชาติชวนให้จิตใจสงบ บางคนนำเสนอในรูปแบบจิตรกรรมเรขาคณิตที่แสนเรียบง่าย บางคนนำเสนอในรูปแบบการงานสถาปนิก การตกแต่งบ้านที่ตัดของที่ไม่จำเป็นออกไปจนหมด เหลือไว้แต่สิ่งจำเป็นจริงที่คนเราต้องใช้ ซึ่งนั่นก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของศาสตร์ มินิมิลลิสม์ นั่นเอง
แล้วทำไมต้องเป็นมินิมอลแบบญี่ปุ่น ถึงโดนใจคนไทย
จริงๆ แล้วสไตล์มินิมอลที่โด่งดังไปทั่วโลกนั้นมาจาก 2 โซนหลักของโลกคือ สแกนดิเนเวีย และเอเชียตะวันออก (ซึ่งญี่ปุ่นเป็นต้นตำรับ) แต่ไม่ว่าจะเป็นมินิมอลจากโซนใดจุดเด่นร่วมกันของสไตล์นี้ก็คือความเรียบง่าย เรียบหรู “น้อย แต่มาก” ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การตกแต่งบ้าน และการแต่งตัว
อย่างไรก็ตามคนไทยกลับนิยมสไตล์มินิมอลแบบญี่ปุ่นมากกว่าแบบสแกนดิเนเวีย ที่เป็นเช่นนั้นสามารถเข้าใจได้ไม่ยาก นั่นก็เพราะญี่ปุ่นและไทยเป็นเอเชียเหมือนกัน มีความใกล้เคียงในด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม ศาสนาและความเชื่อมากกว่า ในขณะที่คนสแกนดิเวียส่วนใหญ่เป็นคนไม่นับถือศาสนา ความเป็นมินิมอลของพวกเขาจึงดูค่อนข้างใหญ่โตเกินไปและแข็งทื่อไร้จิตวิญญาณสำหรับคนไทย ตรงกันข้ามกับมินิมอลแบบญี่ปุ่นที่เน้นรายละเอียดยิบย่อย เล็กๆ น้อยๆ ก็ให้ความใส่ใจ มีการประสานเรื่องศาสนาอย่าง นิกายเซน และพุทธเข้าไปผสมผสานได้อย่างลงตัว จึงทำให้ศิลปะแนวนี้ดูสงบ เยือกเย็น มีสมาธิ และตรงกับจริตของคนไทยซึ่งเป็นคนเมืองพุทธนั่นเอง
ภัยธรรมชาติ มีส่วนสำคัญที่ก่อให้เกิดสไตล์มินิมอลญี่ปุ่น
จะว่าไปแล้ว สไตล์มินิมอลนั้นเป็นความจำเป็นสำหรับคนญี่ปุ่น หรือจะเรียกว่าโดนบีบบังคับจากภัยธรรมชาติก็ไม่ผิดนัก เพราะประเทศญี่ปุ่นนั้นต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติอยู่เป็นประจำครบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นพายุ น้ำท่วม คลื่นซึนามิ และแผ่นดินไหว เมื่อภัยธรรมชาติมาเยือนแต่ละครั้ง เมืองทั้งเมืองย่อมได้รับความเสียหายไม่น้อย บ้านเรือนส่วนใหญ่ของคนญี่ปุ่นจึงมักมีไว้แต่ข้าวของที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น เมื่อภัยพิบัติมาเยือน จะได้ขนย้ายได้ง่าย และความน้อย เท่าที่จำเป็นนั่นเอง จึงทำให้คนญี่ปุ่นคิดหาวิธีทำให้มันสวยงาม ลงตัวอย่างมีสไตล์ กลายเป็นสไตล์มินิมอลแบบญี่ปุ่นให้ชาวโลกได้ชื่นชมกัน
เสน่ห์ของความเป็นมินิมอลแบบญี่ปุ่น
หากจะให้อธิบายเสน่ห์ของความเป็นมินิมอลแบบญี่ปุ่นง่ายๆ ก็คือ ความ “น้อยแต่มาก ดูแล้วสบายตา สบายใจ เรียบหรู” นั่นเอง การจัดแต่งสวนสไตล์มินินอลแบบญี่ปุ่นจะเน้นความเป็นธรรมชาติ ขนาดไม่ใหญ่โต แต่มีครบ ทั้งสนามหญ้า ต้นไม้น้อยใหญ่ และสระน้ำเล็กๆ จัดแต่งแบ่งโซนอย่างชัดเจนเป็นระเบียบ มีรูปปั้นเรียบๆ เล็กๆ จำนวนไม่มากแต่ดูเก๋ไก๋ เมื่อมองแล้วรู้ได้ทันทีว่านี่คือการจัดสวนแบบมินิมอลญี่ปุ่น
ส่วนบ้านสไตล์มินิมอลญี่ปุ่นนั้นดูไม่ยาก เพราะตัวบ้านจะเมื่อดูภายนอกแล้วหลังจะไม่ใหญ่มาก ดีไซน์แสนเรียบง่าย มาในทรงที่โดดเด่นด้านเรขาคณิต สีภายนอกเน้นสีอ่อนๆ ตัดกับสีไม้
ภายในปลอดโปร่งโล่งสบาย เพดานจะไม่สูงมาก มีข้าวของเท่าที่จำเป็นเน้นพื้นที่ใช้สอยให้มากที่สุด การตกแต่งภายในจะใช้สีอ่อน ร่วมกับสีไม้ มักจะใช้ความเป็นเส้นตรง เหลี่ยมสันตกแต่งภายในได้อย่างเรียบหรูดูสบายตา
ส่วนเรื่องการแต่งกายสไตล์มินิมอลญี่ปุ่นนั้นคือแฟชั่นการแต่งกายที่ดูไม่ยุ่งยากซับซ้อน ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เช่นการใช้เสื้อกางเกงแบบเรียบๆ สีเดียว ไม่มีลวดลาย มักไม่มีกระดุม เน้นการใช้สี ขาว ครีม เทา ดำ และสีกรม แมทช์กับถุงเท้า รองเท้าสีสุภาพได้อย่างลงตัว ซึ่งหลายแบรนด์แฟชั่นของญี่ปุ่น เช่น มูจิ และยูนิโล่ ได้ชูความเป็นแฟชั่นสไตล์มินิมอลแบบญี่ปุ่นจนโด่งดังไปทั่วโลก
ในด้านอาหารการกินแบบชาวมินิมอลญี่ปุ่นนั้น สายบุฟเฟ่ต์แบบชาวไทยอาจไม่โดนใจสักเท่าไหร่ เพราะชาวมินิมอลญี่ปุ่นเป็นคนทานน้อย ทานเท่าที่จำเป็น ไม่ทานให้อิ่มจนเกินไป อาหารแต่ละจานเน้นที่คุณภาพ และความสวยงามเป็นหลัก พวกเขาจะทานแต่ของที่พิถีพิถัน มีประโยชน์ และทานแค่พอให้อยู่ท้องครบทั้ง 3 มื้อหลักเป็นพอ ชาวมินิมอลญี่ปุ่นเลยหุ่นดี ไม่อ้วน และมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง
และนี่ก็คือความลับของเสน่ห์ของความเป็นมินิมอลญี่ปุ่นที่เราอยากจะเปิดเผยให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ซึ่งจะสรุปให้ฟังอีกที เสน่ห์ของความเป็นมินิมอลญี่ปุ่นนั้นอยู่ที่ความ “น้อยแต่มาก เรียบหรู ดูแพง มีเฉพาะสิ่งที่จำเป็น” หากใครชอบก็สามารถลองนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันของคุณได้ ทั้งการจัดแต่งบ้านและสวน การแต่งกาย และการกิน รับรองว่าทำแล้วชีวิตคุณจะดีขึ้น