HyperX Cloud PS4 หูฟังที่สาวก PlayStation ไม่ควรพลาด!!! - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
HyperX Cloud PS4 หูฟังที่สาวก PlayStation ไม่ควรพลาด!!!

หากจะให้พูดถึงแบรนด์หูฟังเกมมิ่งที่มีราคาไม่สูงมากแต่ให้คุณภาพเสียงที่ใช้งานได้คงจะหนีไม่พ้น HyperX แน่นอนว่าการเล่นเกมในปัจจุบันแม้ว่าจะเน้นไปที่ตลาดสมาร์ทโฟนกันเป็นส่วนใหญ่ แต่!!!ตลาดเครื่องคอนโซลในบ้านเราถือว่ามีผู้เล่นไม่น้อยเช่นกัน วันนี้เราจึงอยากจะมานำเสนอให้รู้จักกับหูฟังอีกหนึ่งรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานร่วมกับ PS4 ต้องนี้เลย ” HyperX Cloud PS4 “ หูฟังที่ได้รับการออกแบบและปรับแต่งโทนสีให้เข้ากับเครื่องเล่นเกมยอดฮิตอย่าง PS4

สำหรับ HyperX Cloud PS4 เป็นหูฟังแบบ Over-Ear ตามแบบฉบับของหูฟังสำหรับการเล่นเกมเพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะ ในส่วนของตัว Earpad มีความนุ่มและสามารถถอดเพื่อเปลี่ยนได้ ในขณะที่ตัวโครงของหูฟังใช้งานเป็นอลูมิเนียมทำให้มีน้ำหนักเบาและทนทานต่อการใช้งาน มาพร้อมกับไมโครโฟนแบบถอดได้ช่วยให้สะดวกเวลาที่ไม่ต้องการใช้งาน สำหรับแผงควบคุมจะสามารถเลือกเพื่อเปิด/ปิดไมโครโฟนได้ รวมไปถึงการเพิ่ม / ลดเสียง ใช้งานง่ายไม่ต้องพึ่งซอฟต์แวร์ใดๆ เหมาะกับเกมเมอร์ที่ชื่นชอบความมินิมอลแต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ

สเปค

– Driver: Dynamic, 53mm with neodymium magnets
– Type: Circumaural, closed back
– Frequency response: 15Hz–25,000 Hz
– Impedance: 41 Ω
– Sound pressure level: 95dBSPL/mW at 1kHz
– T.H.D.: < 2%
– Weight: 325g
– Weight w/ mic: 337g
– Cable length and type: Headset (1.3m)
– Connection: Headset – 3.5mm plug (4 pole)
– Element: Electret condenser microphone
– Polar pattern: Noise-cancelling
– Frequency response: 50Hz-18,000 Hz
– Sensitivity: -39dBV (0dB=1V/Pa,1kHz)

การออกแบบ

มาเริ่มกันที่ตัวกล่องก่อนเลย ตามปกติแล้วกล่องของ HyperX จะมาพร้อมกับโทนสีแดง แต่ด้วยความที่ HyperX Cloud PS4 เป็นรุ่นพิเศษที่ทำมาเพื่อ PS4 โดยเฉพาะทำให้มีการเปลียนโทนสีออกไปจากเดิมที่เป็นสีแดงกลายเป็นสีน้ำเงินสไตล์ PlayStation

สำหรับการเปิดกล่องเพื่อนำหูฟังออกมาจะเป็นการเปิดจากด้านบนโดยภายในจะมีซีลพลาสติกที่ใส่หูฟังเอาไว้อยู่ เราก็ทำการดึงออกมาได้เลย

เมื่อนำออกมาแล้วจะเห็นตัวหูฟังอยู่ด้านใน ข้างๆจะเป็นไมโครโฟนพร้อมมีสายถักที่เก็บมาอย่างดี

แน่นอนว่าตามสไตล์ของสินค้าต่างๆต้องมาพร้อมกับคู่มือและรายละเอียดของสินค้าใครที่อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมของ HyperX Cloud PS4 ก็สามารถอ่านเพิ่มเติมได้เลย

มาดูกันที่ตัวหูฟัง HyperX Cloud PS4 ถือว่ามีขนาดไม่ต่างจากหูฟังแบบ Headsets จากทาง HyperX โดยการที่มีการเปลี่ยนสีจากแดงมาเป็นน้ำเงินถือว่ามีความแปลกตา และเข้ากับสีดำที่ตัดกันได้อย่างลงตัวไม่น้อย 

ในส่วนของ Earpad มีความนุ่มและสบายทำให้สามารถใช้เล่นเกมได้ในระยะเวลาที่ยาวนานกว่าการใช้หูฟังทั่วๆไป ที่สำคัญหากใช้ไปนานๆแล้วอยากเปลี่ยนก็สามารถทำได้

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าหูฟังตัวนี้มีโครงอะลูมิเนียมทำให้เพิ่มความทนทานและมีน้ำหนักเบา ในส่วนของการปรับระดับก็ถือว่าปรับได้หลายระดับเข้ากับผู้ใช้งานในทุกๆกลุ่ม

ขณะที่ตัวไมโครโฟนสามารถที่จะถอดออกมาเวลาที่ไม่ต้องการใช้งานได้ โดยไมโครโฟนมาพร้อมกับการตัดเสียงรบกวนในตัว ใช้งานง่ายเสียงชัดเจน

แผงควบคุมมีความเข้าใจได้ง่ายมาพร้อมกับความสามารถในการเปิด / ปิดไมโครโฟนและการเพิ่ม / ลดเสียง

มาดูกันที่สายที่ใช้งานในการเชื่อมต่อกันบ้างตัวสายเป็นสายแบบถักที่มีความทนทาน มีความยาวของสายอยู่ที่ 1.3 เมตร เพียงพอต่อการใช้งาน

การใช้งาน

หลังจากที่ได้ลองใช้งาน HyperX Cloud PS4 ก็ต้องบอกว่าครั้งแรกที่ได้เห็นเนื่องจากว่าเป็นการคงไว้ซึ่งดีไซน์ของ HyperX Cloud เพียงแต่เปลี่ยนสีตรงโครงจากสีแดงเป็นน้ำเงิน ในส่วนของย่านเสียงที่ออกมาจากการฟังถือว่าสามารถให้เสียงออกมาได้ในทุกๆย่าน โดยเฉพาะเสียงเบสที่ให้ลักษณะออกมาได้ไม่หนักแบบเกินทน แต่เป็นเบสที่มีความละมุนในตัว ในขณะที่ย่านเสียงสูงจะถือว่าทำออกมาได้ชัดเจนดี แต่จากที่ลองใช้งานแล้วอาจจะไม่เหมาะกับการนำไปฟังเพลงโทนนี้มากนัก แน่นอนว่าย่านเสียงกลางหูฟังตัวนี้กินเรียบทั้งหมด มาพูดในเรื่องของรายละเอียดเสียงที่ได้หากนำไปเล่นเกมต้องบอกว่าได้รับเสียงที่ออกมาได้อย่างถูกต้อง เช่นการเดิน เสียงตกกระทบ เสียงพูด ทำออกมาได้ดี 

สำหรับการทดสอบเล่นเกมอย่าง Resident Evil 3 Remake เกมระดับตำนานที่ได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ ตัวหูฟังHyperX Cloud PS4 สามารถให้ใช้งานร่วมกันได้เป็นอย่างดี การแยกรายละเอียดของเสียงต่าง ๆ ทำออกมาได้เป็นอย่างดี ในส่วนของทิศทางการมาถึงของศัตรูภายในเกมเราสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างช่วงที่เราต้องเผชิญหน้ากับบิ้กบอส Nemesis หูฟังตัวนี้ช่วยให้เราสามารถที่จะหลีกเลี่ยงการโจมตีต่าง ๆ ทิศทางการเข้ามาถึงตัวผู้เล่นได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าพี่เนของเราไม่มีทางได้แอ้มอย่างแน่นอน

ขึ้นชื่อว่าหูฟังสำหรับเล่นเกมทำให้การเล่นเกมเราสามารถการันตีได้เลยว่ามันดีจริงๆ แต่ส่วนตัวในเรื่องของการฟังเพลงอาจจะเก็บรายละเอียดของเสียงออกมาได้ไม่คมมากนัก แต่รายละเอียดของเสียงที่ได้ก็ยังคงออกมาครบให้พอได้ยินอยู่บ้าง ส่วนตัวแล้วการฟังเพลงที่อยู่ระหว่างทุ้มถึงกลางนับว่าน่าประทับใจ 

เล่นกันเพลินจนลืมเวลาเผลอแว่บเดียวแบตของจอยก็ดูเหมือนจะหมดเสียแล้ว ถามว่ารู้ได้ยังไงก็เพราะว่าเรามีอุปกรณ์อย่าง HyperX ChargePlay Duo แท่นชาร์จที่มีประโยชน์อย่างมาก หากใครที่ไม่เคยลองอาจจะคิดว่าอุปกรณ์ตัวนี้จำเป็นจริง ๆ หรือ ? ก็ต้องตอบว่าตอนแรกเราก็คิดแบบนั้นเช่นกัน แต่เมื่อได้ลองใช้งานจริงแล้วพบว่ามันช่วยให้เราเล่นเกมได้ต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น สามารถที่จะเล่นเกมโดยที่ลืมเรื่องสายไปเลยก็ว่าได้

จุดเด่นของ HyperX ChargePlay Duo คือการที่มาพร้อมกับจอที่บอกไฟสถานะของแบตเตอรี่ของจอย DualShock 4 ทำให้เราสามารถประมาณได้ว่าจะต้องชาร์จเมื่อไหร่โดยที่ไม่ต้องไปกดดูสถานะของแบตเตอรี่ผ่านตัวระบบอีกต่อไปให้เสียเวลา เพียงแค่วางจอยลงไปก็จะเห็นสถานะของแบตเตอรี่ในตัวจอยได้ทันที อีกทั้งหากใครที่มีจอยสำรองอีกหนึ่งจอยจะเหมาะกว่าเดิมเพราะ แท่นชาร์จตัวนี้รองรับการชาร์จพร้อมกัน 2 จอบ อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบชาร์จไวทำให้สามารถชาร์จได้ไวกว่าการชาร์จผ่านรูปแบบอื่น ๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่แนะนำให้ทุกคนต้องมีติดเครื่องเอาไว้เลย เพราะคุณจะลืมการชาร์จแบบเดิมไปอีกนาน

อ่านรีวิวหูฟัง HyperX ChargePlay Duo ได้ที่นี้ >>> HyperX ChargePlay Duo <<<

สรุป

HyperX Cloud PS4 เรียกว่าเป็นร่างจำแลงอีกตัวของ HyperX Cloud ที่ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานคอนโซลอย่าง PS4 ด้วยโทนสีและการออกแบบที่ทำออกมาให้เข้ากัน ในส่วนของการใช้งานเริ่มจากการใส่หูฟังตัวนี้ทำออกมาได้ดีสามารถใช้เล่นด้วยระยะเวลานานได้อย่างไม่มีปัญหาและไม่มีอาการล้าของหู เรื่องของเสียงนับว่าตอบโจทย์เกมเมอร์เพราะเสียงที่ได้ออกมาภายในเกมมา ครบและชัดทุกรายละเอียด และด้วย Earpad  ที่ทำออกมาได้นุ่มทำให้อาการปวดหูหลังจากใช้งานหมดไปทันที โดยรวมๆแล้วเหมาะสมอย่างยิ่งต่อการนำมาใช้งาน ราคา 2,890 บาท

ข้อดี

– สีที่มีการออกแบบเฉพาะแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ

– Earpad ที่ออกแบบมาได้ดีทำให้ไม่เกิดอาการปวดหูหลังจากใช้ไปนานๆ

– ไมโครโฟนสามารถถอดเก็บได้ ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ

– รายละเอียดของเสียงที่ออกมาครบเหมาะแก่การเล่นเกม

– น้ำหนักเบาใส่สบายไม่บีบหัว

ข้อสังเกต

– ดีไซน์ที่แทบจะถอดแบบมาจากตระกูล Cloud 

– การนำไปใช้งานฟังเพลงอาจจะมีเสียงที่ดรอปลงไปเมื่ออยู่ในย่านเสียงสูง

ขอขอบคุณ: HyperX สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้ สามารถหาซื้อ HyperX Cloud PS4 และสินค้าอื่นๆได้ที่ Mercular

รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมhttps://hyperx.gg/2yImGQB

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save