สวัสดีเพื่อนๆ ชาว The Macho ทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งกับการอัพเดทเรื่องราวความก้าวหน้าในโลกไอทีของมนุษยชาติ สำหรับในครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับเทคโนโลยี MR ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสร้างโลกเสมือนจริงเทรนด์ใหม่ที่คาดว่ากำลังจะมาถึงชีวิตประจำวันของเราในเร็ววันนี้ โดยเทคโนโลยี MR จะทำให้ AR และ VR ที่เรารู้จักกันในวันนี้เป็นเพียงแค่วันวาน เพราะ MR จะมาอุดข้อเสียทุกอย่างที่ AR และ VR มีร่วมกัน เมื่อเกริ่นมาถึงตรงนี้แล้วเพื่อนๆ หลายคนคงอยากรู้จัก MR กันขึ้นมาแล้วใช่มั้ยล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ตามมาอ่านกันเล้ยย

ทำความรู้จักเทคโนโลยี AR และ VR

สำหรับคนที่ติดตามเรื่องราวเทคโนโลยีไอทีเป็นประจำก็คงจะรู้จักเทคโนโลยี AR และ VR กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่คนที่ไม่ใช่สายนี้ก็คงต้องมาปูพื้นกันหน่อย เพราะก่อนที่เราจะไปพูดถึงเทคโนโลยี Mixed Reality ที่กำลังมาแรงมากในตอนนี้ เราจำเป็นต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี AR และ VR กันซะก่อน

มาเริ่มกันที่ AR ชื่อเต็มคือ Augmented Reality เป็นเทคโนโลยีการซ้อนข้อมูลเข้ากับโลกความเป็นจริง ซึ่งเราจะต้องอาศัยเครื่องมือที่มีอยู่แล้วในชีวิตประจำวันเพื่อใช้ในการดู เช่น กล้องดิจิตอล หรือจอสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต แล้วแพนเข้าไปในส่วนต่างๆ ของโลกแห่งความจริง ก็จะเห็นวัตถุ AR หรือวัตถุเสมือนปรากฏซ้อนขึ้นมา เช่นในเกมที่ฮิตๆ อย่าง โปเกมอนโก หรือแอปพลิเคชั่นอีเกีย เป็นต้น

มาต่อกันที่เทคโนโลยี VR ชื่อเต็มคือ Virtual Reality เป็นเทคโนโลยีการสร้างโลกเสมือนจริง ซึ่งเป็นการสร้างโลกเสมือนขึ้นมาใหม่ทั้งหมดซึ่งเป็นการจำลอง 3 มิติทั้งภาพและเสียง ผู้ที่จะเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนของ VR ได้จะต้องใส่อุปกรณ์ VR เท่านั้น โดยตัวอุปกรณ์จะเป็นเฮดเซต มีทั้งแบบที่เราสามารถโต้ตอบกับโลกเสมือนไม่ได้ ทำได้แค่ดูเฉยๆ และแบบที่สามารถโต้ตอบกับโลกเสมือนจริงนั้นได้  ซึ่งเกม VR  ที่ฮิตๆ กันก็ เช่น HTC Vive และ Oculus Quest เป็นต้น แต่ข้อเสียของเทคโนโลยี VR ก็คือเราจะมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่รอบตัวในโลกความเป็นจริง ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก ต้องอยู่ในพื้นที่จำกัด ซึ่งเทคโนโลยี MR ก็จะเข้ามาตอบโจทย์สำหรับปัญหานี้

MR หรือ Mixed Reality เทคโนโลยีที่ผสมผสาน AR และ VR เข้าไว้ด้วยกัน

ด้วยเทคโนโลยี MR จะทำให้เรามองเห็นโลกแห่งความจริงอยู่ แต่จะมีการใส่ภาพจำลองควบคู่กันเข้าไปด้วย ทำให้เราเห็นกราฟิก และข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ที่ MR ได้เสริมเข้าไปซ้อนทับในโลกแห่งความจริง เสมือนเป็นโลกคู่ขนานที่ซ้อนทับกับโลกจริงที่เราอาศัยอยู่นั่นเอง

ด้วยความสามารถของ MR ดังที่กล่าวมานี้ ทำให้คอไอทีหลายคนบอกว่านี่มันคือเทคโนโลยี AR เวอร์ชั่น 2.0 เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นการยกระดับเทคโนโลยี AR ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมมากๆ เพราะที่ผ่านมานั้น AR เป็นเพียงแค่การซ้อนเลเยอร์เฉยๆ แต่ MR จะมีการใส่เทคโนโลยีของ VR เข้าไปด้วยนั่นเอง

โดยในการใช้งานเราจะยังคงต้องมองผ่านแว่น AR อยู่ แต่ไม่จำเป็นต้องถืออุปกรณ์ใหญ่เทอะทะมากมายเหมือนกับอุปกรณ์ VR คล้ายๆ กับเป็นแว่น VR แบบโปร่งใสและยังคงสามารถโต้ตอบกับวัตถุต่างๆ ในภาพเสมือนได้ด้วย และการที่เรายังคงมองเห็นโลกแห่งความจริงได้ ทำให้เราไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะเดินชนอะไร และไม่จำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่ที่จำกัดแล้ว จึงสามารถใส่ออกไปเดินนอกบ้านในชีวิตประจำวันได้เลย

ซึ่งนั่นทำให้เราสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าเทคโนโลยี MR ได้เข้ามาอุดช่องโหว่ของเทคโนโลยี AR และ VR ได้เป็นอย่างดี และที่เราได้นำเรื่องนี้มานำเสนอในครั้งนี้ก็เพราะรู้สึกว่าในช่วงปีนี้เทรนด์เทคโนโลยี MR กำลังจะมานั่นเอง เพราะในงาน CES 2020 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวคอนแท็คเลนส์ AR ที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา  และ Apple Glass ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ ซึ่งได้มีการใส่กล้อง LiDAR เข้าไปด้วย ซึ่งจะช่วยให้ก่อให้เกิดการผสมผสานระหว่างโลกแห่งความจริงกับโลกเสมือนได้อย่างลงตัวและแม่นยำมากขึ้น โดยการแสดงผลที่ได้จะเปลี่ยนจาก 2D เป็น 3D หรือ สามมิติอย่างเต็มรูปแบบ

ก้าวต่อไปของเทคโนโลยี MR ภายใต้ร่มเงา XR

สำหรับใครที่คิดว่าเทคโนโลยี MR เป็นเทคโนโลยีใหม่นั้น คุณกำลังคิดผิด เพราะต้องบอกเลยว่าเทคโนโลยี MR นั้นมีมานานแล้ว แต่ที่ผ่านมามีใช้แค่ในวงจำกัด เช่นในแวดวงวิชาการระดับสูงเท่านั้น ยังไม่ได้มีการนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เช่นก่อนหน้านี้ บริษัท Microsoft ก็ได้มีการพัฒนาแว่น MR ที่มีชื่อว่า Hololens มาถึง 2 รุ่นแล้ว ซึ่งก็ใช้งานได้ดีมากๆ เพราะด้วยอุปกรณ์ดังกล่าวทำให้ผู้ใช้งานสามารถมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกับวัตถุในโลกเสมือนได้อย่างสมจริงสมจังเลยล่ะ แต่ว่าราคาของมันแพงมากๆ โดยอยู่ที่ชิ้นละ 35,000 ดอลล่าสหรัฐฯ หรือราวๆ 100,000 บาท สินค้าตัวนี้จึงไม่ได้รับความนิยมแพร่หลายเท่าไหร่ โดยสินค้าพวกนี้สมัยก่อนเน้นไปเพื่อการใช้งานแบบเฉพาะทาง เช่น ในงานวิจัยขั้นสูง งานอุตสาหกรรม งานช่าง การแพทย์ ที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อน และไอเดียในการทำงานสูง การมาของ Apple Glass จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยี MR ได้มากขึ้น สามารถนำโลกเสมือนเข้ามาสู่ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็วและพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด  และด้วยเทรนด์การพัฒนาในลักษณะที่เป็นเช่นทุกวันนี้บ่งชี้อย่างชัดเจนว่าเทคโนโลยี MR กำลังจะแทรกซึมเข้าสู่ชีวิตประจำวันของชาวโลกแล้ว

เมื่อได้พูดถึงเทคโนโลยีการสร้างโลกเสมือนแล้ว เราก็ขอเพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อยกับคำว่า XR หรือ Extended Reality ที่เป็นเทคโนโลยีส่วนขยายความเป็นจริง ซึ่งทั้ง AR, VR และ MR เป็นเทคโนโลยีที่เป็นส่วนหนึ่งของ XR เพราะตัว X นั้นเป็นตัวอักษรที่แทนเทคโนโลยีอะไรก็ได้ที่เป็นเทคโนโลยีการสร้างโลกเสมือน เผื่อว่าในอนาคตมีใครคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ในลักษณะนี้อีก ก็จะถูกนำมาบรรจุไว้ในใต้ร่ม XR เช่นกัน

ในอนาคตเมื่อถึงจุดหนึ่งที่เทคโนโลยี XR ก้าวหน้ามากขึ้น จนสามารถประสานเข้ากับโลกจริงได้อย่างไร้รอยต่อแล้ว ก็จะถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวใหญ่ๆ ของการพัฒนาของมวลมนุษยชาติ และจะเป็นการปฏิวัติในเรื่องการเรียน การศึกษา การแพทย์ การวิจัย และอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ล้วนแล้วแต่มีความซับซ้อนละเอียดอ่อนทั้งสิ้น