สำหรับผู้ชายที่รักการถ่ายภาพ รวมถึงคนทำงานสร้างคอนเทนต์ที่ต้องการรูปภาพสวยๆ นั้น เราเชื่อว่าทุกคนต้องการภาพถ่าย และวิดีโอในมุมมองใหม่ๆ หนึ่งในนั้นก็คือภาพถ่ายจากมุมสูง ซึ่งเป็นภาพที่ช่างสวยงามตระการตา และมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก เหมือนเวลาที่เราได้มองวิวสวยๆ จากหน้าต่างเครื่องบิน บนตึกสูงๆ หรือบนยอดเขาสูงนั่นเอง

แต่ภาพเหล่านี้ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ หากเราไม่ขึ้นไปอยู่บนที่สูงใช่มั้ยล่ะครับ แต่ตอนนี้ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จัก Mavic Air 2 จากค่าย DJI เป็นโดรนอัจฉริยะเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด มาในขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวกสบายเหมาะสำหรับคนทำงานสายคอนเทนต์ ซึ่งมันจะช่วยคุณเก็บภาพสวยๆ จากมุมสูงได้อย่างน่าประทับใจเหมือนได้บินถ่ายภาพอยู่บนฟ้าเองเลย  หลายคนคงสนใจขึ้นมาแล้วใช่มั้ยล่ะ ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าว่าโดรนตัวนี้ดีอย่างไร และราคาเท่าไหร่ ใครสนใจก็เลื่อนลงไปดูกันเล้ยย

การออกแบบ และระบบพลังงาน

โดรน Mavic Air 2 เป็นโดรนรุ่นแรกของตระกูล Mavic ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กกะทัดรัดสามารถถือได้ด้วยมือเดียว มีน้ำหนักเพียง 0.57 กิโลกรัมเท่านั้น ขึ้นบินด้วยใบพัด 4 ตัว ส่งกำลังโดยมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่ควบคุมความเร็วด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ESC) แบบใหม่ เก็บกักพลังงานด้วยแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น ดีไซน์ภายนอกของโดรนตัวนี้ได้รับการออกแบบมาอย่างถูกต้องตามหลักอากาศพลศาสตร์ จึงมีเสถียรภาพในการบินที่สูงมาก สามารถขึ้นบินเก็บภาพได้นานสุด 34 นาที

ความสามารถด้านการบิน

จุดเด่นด้านการบินของโดรน Mavic Air 2 ก็คือระบบการบินอัจฉริยะ ซึ่งเป็นการทำงานประสานกันระหว่างระบบประมวลผล และเซนเซอร์ที่ติดอยู่รอบตัวโดรน โดยเซนเซอร์จะทำหน้าที่ตรวจจับสิ่งกีดขวางที่อยู่รอบตัวมัน และแจ้งเตือนเมื่อโดรนเข้าใกล้วัตถุมากเกินไปจนอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อโดรนได้ และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือระบบการบินอัตโนมัติที่เรียกว่า Advance Pilot Assistance System (APAS) 3.0 ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องบังคับการบินตลอดเวลา สามารถตั้งค่ากำหนดเส้นทางการบินไว้ได้เลย ในโหมดการบินอัตโนมัตินี้เมื่อโดรนเจอสิ่งกีดขวาง มันจะสร้างเส้นทางบินใหม่เพื่อใช้ในการหลบหลีกทันที จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถบินเข้าไปในพื้นที่ซับซ้อนและมีสมาธิในการถ่ายภาพได้มากขึ้นโดยไม่ต้องพะวงกับการบังคับโดรน นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน GEO ทำหน้าที่เป็นขอบเขตเสมือน (Geofencing) คอยป้องกันไม่ให้โดรนบินเข้าไปในบริเวณที่มีการบินพลุกพล่าน เช่น สนามบิน หรือบริเวณที่มีนกชุกชม เป็นต้น และยังอำนวยความสะดวกให้เราด้วยระบบลงจอดอัตโนมัติที่แม่นยำแม้ในสภาพที่แสงน้อย  

ระบบความปลอดภัยด้านการบิน

โดรนถ่ายภาพ Mavic Air 2 เป็นโดรนรุ่นแรกของ DJI ที่ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยี AirSense ซึ่งเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยด้านการบินร่วมกับอากาศยานอื่นๆ การทำงานของมันก็คือ เมื่อโดรนบินเข้าใกล้อากาศยานลำอื่นที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ตำแหน่งของอากาศยานที่เข้าใกล้โดรนจะปรากฏแสดงที่หน้าจอของผู้ควบคุมโดรนทันที จากนั้น AirSense ก็จะเริ่มเตือนด้วยข้อความ เสียง และการสั่น เพื่อเพิ่มการรับรู้ให้ผู้ควบคุมโดรนนำโดรนออกห่างจากอากาศยานลำอื่นทันทีเพื่อความปลอดภัย

ความสามารถในการส่งสัญญาณ

โดรน Mavic Air 2 ลำนี้ใช้เทคโนโลยีส่งสัญญาณ OcuSync 2.0 ใหม่ล่าสุดเอกสิทธิ์ของ DJI เจ้าเดียวเท่านั้น ซึ่งสามารถรองรับทั้งช่วงคลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5.8 GHz โดยสามารถสลับคลื่นความถี่อัตโนมัติขึ้นกับความแรงของสัญญาณ อีกทั้งยังมาเทคโนโลยีป้องกันการรบกวนจากสัญญาณอื่นที่ไม่ต้องการ เพื่อให้โดรนสามารถส่งสัญญาณกลับมาหาผู้ใช้งานได้ชัดเจนที่สุด ดังนั้นด้วย เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้โดรนลำนี้สามารถส่งสัญญาณวิดีโอคุณภาพระดับ HD มาให้เราได้ในระยะทางไกลสุดถึง 10 กิโลเมตร

ความสามารถด้านการถ่ายภาพ

ความโดดเด่นด้านการถ่ายภาพของโดรน Mavic Air 2  เริ่มด้วยระบบกิมบอลแบบ 3 แกน ช่วยป้องกันการสั่นไหวของกล้อง เพื่อสร้างภาพที่นิ่งและเสถียร แม้ในสภาพการบินที่ยากลำบาก ด้านความสามารถในการถ่ายภาพวิดีโอนั้น โดรนลำนี้สามารถให้วิดีโอระดับ 4K ที่ 60 fps และ 120 Mbps, วิดีโอ HDR, 4X Slow Motion ที่ความละเอียด 1080p 120 fps หรือ 8X Slow Motion ที่ความละเอียด 1080p 240 fps โดยผู้ใช้งานสามารถบันทึกภาพ 12 เมกะพิกเซล  หรือที่ความละเอียดสูง 48 เมกะพิกเซลซึ่งเป็นภาพถ่ายที่เก็บรายละเอียดได้น่าทึ่ง    

โหมดการถ่ายภาพใหม่ล่าสุด Smart Photo

มาปิดท้ายกันที่เรื่องสุดท้ายที่เป็นไฮไลท์ นั่นก็คือโดรนลำนี้มาพร้อมเซ็นเซอร์แบบ Quad Bayer 1/2 นิ้ว ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ Mavic Air 2 เป็นเครื่องมือที่จะนำเราไปสู่ไอเดียสร้างสรรค์ด้วยโหมดการถ่ายภาพแบบใหม่ที่เรียกว่า Smart Photo ซึ่งจะบันทึกภาพถ่ายความละเอียด 12 เมกะพิกเซล โดยใช้เทคนิค Deep Learning Machine เพื่อเลือกวิธีการถ่ายภาพหนึ่งในสามทางเลือกประกอบด้วย HDR ซึ่งจะเป็นการถ่ายภาพที่ค่ารับแสงแตกต่างกัน 7 ค่า แล้วนำมารวมเข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ได้ภาพไดนามิกสูง Hyperlight

ซึ่งเป็นระบบการถ่ายภาพที่ออกแบบมาสำหรับสถานการณ์ที่มีแสงน้อย โดยจะถ่ายภาพหลายภาพและผสานเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจน ขจัดสัญญาณรบกวนซึ่งมักพบในฉากที่มีแสงน้อย และการจำแนกภาพ  ด้วยการจำแนกฉากได้ 5 หมวดหมู่ ได้แก่ พระอาทิตย์ตก ท้องฟ้าสีฟ้า หญ้า หิมะ และต้นไม้ ปรับการตั้งค่าให้เหมาะสม เพื่อให้ภาพถ่ายมีความโดดเด่นด้วยสีสัน รายละเอียด และโทนสีขั้นสูงสุด นั่นเอง

นี่ก็คือ Mavic Air2 โดรนถ่ายภาพอัจฉริยะเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก DJI ที่เราอยากนำเสนอให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะโดนใจคนรักการถ่ายภาพ และคนทำคอนเทนต์กันทุกคนนะครับ เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าหากคุณได้โดรนลำนี้ไป มันจะเป็นผู้ช่วยสำคัญที่จะพาคุณเปิดโลกทัศน์ออกสู่มุมมองใหม่ๆ ที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน พร้อมกับได้ภาพถ่าย และวิดีโอที่แปลกใหม่เป็นรางวัลเพื่อใช้ในการนำเสนอคอนเทนต์สดใหม่น่าสนใจสู่สายตาสาธารณชนต่อไป

หากใครสนใจ โดรน Mavic Air 2 มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 25,900 บาท สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ ที่ร้านไอที และร้านค้าออนไลน์ชั้นนำทั่วไป สนใจ >>คลิก<<

Text – Sujate Wanchat