แนะนำ "ลิปมันสำหรับผู้ชาย 2020" ใช้ดีของมันต้องมี - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
แนะนำ “ลิปมันสำหรับผู้ชาย 2020” ใช้ดีของมันต้องมี

นอกจากหนุ่ม ๆ จะหันมาดูแลตัวเองในเรื่องของเสื้อผ้าหน้าผมแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ ริมฝีปาก หลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยไม่สำคัญ แต่ถ้าวันหนึ่งวันใดคุณเกิดมีนัดพิเศษหรือไปเดทกับสาว แล้วต้องออกไปด้วยสภาพริมฝีปากที่แห้งแตกลอกเป็นขุย มันก็คงจะดูไม่ดีไม่งามสักเท่าไหร่แถมคุณยังเสียความมั่นใจตามไปด้วยว่าไหมละครับ

ฉะนั้นวันนี้ผมเลยอยากจะมาแนะนำลิปมันเพื่อจัดการกับปัญหาริมฝีปากรวมถึงแชร์ประสบการณ์ตรงจากการใช้งานจริงของตัวผมเองว่าลิปมันแต่ละแบรนด์นั้นมีจุดเด่นในเรื่องอะไรบ้าง เพื่อให้คุณได้ใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อลิปมันครั้งต่อไป แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น ผมอยากให้คุณทำความเข้าใจกับสาเหตุของปัญหาริมฝีปากแห้งแตกกันเสียก่อน

ทำไมถึงปากแห้ง?

อย่างที่ทราบกันดีว่าสาเหตุหลักของอาการปากแห้งลอกนั้นมาจากการขาดน้ำ ดื่มน้ำน้อย ส่วนสาเหตุอื่น ๆ ก็มักจะมาจากการดื่มสุรา สูบบุหรี่ รวมไปถึงปัญหาด้านสุขภาพ และการใช้ยาปฏิชีวนะต่าง ๆ ซึ่งวิธีแก้หลัก ๆ เลยก็คือควรหมั่นดื่มน้ำให้ได้วันละ 7-8 แก้ว พักผ่อนให้เพียงพอ และควรหาเวลาว่างในการออกกำลังกายเพื่อทำให้ตัวเองมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงอยู่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ก็ยังมีตัวช่วยอีกหนึ่งอย่างที่ใช้แล้วเห็นผลทันตาเลยก็คือ ลิปมัน ซึ่งจะมีลิปมันจากแบรนด์ไหนน่าใช้บ้างนั้นตามไปดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าครับ

Nivea Lip Original Care

ลิปมันหลอดสีน้ำเงินในตำนานจากนีเวียร์แท่งนี้น่าจะเป็นลิปมันแท่งแรกที่ผมควักตังค์ซื้อเลยก็ว่าได้ ด้วยราคาที่เป็นมิตรจับต้องได้เพียงแท่งละ 79 บาท แต่เพียบพร้อมไปด้วยคุณประโยชน์ที่สวนทางกับราคา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื้นที่ถือเป็นจุดเด่นของลิปมันแท่งนี้เลยก็ว่าได้ ทาแล้วไม่มีสี ไม่รู้สึกเหนอะหนะ จัดการกับปัญหาปากแห้งลอกได้อยู่หมัด ทาครั้งเดียวสามารถอยู่ได้ยาวกว่า 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว แถมแพคเกจจิ้งมันก็ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับหนุ่ม ๆ อย่างพวกเราอีกด้วย ให้คุณได้หยิบขึ้นมาทาซ้ำได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องเขิลอายกันเลยทีเดียว

ราคา: 79 บาท

หาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป, Boots และ Watsons >> คลิก <<

Carmex

ตัวนี้ถือเป็นลิปมันในดวงใจของผมเลยก็ว่าได้ ใช้มานานปัจจุบันก็ยังใช้อยู่ เป็นลิปมันผสมสารกันแดดแบบไม่มีสี ทาแล้วปากไม่มันเยิ้ม ช่วยให้ปากนุ่มชุ่มชื่นได้ยาวนานตลอดทั้งวัน และยิ่งคุณใช้ไปนาน ๆ มันก็จะช่วยเพิ่มความสว่างให้กับริมฝีปากของคุณอีกด้วย สำหรับใครที่มีปากสีดำคล้ำ ลองไปหาซื้อคาร์เม็กตัวนี้มาใช้ดูนะครับ รับรองว่าเห็นผลแน่นอนแต่คุณต้องหมั่นทาเป็นประจำด้วยละ ลิปมันตัวนี้มีด้วยกันหลายสูตรไม่ว่าจะเป็น ออริจินัล, เชอร์รี่, สตรอเบอร์รี่ หรือวานิลา แต่ถ้าให้ผมแนะนำผมว่าสูตรออริจินัลนี่แหละครับ แน่นอนที่สุดแล้ว

ราคา: 149 บาท

หาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป, Boots และ Watsons >>คลิก<<

Burt’s Bees Beeswax Lip Balm

ลิปมันที่ผลิตจากส่วนผสมธรรมชาติ 100% และขายดีที่สุดของเบิร์ตส์ บี โดยมีความโดดเด่นในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื่นที่ยาวนาน ใครที่กำลังประสบปัญหาปากแห้งแตกอยู่ละก็ ใช้ตัวนี้แล้วรับรองว่าเห็นผลทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยก็ว่าได้ ด้วยส่วนผสมที่มาจากเปปเปอร์มินต์ ทาแล้วคุณจะรู้สึกเย็น ๆ ซ่า ๆ สดชื่นแบบบอกไม่ถูกเลยล่ะครับ มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบทั้งแบบตลับ และแบบแท่ง ใครสะดวกแบบไหนก็จัดแบบนั้นได้เลย

ราคา: 280 บาท

หาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป, Boots และ Watsons >>คลิก<<

Sugar Lip Treatment Advanced Therapy

ลิปมันสูตรบำรุงริมฝีปากจาก Sugar ลิปมันไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ โดดเด่นในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื้นและลดริ้วรอยต่าง ๆ บนริมฝีปาก ทาแล้วคุณจะรู้สึกได้ทันทีเลยว่าริมฝีปากของคุณนั้นนุ่มแลดูสุขภาพดี ดูเรียบเนียนน่าสัมผัส สาวคนไหนเห็นแล้วบอกได้เลยว่าต้องหลงเสน่ห์ริมฝีปากของคุณอย่างแน่นอน แต่มีข้อติอยู่อย่างเดียวคือ มันเป็นลิปมันแบบละลาย ฉะนั้นถ้าคุณเก็บรักษาไว้ไม่ดีมันอาจจะละลายจนหมดหลอดก็เป็นได้

ราคา: 360 บาท

หาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป และ Sephora  >>คลิก<<

Dior Lip Glow

ลิปมันยอดฮิตของคุณสาว ๆ ที่ผมอยากจะมาแนะนำให้หนุ่ม ๆ อย่างเราได้ลองไปหามาใช้กัน ผมได้ลองแอบใช้ลิปตัวนี้ของคนใกล้ตัว แล้วรู้สึกว่าริมฝีปากดูสุขภาพดี ไม่แห้งแตก และที่สำคัญเลยคือทาเพียงครั้งเดียวก่อนออกจากบ้านก็สามารถอยู่ได้นานตลอดทั้งวัน ลิปมันจากดิออร์แท่งนี้เป็นลิปที่มีโทนสีให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นสีส้ม สีแดง หรือสีชมพู ใครอยากได้สีไหนก็ไปเลือกซื้อเลือกหากันได้ตามใจชอบเลย แต่ขอเพิ่มเติมอีกนิดว่าแพคเกจจิ้งของมันอาจจะดูมีความเป็นผู้หญิงอยู่สูง ฉะนั้นอาจจะสร้างความลำบากใจให้หนุ่ม ๆ อย่างเรา ๆ ไม่น้อย แต่สำหรับเรื่องคุณภาพนั้นบอกได้เลยว่าไม่เสียชื่อแบรนด์ดังระดับโลกอย่างแน่นอน

ราคา: 470 บาท

หาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป และ Sephora >>คลิก<<

Text – Skyscraper

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save