จดหมายถึงชาวอิตาลี โดย ฟาบิโอ คันนาวาโร่ ในวิกฤติการณ์ Covid-19 - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
จดหมายถึงชาวอิตาลี โดย ฟาบิโอ คันนาวาโร่ ในวิกฤติการณ์ Covid-19

จากสถานการณ์วิกฤต Covid-19 ที่ระบาดไปเกือบทั่วโลก ทำให้อาชีพต่างๆ จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้ตัวบุคลากรในองค์กรมีความปลอดภัยจากเชื้อสุดอันตรายนี้ และแน่นอน วงการฟุตบอลก็เช่นกัน

พวกเขาต้องหยุดพักการแข่งขันเพื่อความปลอดภัยของเหล่าแฟนบอล และเพื่อตัวพวกเขาเอง โดยบางทีมถึงกับถูกนายจ้างลดค่าจ้าง หรืองดจ่ายค่าจ้างไปเลยก็มี ซึ่งหากคุณกำลังคิดว่านักฟุตบอลคนในวงการฟุตบอลคนไหนที่ได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้มากที่สุด ใช่แล้ว ฟาบิโอ คันนาวาโร่ กุนซือชื่อดังแห่ง Chinese Super League และอดีตกองหลังกัปตันทีมทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2006

ฟาบิโอ ทำงานในประเทศที่มีการระบาดเป็นประเทศแรกในโลก แถมบ้านเกิดของเขายังมีการระบาดเป็นอันดับต้นๆของโลกนี้ แน่นอนเลยว่าเขาย่อมที่จะเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความลำบากของวกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังเขียนจดหมายเพื่อเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องในประเทศบ้านเกิดของเขา ซึ่งทางผู้เขียนคิดว่าจดหมาย ฟาบิโอ จะต้องเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องชาวไทยของเราอย่างแน่นอน และนี่ข้อความที่เขาเขียนลงในจดหมายฉบับนั้น

Source : performgroup

ถึงทุกคนที่อยู่ในอิตาลี

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศบ้านเกิดของผมในตอนนี้ มันทำให้ผมรู้สึกเป็นทุกข์ และเจ็บปวดมาก ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าชาวอิตาลีในประเทศของผมตอนนี้จะรู้สึกเจ็บปวดขนาดไหน กับการที่ได้เห็นคนเจ็บป่วย และล้มตายเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ส่วนตัวผม ผมรู้สึกเห็นใจคนที่ได้รับผลกระทบต่อวิกฤติการณ์นี้อย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่เสียคนใกล้ตัวไปด้วยโรคร้ายนี้

นอกจากนี้ ผมอยากจะเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกๆคนที่กำลังทำหน้าที่ช่วงทุกชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพราะว่าพวกเขาคือฮีโร่ที่แท้จริงของประเทศของผมในตอนนี้

แต่น่าเสียดายที่ในชีวิตจริงของพวกเราไม่มีใครที่เป็นซุปเปอร์แมน หรือสไปเดอร์แมน ไม่มีใครที่มีพลังวิเศษที่จะรอดพ้นจากไวรัสตัวนี้ได้

ผมยอมรับว่า ในตอนแรกผมประเมินความอันตรายของมันต่ำไป ผมคิดว่ามันจะคล้ายๆ กับไข้หวัดธรรมดา

แต่ผมคิดผิด

อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยประเทศของพวกเรา(อิตาลี)ก็ได้ปิดประเทศ และสั่งให้ทุกคนอยู่บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ถูกต้อง เพราะในประเทศจีนที่ที่ผมทำงานเป็นโค้ชให้กับทีม กวางโจว เอฟเวอร์แกรนด์ พวกเขาได้ใช้วิธีเดียวกันนี้จัดการกับประชาชนจนผ่านวิกฤติการณ์นี้มาได้ โดยในตอนนั้นผมกักตัวเพยงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น แต่อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ประชาชนชาวจีนรับมือกับมันได้อย่างดีก็คือ พวกเขาเคยรับมือกับโรคซาร์มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่อิตาลีไม่เคยเกิดเหตุการณ์ที่ฉุกเฉินขนาดนี้มาก่อนเลย

ตอนนี้สิ่งที่พวกเราต้องทำก็คือการสู้ไปด้วยกัน พวกเราทุกคนต้องสู้ในศึกนี้ และแน่นอน พวกเราต้องสู้ให้ถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้

ประเทศอิตาลี ถือว่าเป็นที่รู้กันดีในฐานะเมืองที่น่าประทับใจสำหรับใครหลายๆคน เรามีทั้งชายหาดที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างกับฉากในละคร รวมถึงสภาพอากาศที่น่าออกมากิจกรรมกลางแจ้งอย่างมาก พวกเรามีแฟชั่น พวกเรามีอาหาร การใช้ชีวิตในอิตาลีเป็นอะไรที่ดีมากๆจนบางครั้งผมอยากจะวางงานแล้วกลับไปพักผ่อนที่อิตาลี บางครั้งผมก็อยากจะหยุดคิดเรื่องของตัวเอง แล้วมองกลับไปหาสิ่งต่างๆที่ดีงามรอบๆตัว แต่ถ้าคุณมองเห็นสิ่งที่ผมบอกไปข้างต้นอยู่แล้ว ผมอยากจะบอกพวกคุณว่า วิกฤติการณ์นี้มันทำให้ประเทศของเราเสียศักยภาพเหล่านี้ไป

แต่อย่างไรก็ตาม นี่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ทำสิ่งสำคัญเพื่อปกป้องประเทศที่พวกเราภาคภูมิใจ และช่วงเวลาเหล่านั้นมักจะมาพร้อมกับความยากลำบากเสมอ มันอาจเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับใครหลายๆคนก็เป็นได้

Source : theplayerstribune

ซึ่งผมเคยมีประสบการณ์ที่สำคัญๆเช่นนี้บ่อยครั้ง ยกตัวอย่างเช่นการที่อิตาลีได้ไปเล่นทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลโลก มันอาจฟังดูแปลกที่เอาสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ไปเทียบกับกีฬา แต่ในอิตาลีฟุตบอลเป็นอะไรที่มากกว่ากีฬา และเมื่อทีมชาติเดินเข้าสู่สนาม ผมสัมผัสได้ว่าทุกๆคนกำลังสู้ไปร่วมกับผม ผมรู้สึกได้ว่าทุกคนกำลังสู้ไปด้วยกัน

และเมื่อชาวอิตาลีทุกคนร่วมมือกัน พวกเรามักจะทำออกมาได้ดี

ในเวลานี้ก็เช่นกัน เรากำลังอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ พวกเราทุกคนต้องสู้ไปด้วยกัน และพวกเราต้องทำมันออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้

ผมยังจำได้ ตอนที่ผมอายุได้ 8 ขวบ อิตาลีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1982 ตอนนั้นผมเป็นแค่เด็กคนหนึ่งในเมืองเนเปิ้ลส์ ในเมืองของผมมีแต่คนดูฟุตบอลอยู่ในบ้านของตัวเอง หรือไม่ก็บ้านเพื่อน ผมจำได้ว่า ตอนที่ทีมอิตาลีทำประตูได้ พวกเราเฮดีใจไปพร้อมๆ กัน และกระโดดกอดกันแม้ว่าจะไม่รู้จักกันก็ตาม

และตอนที่ผมเป็นกัปตันทีมชาติในศึกฟุตบอลโลก 2006 ผมก็ได้เห็นสิ่งที่คล้ายๆ กันเหมือนกับตอนที่ผมเป็นเด็ก ผมสารภาพเลยว่าก่อนหน้าที่เราจะไปเล่นในทัวร์นาเม้นต์นั้น ทีมชาติอิตาลีประสบปัญหาอย่างมากเช่นกัน ตั้งแต่พวกเรารวมตัวกันเพื่อเตรียมตัว พวกเราทุกคนต่างวิตกกังวล มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมายจนทำให้เราแทบไม่มีสมาธิในการซ้อม

แต่เมื่อพวกเราต้องทำหน้าที่ พวกเราจะทิ้งสิ่งเหล่านั้นไว้ข้างหลัง แล้วทำให้แคมป์มีบรรยากาศที่ดี นั่นคือกุญแจสำคัญที่ทำให้เราทำสิ่งสำคัญได้สำเร็จ ในช่วงเวลาที่สำคัญของพวกเราตอนนั้น พวกเราไม่ใช่แค่เอาแต่ดูแลตัวเอง เราทุกคนใส่ใจซึ่งกันและกัน นอกจากนี้เรายังมีผู้นำที่ให้ความสำคัญกับความสามัคคี อย่าง มาร์เชโล่ ลิปปี้ เขาเป็นคนที่ทำให้เรามีความกลมเกรียว จนพวกเรารู้สึกว่าเป็นก้อนเดียวกันก่อนที่เราจะไปที่อิตาลีกันซะอีก และเมื่อเราไปถึงที่นั่น เราทุกคนต่างลืมเรื่องราวปัญหาของตัวเองไปจนหมดสิ้น พวกเราทุกคนต่างอยากจะลงเล่นจนแทบจะอดทนรอไม่ไหว

หลังจากจบทัวร์นาเม้นต์ แฟนบอลต่างถามผมว่าทำไมอิตาลีถึงได้แชมป์โลก ผมอยากจะบอกว่าพวกเราไม่ได้คว้าแชมป์มาเพราะโชคช่วย แต่พวกเราได้มาเพราะพวกเราเชื่อมั่นว่าเราจะชนะ และเชื่อมั่นว่าพวกเราคือทีมที่ดีที่สุด

ตอนนี้ผมต้องการให้ทุกคนในประเทศรวมจิตวิญญาณเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนพวกเราในตอนนั้น ผมอยากให้ทุกคนเชื่อว่าพวกเราจะต้องทำได้ ประเทศของพวกเราจะต้องสามัคคีกันเอาไว้ เหมือนกับวลีหนึ่งที่ว่า andrà tutto bene ที่แปลว่า ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย ผมอยากให้คำๆนี้เป็นกำลังใจให้คนที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน คนที่กำลังกลัว คนที่กำลังหดหู่ และสำหรับเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ ผมอยากให้ทุกคนออกมาปรบมือเขาที่หน้าบ้าน หรือที่ระเบียง เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขาไปพร้อมๆกัน บางทีคุณอาจจะเปิดเพลงแล้วร่วมร้องเพลงกับเพื่อนบ้านไปด้วยกันก็ได้ เพื่อเป็นกำลังใจให้ซึ่งกันและกัน ซึ่งมันเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับพวกเราในตอนนี้

Source : italian-traditions

และเมื่อวิกฤติการณ์นี้จบลง ประเทศอิตาลีอาจจะเปลี่ยนไป หลายคนอาจต้องออกจากงาน หลายคนอาจเสียธุรกิจของตัวเอง อาจมีหลายอย่างที่ต้องฟื้นฟูกันอย่างหนัก และเมื่อถึงเวลานั้นพวกคุณจะมองเห็นความสำคัญของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ส่วนในตอนนี้ถ้ามีใครซักคนผลิตวัคซีนขึ้นมาได้แล้ว ผมอยากจะบอกให้เขาส่งไปทั่วโลกให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้วันคืนอันเลวร้ายของพวกเราได้จบลงเสียที

แต่ก่อนจะถึงวันนั้น ผมอยากจะให้พวกเรากักตัวอยู่แต่ในบ้าน ใช้เวลากับครอบครัว และติดต่อกับคนอื่นโดยตรงให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

และถ้าคุณไม่ได้เดือดร้อนมากนัก ผมอยากให้คุณลองทำหลายๆ อย่างเพื่อส่วนรวม เช่นเดียวกับสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ในตอนนี้ ผมได้เริ่มการระดมทุนร่วมกับเพื่อนร่วมทีมชุดแชมป์โลก 2006 เพื่อนำไปบริจาคให้สภากาชาด เพื่อให้โรงพยาบาลต่างๆ ได้นำไปจัดหาอุปกรณ์มาเพิ่มเพื่อต่อสู้กับไวรัส และผมหวังว่าพวกคุณจะร่วมมือกับผมในการบริจาค

แต่ถ้าคุณไม่สะดวก คุณสามารถทำประโยชน์ให้คนอื่นได้ง่ายๆ โดยการช่วยเหลือเพื่อนบ้านเมื่อพวกเขาเดือดร้อน ในสถานการณ์แบบนี้ พวกคุณต้องจำไว้ว่า เราทุกคนต้องร่วมมือกันต่อสู้ ความพยายามในรูปแบบทีมเวิร์คจำเป็นต้องให้ทุกคนร่วมมือกันจึงจะส่งผลเป็นรูปธรรม

แน่นอน มันคือเรื่องจริงที่โลกนี้ไม่มีใครเป็นซุปเปอร์แมน

แต่เมื่อพวกเราก้าวออกมาทำมันพร้อมๆ กัน พวกเราจะประสบความสำเร็จในทุกสิ่ง

เข้มแข็งไว้นะ พี่น้องของผม

ด้วยความรักจากใจ

ฟาบิโอ คันนาวาโร่

สำหรับใครที่อ่านจดหมายของฟาบิโอแล้วอยากจะร่วมบริจาคก็สามารถไปตามลิ้งค์นี้ได้เลย >>กองทุนทีมชาติอิตาลี ชุดแชมป์โลก 2006 คลิกที่นี่ <<

สุดท้ายนี้ ผู้เขียนหวังว่าจดหมายฉบับนี้ของ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ จะเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ Covid-19 ไม่มากก็น้อย และขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่เสียคนใกล้ชิดไปเพราะเชื้อ Covid-19 มา ณ ที่นี้ด้วย ซึ่งผู้เขียนคิดว่าประเทศไทยเราจะผ่านพ้นวิกฤติการณ์นี้ในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน

Aekkung
Football / Gaming / BNK48 & CGM48 / Vegetarian / Religious

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save