ข่าวดีรถยนต์ไฟฟ้า Toyota CHR EV เปิดตัววางขายที่จีนแล้ว - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
ข่าวดีรถยนต์ไฟฟ้า Toyota CHR EV เปิดตัววางขายที่จีนแล้ว

ปัจจุบันกระแสของยานยนต์ไฟฟ้ามาแรงแบบฉุดไม่อยู่แล้วในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และยุโรป ค่ายยานยนต์ใหญ่ๆ ต่างกระโดดเข้ามาร่วมวงแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดยานยนต์ไฟฟ้าอย่างถึงพริกถึงขิง

สำหรับใครที่ติดตามข่าวสารยานยนต์ก็คงจะทราบว่าตอนนี้ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็คือประเทศจีน จึงไม่น่าแปลกใจที่ค่ายยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง โตโยต้า จะรีบเข้ามารุกตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในจีนก่อนที่อื่นๆ บนโลกใบนี้ โดยปีที่แล้วในงาน Auto Shanghai 2019 ที่ผ่านมา โตโยต้าได้เผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้า Toyota C-HR EV เวอร์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่างเป็นทางการ และล่าสุดในตอนนี้ซึ่งอยู่ในช่วงกลางปี 2020 โตโยต้าก็พร้อมจะวางจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ในจีน ซึ่งมีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า Ezer E Jinqing หรือรู้จักกันในนาม CHR/IZOA เคาะราคาอย่างเป็นทางการอยู่ระหว่าง 228,500-253,800 หยวน (1.01 – 1.14 ล้านบาท) ซึ่งข้อมูลสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้จะเป็นอย่างไร ใครสนใจอยากรู้ก็ตามมาดูกันเลย

ที่มาที่ไปของรถยนต์ Toyota C-HR EV เวอร์พลังงานไฟฟ้า 100%

 หลายคนคงไม่ทราบมาก่อนว่าแต่เดิมนั้น โตโยต้า มีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือ EV ในช่วงปี 2025 แต่ด้วยกระแสของรถยนต์ไฟฟ้าที่มาเร็วกว่าที่คิด โดยเฉพาะในประเทศจีนซึ่งตอนนี้บูมหนักมาก ทำให้โตโยต้าต้องรีบปล่อยรถยนต์ EV ออกมาเร็วกว่ากำหนดการเดิม

กระแสความบูมของยานยนต์ไฟฟ้าในจีนนั้นเกิดจากการที่รัฐบาลจีนมีนโยบายสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าถูกลงจนผู้คนทั่วไปสามารถจับต้องได้ จึงเป็นสาเหตุให้โตโยต้าซึ่งเป็นค่ายยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบันไม่ต้องการเสียโอกาสทองนี้ จึงได้เร่งปล่อยรถยนต์ไฟฟ้า Toyota C-HR EV เข้าสู่ตลาดในประเทศจีนทันที

รูปลักษณ์ภายนอกของรถ Toyota C-HR/Izoa

Toyota C-HR/Izoa มีรูปโฉมไม่ต่างกับรถยนต์ Toyota C-HR รุ่นล่าสุดในบ้านเราตอนนี้ โดยจะมีจุดที่แตกต่างเพียงเล็กน้อยเช่น ช่องลมหน้าแบบรังผึ้ง และตัวถังสี Monotone ไฟหน้าเป็นแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED เช่นกัน และล้อที่เลือกใช้เป็นแบบอัลลอยขนาด 17 นิ้ว ยาง 215/60 R17 เรียกได้ว่าแตกต่างนิดเดียวชนิดที่ถ้าไม่สังเกตจริงๆ ก็มองไม่ออก จึงได้มีการเพิ่มความแตกต่างให้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มโลโก้ “ELETRIC” ลงในกันชนด้านข้างและด้านหลังของรถส่วนข้อมูลด้าน Dimension ของรถยนต์ Toyota C-HR EV มีดังนี้

ขนาดตัวถัง: C-HR EV
กว้าง: 4,405 มิลลิเมตร
ยาว: 1,795 มิลลิเมตร
สูง: 1,575 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ: 2640 มิลลิเมตร
น้ำหนักตัวถัง: 1780 กิโลกรัม
รัศมีวงเลี้ยวต่ำสุด: 5.2 มิลลิเมตร

ภายในห้องโดยสารของรถยนต์ไฟฟ้า Toyota C-HR/Izoa

บรรยากาศ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารของ Toyota C-HR/Izoa ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับรถยนต์ Toyota C-HR รุ่นล่าสุดในบ้านเราตอนนี้เช่นกัน ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือการแสดงผลบนหน้าจอที่เปลี่ยนไป เพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของระบบยานยนต์ไฟฟ้า ภายในตกแต่งในธีม Star Fantasy Blue ตัดด้วยเบาะสีขาว อุปกรณ์พื้นฐานมีครบเช่นเคยตามมาตรฐานของรุ่น C-HR ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นปรับได้ 4 ทิศทาง หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว หลังคาซันรูฟ ลำโพง 6 ตำแหน่ง เบาะหนังแท้ พวงมาลัยและคันเกียร์หุ้มหนังแท้ เป็นต้น

ข้อมูลสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้า Toyota C-HR/Izoa

รถยนต์ Toyota C-HR/Izoa เป็นยานยนต์ไฟฟ้าชนิดมอเตอร์ไฟฟ้าเดียว ให้กำลัง 200 แรงม้า แรงบิต 300 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0 – 50 กม./ชม. ภายใน 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุดคือ 160 กิโลเมตร / ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ 400 กม./ชาร์จ NEDC ขนาดแบตเตอรี่ 54.3 kWh โดยถ้าเป็นการชาร์จในระบบ AC 220V / 32A  จะใช้เวลาชาร์จประมาณ 6.5 ชั่วโมง และการชาร์จในระบบ AC  220V / 8A จะใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จด่วนในระบบ DC จะใช้เวลาชาร์จประมาณ 50 นาทีในการชาร์จให้ได้ถึงความจุ 75%

ระบบความปลอดภัยในการขับขี่ของ Toyota C-HR/Izoa

ระบบความปลอดภัยในการขับขี่ของ Toyota C-HR/Izoa ยังคงเป็นมาตรฐานเดียวกับที่มีอยู่ใน C-HR รุ่นล่าสุดในบ้านเรา ประกอบไปด้วย โหมดการขับขี่ 3 โหมด (ECO / NORMAL / SPORT)  ติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense มีระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) มีระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) มีระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams) และมีระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert with Steering Assist)

และนี่ก็คือข้อมูลที่น่าสนใจของรถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่าง Toyota C-HR EV ที่เราอยากนำเสนอให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ โดยรถยนต์รุ่นนี้จะมีให้ได้เลือก 5 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้นที่เพียง 225,800 – 249,800 หยวน หรือประมาณ 1,030,000 – 1,140,000 บาทเท่านั้น แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย แต่เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในจีนเรียบร้อยแล้ว  

Text – Sujate Wanchat

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save